MAZDA 2 ท้าพิสูจน์ความประหยัด กทม.-ภูเก็ต ถังเดียว ไปไกล 919 กิโลเมตร
ช่วงนี้กระแสความประหยัดที่มาแรงในกลุ่มรถซิตี้คาร์ที่ยังไม่นับน้องใหม่อย่าง Eco Car นั้นทำให้หลายคนเริ่มหันมาสนใจรถกลุ่มนี้มากขึ้น แต่คำถามหนึ่งที่สำคัญในเรื่องความประหยัดนั้น ก็คงไม่พ้นว่า หนึ่งถังจะไปได้ไกลกันสักเท่าไร
เมื่อไม่นานมานี้ Mazda ได้ทดลองท้าพิสูจน์ เติมจริงขับจริง โดยสื่อมวลชน ใน Mazda 2 ใหม่เพื่อค้นหาระยะการเดินทางที่ไกลที่สุด โดยกำหนดเส้นทางกรุงเทพมหานคร ปลายทางภูเก็ต พร้อมด้วย สื่อมวลชน 20 ชีวิต ร่วมด้วยช่วยกันเป็นสักขีพยานทางด้านความประหยัด โดยมีข้อกำหนดเดินทางไม่ต่ำกว่า 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และต้องใช้เวลาเดินทางไม่เกิน 14 ชั่วโมงในการใช้น้ำมันในถัง 43 ลิตร เพื่อไปให้ถึงไข่มุกอันดามัน
ทีมสื่อมวลชนเริ่มล้อหมุนออกจาก โชว์รูมมาสด้า สตราดิวารี่ ย่านพระราม 2 ในช่วงเช้าเวลา 08.05 น. ใช้ถนนพระราม 2 เพชรเกษม ปลายทางที่ภูเก็ต ที่ตลอดทางนั้นต้อนรับด้วยสายฝนที่กระหน่ำลมมาตลอดวัน เช่นเดียวกับการจราจรที่คับคั่ง ที่ยังมี คณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ จากบัณฑิตวิทยาลัยวิศวกรรมศาสตร์นานาชาติสิรินธร ไทย-เยอรมัน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ เป็นผู้กำหนดกติกาเงื่อนไขและกฏเหล็กของการทดสอบ ผลปรากฏว่ารถยนต์มาสด้า2 ทุกคัน สามารถขับผ่านสะพานสารสิน ผ่านวงเวียนอนุสาวรีย์ท้าวเทพกษัตริย์ตรี ท้าวศรีสุนทร เข้าสู่จังหวัดภูเก็ต และสามารถทำสถิติใหม่น้ำมันถังเดียว (43 ลิตร) สามารถขับได้ไกลถึง 919 กิโลเมตร
สำหรับข้อกำหนดในการขับขี่ทดสอบประหยัดน้ำมัน ใน Mazda 2 นั้น นอกจากการใช้ความเร็ว เกิน 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แล้วยังต้องปรับระบบปรับอากาศที่ ระดับ 3 ใน 4 และ ความแรงพัดลมเบอร์ 2 พร้อมวัดระดับแรงดันลมยางให้อยู่ในระดับปกติ ตามมาตรฐานในคู่มือรถ คู่หน้า 32 PSI ด้านหลัง 29 PSI ทั้งยัง ห้ามพับกระจกมองข้าง และห้ามเปิดกระจกทุกบาน เดินทางโดยใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล 95 E10 ทุกคัน
การทดสอบในครั้งนี้ถือเป็นอีกหนึ่งครั้งกับกิจกรรมเพื่อความ ซูม-ซูม อย่างยั่งยืน หรือ Sustainable Zoom-Zoom ทั้งยังเป็นการร่วมส่งเสริมนโยบายของภาครัฐ รวมทั้งเป็นการร่วมอนุรักษ์พลังงานและรักษาสิ่งแวดล้อม
นายโชอิชิ ยูกิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า การบันทึกประวัติศาสตร์ในครั้งนี้ทางมาสด้าได้นำเอารถยนต์นั่งสปอร์ตซิตี้Mazda 2 ใหม่ รุ่นแฮตช์แบค 5 ประตู และรุ่นซีดาน 4 ประตู เครื่องยนต์ 1500 ซีซี ให้กำลังแรงม้าสูงสุดถึง 103 แรงม้า จำนวน 6 คัน เดินทางมุ่งลงทางภาคใต้ ซึ่งเป็นเส้นทางสัญจรปกติ ผ่านจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฏร์ธานี พังงา และสิ้นสุดที่จังหวัดภูเก็ต ด้วยการเติมน้ำมันเพียงครั้งเดียวเต็มถังในปริมาตรความจุ 43 ลิตร รวมระยะทาง 798 กิโลเมตรและคันที่ชนะเลิศสามารถวิ่งได้ระยะทางไกลถึง 919 กิโลเมตร ที่สำคัญMazda 2 ทุกคันสามารถวิ่งถึงภูเก็ตด้วยน้ำมันเพียงถังเดียวและยังมีน้ำมันเหลือในอยู่ในถังอีกจำนวนหนึ่ง
นางสาวสุรีทิพย์ ละอองทอง โฉมทองดี ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด กล่าวว่า การบันทึกการขับประวัติศาสตร์ครั้งนี้เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่มาสด้าต้องการสื่อสารกับลูกค้าในยุคดิจิตัล ผู้มีความคาดหวังสูงจากการเลือกซื้อสินค้ามาใช้สอย ต้องการสินค้าที่สามารถตอบสนองความต้องการที่หลากหลายได้ในเวลาเดียวกัน นอกจากสมรรถนะความแรงแล้วMazda 2 ยังสามารถพิสูจน์ให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเป็นรถซิตี้คาร์ที่มีอัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงต่ำ หรือเป็นรถประหยัดน้ำมันนั่นเอง
" แม้ว่าสภาพภูมิอากาศจะมีฝนและลมพายุกระหน่ำตลอดเส้นทาง รวมทั้งการจราจรที่หนาแน่น ซึ่งเป็นถนนที่ประชาชนทั่วไปใช้สัญจร รวมระยะเวลาที่เดินทางในครั้งนี้ประมาณ 14 ชั่วโมง ไม่รวมเวลาแวะพักระหว่างทาง Mazda 2 สามารถวิ่งด้วยน้ำมันเพียงถังเดียว 43 ลิตร ถึงภูเก็ตทุกคัน และที่สำคัญรถทุกคันยังสามารถวิ่งต่อไปได้อีกจนกว่าน้ำมันจะหมดถัง"
สรุปการทดสอบการประหยัดน้ำมันมาสด้า 2 เส้นทาง กรุงเทพ-ภูเก็ต
อันดับที่1 ระยะทางที่วิ่งได้ 919 กิโลเมตร
ระยะเวลาที่เดินทาง 13.078 ชั่วโมง ความเร็วเฉลี่ยตลอดการเดินทาง 60.328 กม./ชม.
อันดับที่2 ระยะทางที่วิ่งได้ 905 กิโลเมตร
ระยะเวลาที่เดินทาง 12.162 ชั่วโมง ความเร็วเฉลี่ยตลอดการเดินทาง 64.875 กม./ชม.
อันดับที่3 ระยะทางที่วิ่งได้ 879 กิโลเมตร
ระยะเวลาที่เดินทาง 13.090 ชั่วโมง ความเร็วเฉลี่ยตลอดการเดินทาง 60.274 กม./ชม.
Sanook! Auto Comment >>> แม้งานนี้เรียนตามตรงว่าเราไม่ได้ไปด้วย แต่จากการพูดคุยแบบออนไลน์จากทีมสังเกตการต้องบอกครับว่างานหินมาก เพราะ ฝนตกตลอดทาง ตั้งแต่ช่วงกลางทาง โดยเฉพาะกลางทางนี่ได้ข่าวว่าตกหนักมาก ซึ่งสภาวะอากาศก็เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ชี้ว่ามาสด้า 2 ยังมีดีที่ประหยัดเช่นเดียวกับสมรรถนะการขับขี่ที่วางใจได้
อัลบั้มภาพ 9 ภาพ