เอ็ม - อรรถพล ประกอบของ ก็เพราะหัวใจของผมมันชอบความแรง

เอ็ม - อรรถพล ประกอบของ ก็เพราะหัวใจของผมมันชอบความแรง

เอ็ม - อรรถพล ประกอบของ  ก็เพราะหัวใจของผมมันชอบความแรง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จากที่หลายคนเห็นมาดหนุ่มคนนี้ ในฐานะเดอะสตาร์ ค้นคว้าดาวปีที่ 2 แถมมีอัลบั้มเพลงของตัวเองออกมานับไม่ถ้วน แต่อีกด้านหนึ่งนอกจากการร้องเพลง แฟนคลับมักจะได้เห็นเอ็มในบทบาทของการเป็นนักแข่งรถอยู่บ่อยครั้ง พูดง่ายๆ ก็คือ ชีวิตของหนุ่มเอ็มมีความสุขอยู่กับการร้องเพลง และยังสนุกกับการแข่งรถเป็นชีวิตจิตใจ เชื่อ-ไม่เชื่อ เรื่องการแข่งรถเนี่ย หนุ่มเอ็มหมกหมุ่นมันมาก่อนที่จะเป็นเดอะ สตาร์ ซะอีก จนตอนนี้เขาได้ทำรายการทางทีวี เป็นรายการมอเตอร์สปอร์ต โดยเป็นทั้งโปรดิวเซอร์และพิธีกรรายการ ชื่อว่า " Max TV" ทางช่องทรู speed channel 72

รายการนี้จะมีช่วงต่างๆ ช่วงที่น่าดู คือช่วง Max drive ที่มีรถ super car สวยๆ มาทดสอบโดยกูรูทางด้านแข่งรถ และมีการ battle กันอีกด้วย

"เรื่องรถมันก็คงเป็นความชอบส่วนตัวของแต่ละคนครับ มันเป็นกีฬาเกี่ยวกับความเร็วที่ทำให้สนุก และรู้สึกตื่นเต้น เป็นสิ่งที่ท้าทายตัวเอง อยากเอาชนะตัวเองให้ได้อะไรอย่างนี้ คือถ้าชนะตัวเองได้ มันจะดีกว่าเราเอาชนะคนอื่น" หนุ่มเสียงดีบอกกับเราอย่างนั้น

เอาล่ะ ไปตามติดเรื่องราวของหนุ่มเสียงดี เอ็ม เดอะสตาร์ 2 กันต่อได้เลย

จุดเริ่มต้น

"ผมชอบรถมาตั้งแต่เด็กแล้วคับ คือชอบมาจากตอนเล่นรถของเล่น TAMIYA รถบังคับอะไรอย่างนี้ แต่พอโตขึ้นมาก็ได้ไปลองขับรถโกคาร์ท แต่ไม่ได้ไปลงแข่ง แค่ชอบ ก็เลยเก็บตังค์ลองขับเล่นดู เสร็จแล้วก็รู้สึกอยากแข่งรถขึ้นมาอีก ก็เลยแข่งขันจิมคาน่า (Gymkhana) ที่เชียงใหม่ จิมคาน่าเป็นกีฬาแข่งรถเหมือนแข่งในสนามจริงๆ แล้วก็มันต้องใช้ทุนทรัพย์ของเราเองซึ่งใช้ทุนทรัพย์ไม่เยอะ เลยเซอร์วิสตัวเอง ก็ต้องดูแลทุกอย่างเอง เปลี่ยนโชค เปลี่ยนล้อ เปลี่ยนเครื่อง ปรับอะไรเอยเองทุกอย่าง

ถ้าพูดถึงการเข้าแข่งจริงๆ จังๆ ก็ประมาณ 10 ปีที่แล้ว แข่งก่อนจะมาเป็นเดอะ สตาร์ ครับ ประมาณ 4 ปีได้ คือเอาเป็นมืออาชีพประมาณสัก 7 ปีดีกว่า ถ้าเป็นแบบสมัครเล่นก็ 3 ปี แรกๆ มันเริ่มจากความตั้งใจของเราเลย คือเราฝันอยู่แล้วว่าอยากเป็นนักแข่ง ตั้งแต่ตอนสมัยเด็กๆ แต่คิดว่าเราคงเป็นได้แค่นักแข่งรถสมัครเล่นอะไรอย่างนี้ครับ ก็ค่อนข้างจะเริ่มต้นมานานอยู่เหมือนกัน ตอนแรกที่ผมแข่งเป็นที่เซอร์กิตก่อน แล้วค่อยมาแข่งดริฟต์รถทีหลัง แข่งเซอร์กิตก็ 4 ปี กว่าๆ แล้วค่อยมาเป็นแข่งดริฟต์ครับ"

สู่มืออาชีพ

"ตอนเป็นมืออาชีพเนี่ย คือตอนแรกก็ไปยื่นใบสมัครสมัครตามปกติ ไปขอที่ ป.ต.ท.เดินไปยื่นเองเลย คือก็ทำตัวเหมือนกับนักแข่งทั่วไป ที่เขาเวลาจะไปขอสปอร์นเซอร์อะไรอย่างนี้ คือการจะเป็นนักแข่งมืออาชีพอย่างแรกเลยคือ เราต้องขอสปอร์นเซอร์ก่อน ไม่งั้นเดี๋ยว โห...ไม่มีงบประมาณพอ (หัวเราะ) คือตั้งแต่ตอนแรกเราก็ลงเงินตัวเองค่อนข้างเยอะเหมือนกัน คือที่เขาให้มาตอนแรกเนี่ย ก็เป็นสิ่งของมั่ง เป็นเงินจำนวนหนึ่งมั่ง แต่ก็ไม่ได้ซับพอร์ตทั้งหมด เราก็ต้องควักเงินตัวเองไปด้วย

และถึงตอนนี้เราก็ต้องศึกษาเกี่ยวกับเรื่องรถ ไม่ใช่ว่าอยู่ดีๆ ก็เดินขึ้นไปแข่งได้เลย คือมันก็ขับได้แหละ ถ้าเกิดรถมีปัญหาขึ้นมา เราจะได้รู้ว่าอาการแบบนี้มันเกิดจากอะไร แล้วเราต้องประคองรถยังไงให้มันจบการแข่งให้ได้ ซึ่งบางทีการขับรถมันก็คือการแก้ปัญหาด้วย ว่ารถเป็นยังไง เราก็ต้องคุยกับช่าง ต้องขอความรู้กันอยู่ตลอดเวลา คือเราก็ต้องรู้ให้หมด ผมก็เป็นปกติอยู่แล้ว ผมก็คลุกคลีกับพวกนี้ ไม่มีอะไรที่แบบว่าไม่ได้ไปยืนดูเฉยๆ ผมก็ลงมือเองด้วยครับ"

รางวัลแห่งความมุ่งมั่น

"รายการที่แข่งแล้วภูมิใจ ก็คงเป็นรายการแข่งรถของ Honda Club Race ในปี 47 ก็ได้ที่ 1 มาเลย แต่ตอนแรกที่ไปก็ไม่ค่อยได้ซ้อม ซ้อมครั้งนึงแล้วลงแข่งเลย ก็ได้แชมป์ครั้งแรกไป พอไปครั้งที่ 2 ก็ได้แชมป์อีก หลังจากนั้นเราก็เทิร์นโปรไปแข่งรายการที่ใหญ่ขึ้น เพื่อที่จะได้เป็นมืออาชีพ ก็มีทั้งได้แชมป์บ้าง ได้รองแชมป์บ้าง ได้ที่ 3 บ้าง ในช่วงแรกๆ ที่เริ่มไปแข่งรุ่นที่ใหญ่กว่า เริ่มเทิร์นโปรประมาณ 2 - 3 สนามแรกก็ยังเหมือนคลำทางไม่เจอ คือมันยากขึ้น รถมันแรงขึ้น ก็ต้องเตรียมตัวให้พร้อมแบบพลาดไม่ได้เลย นิดเดียวก็ไม่ได้

ตอนนี้ผมก็แข่งอยู่ระดับประเทศอยู่แล้ว ที่ผ่านมาที่ไปแข่งหลายๆ รายการ ก็เคยได้ถ้วยได้ที่ 1 บ้าง ที่ 2 บ้าง หรือว่าอะไรบ้าง มันก็เป็นสิ่งที่เราโอเค ฝีมือเราพัฒนามากขึ้น และในประเทศเราก็มีโอกาสได้แข่งอยู่บ่อยๆ คือปีที่แล้ว ก็มีโอกาสได้แข่งในระดับเอเชียมา ก็ไปแข่งที่สิงคโปร์และมาเลเซีย และปีนี้ก็จะไปอีก ไปที่แข่งที่สิงคโปร์ครับ เป็นฟอมูล่า ดริฟท์ เอเชีย ก็มีนักแข่งเก่งๆ เป็นถึงแชมป์จากทั่วโลก มีทั้งแชมป์เอเชีย รวมถึงแชมป์อเมริกา คิดว่ารายการนี้คงรวมนักแข่งๆ ไว้มากมาย ถือเป็นเรื่องที่ดีที่เรามีโอกาสได้เข้าแข่งขัน"

เพื่อนซี้จอมลุย

"เอาเป็นรถแข่งดีกว่า เมื่อก่อนก็จะมีรถหลายคัน ตอนนี้เหลือคันที่ตั้งใจทำที่สุด และรักที่สุดอยู่คันหนึ่ง เป็น NISSAN SILVIA S14 (ปี95-98) เป็นรถแข่งดริฟท์ ก็เริ่มทำมาแบบประมาณ 2 ปีกว่า ตอนนี้ก็ใช้แข่งไปด้วย มันก็เป็นรถที่เราลงทุน ลงแรง ลงใจไปเยอะ รูปลักษณ์ของมันคือ เป็นรถสปอร์ต 2 ประตู คือรถ NISSAN SILVIA มันจะมีเจเนอเรชั่นของมัน มีตั้งแต่ S13, S14, S15 คือรุ่น S14 จะอยู่ในเจเนอเรชั่นที่ 2 งานก็จะต่างไปคนละแบบ บางคนอาจจะชอบรถใหญ่ๆ บางคนอาจจะชอบรถแบบดุดัน ผมก็เป็นคนชอบรถที่มีสไตล์โหดๆ ดุดัน หน่อย รถผมสีดำล้วน ก็ค่อนข้างจะแต่งสไตล์แบบว่า มีชุดพาร์ดที่มันดูใหญ่ๆ

ส่วนเครื่องก็เป็นเครื่องเดิม SR-20 TUBO ขยายความจุจาก 2,000 CC. เป็น 2,200 CC. เสร็จแล้วเราก็เปลี่ยน TUBO โมดิฟายขึ้นมาให้แรงม้าอยู่ประมาณ 500 กว่าแรงม้า มีระบบไนตรัสออกไซด์ในเครื่องยนต์ ที่มันฉีดแล้วจะแรงขึ้นไปอีก คือถ้ามันฉีดขึ้นมาจาก 500 แรงม้า ก็จะเป็น 550 แรงม้า รถก็จะแรงขึ้นเร็วขึ้น ล้อก็จะเป็น 18 นิ้ว ทั้งด้านหน้า และด้านหลัง ยางที่ใช้ก็จะเป็นยาง Hankook น้ำมันที่ใช้ ปตท.ครับ ก็ทำเต็มที่ โมดิฟายทุกอย่างที่ทำ แต่ถ้าให้ลงรายละเอียดมันก็เยอะนะ คันนี้จะใช้แข่งในปัจจุบันเลย ถ้าแฟนคลับ หรือใครอยากเห็นรถ NISSAN SILVIA S14 ก็สามารถไปดูไปเชียร์กันได้ตามสนามแข่งนะครับ"

รถแข่งต้องดูแลเป็นพิเศษ

"เรื่องสมรรถนะนี่ ผมให้ความสำคัญมากที่สุด คือก่อนแข่งและหลังแข่งทุกครั้งต้องมาตรวจเช็คว่า อะไหล่หรือของที่เรามีอยู่มันอยู่ในสภาพเดิมรึเปล่า น้ำมันเครื่องก็อาจจะต้องถ่ายบ่อยหน่อย เพราะรถแข่งมันใช้ความร้อนรอบที่สูงกว่ารถบ้านปกติ และเรื่องพวกอะไรที่มันหมดอายุเราก็ต้องเช็คมันบ่อยๆ ส่วนเรื่องสีรถก็ดูแลความสวยงามเหมือนกัน เหมือนคนมาถ่ายรูปอะไรอย่างนี้ เราก็อยากให้มันประทับใจคนดู ต้องมีทั้งความแรงและความสวยด้วย"

อยากเป็นนักแข่งมือโปรจะต้อง

ถ้าอยากแข่งรถก็ต้องศึกษา เดี๋ยวนี้ผมว่าศึกษาได้ไม่ยากแล้วนะ ในอินเตอร์เน็ตมันมีอะไรที่เหมือนเป็นครูเราได้อย่างดีเลยละ เราก็ต้องไปดูตามใน Youtube ก็ได้ หรือจะลองเสิร์ชตามอินตอร์เน็ตว่าวิธีการเริ่มต้นเป็นยังไง ที่สำคัญหากเราจะแข่ง เราก็ต้องไปซ้อมในสนามอย่างถูกต้อง อย่าไปซ้อมบนถนน ถ้าจะเริ่มดริฟต์ก็ให้ไปหารถมาคันหนึ่งที่ขับหลัง มีแรงม้าพอประมาณ การเซตติ้งก็ให้คนที่มีความรู้พอประมาณมาช่วยดู เพราะมันก็เหมือนกีฬาทั่วไปที่ต้องมีเทรนเนอร์ จะช่วยให้เราพัฒนาได้เร็วขึ้น

สำหรับคนที่สนใจจริงๆ ถ้าหากเจอผมก็สามารถมาถามได้ ถ้าอยากแข่งต้องทำยังไง ผมช่วยแนะนำได้ครับผม นอกจากนี้ก็สามารถไปดูเจ้ารถคันนี้ ที่สนามดริฟต์ได้ทุกสนาม หรือจะเข้าไปดูในเฟซบุ๊คของผมเองก็ได้ที่ www.m-fanclub.com, Facebook/M Auttapon Prakopkong, Facebook/MAX TV และ, Facebook/PTT motorsport อันนี้ก็จะมีรถของผม และรถของนักแข่งคนอื่นๆ ด้วยครับ

 

ทันทุกข้อมูลก่อนใครบน FB..แค่คลิ๊กที่นี่เลย

อัลบั้มภาพ 8 ภาพ

อัลบั้มภาพ 8 ภาพ ของ เอ็ม - อรรถพล ประกอบของ ก็เพราะหัวใจของผมมันชอบความแรง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook