Chevrolet โตต่อเนื่องเปรยรัฐขึ้นค่าแรงเสี่ยงอนาคตอุตฯยานยนต์
ค่ายรถยนต์สายพันธุ์อเมริกาเผยยอดขายยังสดใส 6 เดือนแรกโต ถึง 72 เปอร์เซ็น เปรยเห็นด้วยกับค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นเรื่องขึ้นค่าแรงขั้นต่ำย้ำคิดให้ดีอาจเสี่ยงเสียยอดส่งออก พร้อมเสนอนโนบายรถเก่าแลกใหม่ดีกว่าช่วยคนซื้อรถคันแรก
นายมาร์ติน แอพเฟิล ประธานกรรมการ บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส เซาท์อีสท์ เอเชีย โอเปอเรชั่นส์ บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด และ บริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาเชฟโรเล็ตเติบโตแข็งแกร่งทั้งในประเทศไทยและภูมิภาคเอเซยตะวันออกเฉียงใต้ โดยในประเทศไทยตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมาการเจริญเติบโตกว่า 72 % และในเดือนที่ผ่านสามารถเติบโตได้ 47 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวของปีที่ผ่าน
นายมาร์ตินกล่าวต่อไปว่า สำหรับนโยบายการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็น 300 บาท ของรัฐบาลชุดใหม่นั้น รู้สึกเห็นด้วยกับการให้สัมภาษณ์ของค่ายรถยนต์โตโยต้าก่อนหน้านี้ และถ้าดูให้ดีจะเห็นว่า Toyota Vigo ใหม่มีการขึ้นราคาไปแล้วประมาณ 4 % จากรุ่นก่อนหน้านี้ ซึ่งสำหรับเชฟโรเล็ค โคโรลาโดใหม่นั้นยืนยันว่าจะไม่ขึ้นราคาจำหน่ายเมื่อเทียบกับรุ่นปัจจุบัน
"การที่รัฐบาลออกมาประกาศขึ้นค่าแรงขึ้นต่พนั้นถือเป็นเรื่องที่ดีที่ประชาชนจะมีรายได้เพิ่ม แต่รัฐก็ควรต้องมองในภาพรวมด้วย เพราะถ้าค่าแรงเพิ่มต้นทุนเพิ่ม ผู้ผลิตก็ต้องเพิ่มราคาจำหน่ายตาม ซึ่งอาจจะทำให้เสียหายได้ต่อภาพการส่งออกยานยนต์"
อย่างไรก็ดี สำหรับนโยบายภาครัฐที่เตรียมจะมีการผลักดันช่วยเหลือผู้ซื้อรถคันแรกนั้น นายมาร์ตินกล่าวว่า เรื่องนี้ทาง chevrolet อยากฝากข้อเสนอแนะว่ารัฐควรมองเรื่อง Fleet Modernization หรือรถเก่าแลกรถใหม่ ซึ่งจะทำให้เป้นการกระตุ้นยอดจำหน่ายรถยนต์ในประเทศ และช่วยเพิ่มการรักษาสิ่งแวดล้อง ซึ่งรัฐจำเป็นต้นทำให้ยอดขายนั้นมีความยั่งยืน และในส่วนของภาษีไอเสีย หรือ CO2 Tax ก็น่าจะมีความโปร่งใสและมีกฏเกณฑ์ที่ชัดเจน
ด้านนาย ครรชิต ไชยสุโพธิ์ ผู้อำนวยการนโยบายรัฐกิจ ประจำประเทศไทย และภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า การเพิ่มค่าแรงชั้นต่ำนั้น รัฐควรต้องมองทั้งโครงสร้าง ซึ่งแนวทางรถเก่าแลกรถใหม่นั้น จะช่วยให้ผู้บริโภคมีทางเลือกไม่จำกัดและยังเป็นประโยชน์ต่อทุกคน ซึ่ง แนวคิดของรัฐนั้นดีแล้ว แต่อยากให้นำเสนอแนวคิดเพิ่มเท่านั้น
Sanook! Auto Comment
ถือเป็นแนวคิดที่น่าสนใจสำหรับรถเก่าแลกรถใหม่ที่มีหลายประเทศใช้โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว วึ่งจะมีการบังคับให้คนเปลี่ยนรถเป็นประจำ เพื่อความประหยัดที่มากขึ้น เช่นเดียวกับสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้น