MG3 ช่วงล่างแน่น ขับสนุก ถ้าเข้าใจ
หลังจาก บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัดปล่อยรถยนต์ Hatchback MG3 คันเล็กสีสันสดใส ออกสู่ตลาดได้ไม่นาน ลูกค้าวัยรุ่นเริ่มหันมาสนใจ วันนี้ทีมงาน GPI NEWS ได้มีโอกาศไปทดสอบเจ้า MG บนเส้นทางกรุงเทพฯ-พัทยา เพื่อพิสูจน์ความสนุกสนานในการขับขี่ในสไตล์ของเอ็มจี กับช่วงล่างที่แข็งแกร่ง และความพิเศษของอุปกรณ์และระบบความปลอดภัยแบบเต็มๆ
งานนี้มีการทดสอบกันที่สนามบินหนองค้อตามสถานีที่ทางเจ้าหน้าที่ของ เอ็มจี ได้จัดเตรียมไว้ให้ โดยจะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ การขับสลาลอมแล้วกลับรถ ขับกลับมายังจุดสตาร์ตแล้วเบรกให้รถหยุดนิ่งในพื้นที่ๆกำหนด อีกส่วนเป็นการทดสอบระบบความปลอดภัยต่างๆ ของรถโดยขับรถออกจากจุดสตาร์ตกดคันเร่งเต็มที่แล้วเบรกเมื่อถึงจุดที่กำหนด ความเร็วจะได้ประมาณ 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กลับรถเข้าสู่สถานีสลาลอม ต่อเนื่องด้วยโค้งแคบซ้ายและขวา ทดสอบช่วงล่างและระบบช่วงการทรงตัวต่างๆ
รูปลักษณ์ภายนอกสดใสน่ารัก แต่แอบแฝงความแข็งแกร่งแบบสปอร์ต ไฟหน้ารมดำรับกับกระจังหน้าได้อย่างลงตัวดูสปอร์ต กันชนหน้ามีไฟ LED เพิ่มความหรูหราให้ตัวรถ มิติตัวถังมีความยาว 4,018 มิลลิเมตร กว้าง 1,728 มิลลิเมตร สูง 1,517 มิลลิเมตร ความกว้างล้อหน้า / หลัง 1,505 / 1,493 มิลลิเมตร ระยะต่ำสุด 158 มิลลิเมตร ฐานล้อ 2,520 มิลลิเมตร
ภายในเน้นความสปอร์ตด้วยโทนสีดำ ตัดกับการตกแต่งด้วยสีเงิน วัสดุที่ใช้ในการประกอบถือว่าดีครับใช้ได้ การออกแบบโดยรวมเน้นความเรียบง่ายอาจจะดูจืดๆไปนิดแต่ก็พอรับได้ครับ สวิตช์ล็อกประตูที่อยู่รวมกับสวิตช์แอร์ ช่องเชื่อมต่อ USB และ AUX อยู่ที่คอนโซลกลางด้านบนที่มีฝาปิดดูเรียบร้อย และสวิตช์ไฟฉุกเฉินกับสวิตช์เปิด-ปิดระบบ TCS ที่ย้ายมาติดตั้งอยู่แถวเบรกมือ ที่วางแก้วน้อยไปนิด น่าจะมีเพิ่มอีกซะหน่อย โดยรวมแล้วก็พอไปวัดไปวาได้ครับ ไม่แย่มากเท่าไหร่
MG3 ทำตลาดในเมืองไทยทั้งหมด 3 รุ่นหลัก คือ C ราคา 479,000 บาท, รุ่น D ราคา 509,000 บาท และ X ซึ่งเป็นรุ่นสูงสุด ราคา 559,000 บาท ส่วนเบาะหลังแม้ตัวรถจะมีความยาวเพียง 4,018 มิลลิเมตรแต่ด้วยการออกแบบฐานล้อให้มีความยาว 2,520 มิลลิเมตร เมื่อเลื่อนเบาะหน้าฝั่งผู้โดยสารไปด้านหน้าเล็กน้อย ผู้โดยสารด้านหลังที่มีความสูงกว่า 170 เซนติเมตรก็นั่งได้สบายพอสมควร ศีรษะไม่ติดเพดานเพราะเป็นรถทรงท้ายตัด หลังคาตัดลงตรงๆ ไม่ลาดเอียงแบบรถซีดาน ห้องโดยสารกว้างขวางเกินตัว ผู้ชายตัวค่อนข้างใหญ่นั่งกัน 3 คนได้สบายไม่อึดอัด
เครื่องยนต์เดียวกันแบบเบนซิน 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว VTi-TECH ระบบแปรผันวาล์วคู่ ความจุ 1,500 ซีซี กำลังสูงสุด 106 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 13.75 กก.-ม. ที่ 4,500 รอบต่อนาที รองรับแก๊สโซฮอล์ E85 ถังน้ำมันจุ 45 ลิตร
ระบบส่งกำลังเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของรถรุ่นนี้ ที่เป็นแบบเกียร์ธรรมดาพร้อมคลัตช์อัตโนมัติมีชื่อว่า SeleMatic มีจุดเด่นที่มีการสูญเสียกำลังในระบบเกียร์น้อยกว่าเกียร์อัตโนมัติทั่วไป จึงมีความเหมาะสมกับเครื่องยนต์ขนาดเล็ก และสามารถเลือกโหมดการขับได้ แต่คงต้องเรียนรู้ และศึกษาวิธีการขับเกียร์ประเภทนี้ก่อนถ้าคุณไม่เคยสัมผัสรถเกียร์ธรรมดามาก่อน ถึงจะขับสนุก นุ่มนวล ไม่กระตุก กระชาก เพราะตำแหน่งการเลื่อนเกียร์ไม่เหมือนกับรถทั่วไปที่เราคุ้นเคย
มันไม่มีเกียร์ P เพราะเป็นระบบเกียร์ธรรมดา เมื่อจอดรถต้องดึงเบรกมือไว้เพื่อป้องกันรถไหล ผู้ขับส่วนใหญ่จะคุ้นเคยกับการดึงเกียร์ลงมาเพื่อเข้าเกียร์ D เดินหน้าแต่เจ้าคันนี้ถ้าดึงคันเกียร์ลงมาจากตำแหน่ง N จะเป็นเกียร์ R มันถอยหลังแทนที่จะเดินหน้า ดังนั้นช่วงแรกที่ขับรถรุ่นนี้ต้องระวังนะครับ
เราเริ่มต้นที่โรงแรม โซฟิเทล โซ แบงค็อก ออกมารถค่อนข้างเยอะ แถมผมยังไม่คุ้นกับเกียร์ซะเท่าไหร่ เลยกระตุก กระชาก เหมือนคนขับรถเกียร์ธรรมดายังไม่คล่อง แต่ต้องยอมรับว่ามีความคล่องตัวสูงมาก ขับง่ายสบาย ขับมาได้สักระยะเริ่มชินกับเกียร์ และเปลี่ยนโหมดการขับเป็นแบบเปลี่ยนเกียร์เองความสนุกก็เริ่มขึ้น จังหวะเหมือนการขับเกียร์ธรรมดาทุกอย่าง เมื่อรอบได้เปลี่ยนเกียร์ต้องยกคันเร่งนิดนึง รถจะสมูท นุ่มนวล เครื่องยนต์ 1,500 ซีซี 106 แรงม้า ขับสนุกมากครับ อัตราเร่งแรงทำได้อย่างน่าพอใจ
การเร่งแซงก็ทำได้แบบรวดเร็วทันใจ ความเร็วไปแตะ 150 ได้แบบไม่อยากเย็นนัก ขับสนุกจริงครับ ( ถ้าใช้เกียร์เป็นนะครับ ) อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 15.2 กิโลเมตรต่อลิตร MG3 ใช้ระบบกันสะเทือนหน้าอิสระ แม็กเฟอร์สันสตรัต พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังทอร์ชันบีมรูปตัว U คว่ำ รับแรงบิดได้สูง รับแรงกระแทกได้ดี และมีความทนทาน ช่วงล่างนุ่ม หนึบ สามารถรองรับแรงกระแทก แรงสะเทือนได้ดี จั๊มคอสะพานที่ความเร็วสูงได้แบบสบาย หนึบ แน่น จริงๆ เค้าโค้งแคบ ซ้าย-ขวาด้วยความเร็วรถยังคงนิ่งไม่อาการโคลงให้ได้สัมผัส ขอชมเลยครับช่วงล่างดีจริง
ระบบเบรก แม่นยำ หยุดได้ทันใจ และเบรกได้นุ่มนวล พวงมาลัยเพาเวอร์ไฮดรอลิกปรับความหนืดมาพอเหมาะไม่เบาหวิว โดยเฉพาะในช่วงขับสลาลอมควบคุมรถได้ง่ายและมั่นใจ ตัวรถไม่โคลงไม่เหวี่ยงมากเมื่อขับโยกซ้าย-ขวาต่อเนื่อง จึงขับได้ง่ายและไปได้เร็ว
อุปกรณ์ด้านความปลอดภัยมีให้ครบในทุกรุ่นย่อย เช่น ABS, EBD, BA, CBC-Curve Brake Control ควบคุมการเบรกในโค้ง, ESC, TCS, HAS-Hill Start Assist System, MSR-Motor Control Slide Retainer ป้องกันการลื่นไถลเมื่อเปลี่ยนเกียร์ลงต่ำฉับพลัน มาพร้อมแอร์แบ็กคู่หน้า แกนพวงมาลัยยุบตัวได้ และกุญแจป้องกันการโจรกรรม Immobilizer รุ่นสูงสุดเพียบพร้อมด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกเช่น ไฟหน้าเปิด-ปิดอัตโนมัติ, ที่ปัดน้ำฝนอัตโนมัติ และซันรูฟไฟฟ้า
เจ้า MG3 แฮทช์แบ็กขนาดเล็ก ภายในกว้างขวางนั่งสบาย ระบบช่วงล่าง แน่น หนึบ เครื่องยนต์ ขับสนุก อาจจะต้องใช้เวลาในการปรับตัวเข้าหารถถึงจะขับได้อย่างนุ่มนวลได้ดังใจ ถ้าใครชอบขับเกียร์ธรรมดา ผมแนะนำเลยครับ แต่ถ้าอย่าขับสบายๆแบบออโต้ทั่วไปผมว่าไปลองขับดูก่อนครับว่ารับได้หรือเปล่า
เรื่อง : ณัฐพล เดชสิงห์
เรียบเรียงข้อมูลโดย www.gpinews.com
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th