"รถไฟฟ้า" ความฝันการเดินทางยุคใหม่..ที่ใกล้จะเป็นความจริง

แม้ช่วงนี้ในประเทศไทยจะมีความปิติยินดีกับทั่วหน้ากับนโยบายรถคันแรกของรัฐบาลที่ออกมาให้น่าชื่นตาบานจิตใจแจ่มใส จนคนจำนวนมากต่างมาไถ่ถามเสาะหาข้อมูลเพื่อหวังจะได้มีรถยนต์ใช้กับเขาเป้นหน้าเป้นตาหรือเพื่อความสะดวกสบายที่เพิ่มขึ้น

ถึงรถยนต์นั้นจะเป็นสิ่งที่กลายมาเป็นปัจจัยที่ 5 ของชีวิตยุคใหม่ แต่นอกจากความสะดวกสบายและหลากเหตุผลให้คนนั้นซื้อรถแล้ว ปัจจุบันความประหยัด และเรื่องของสิ่งแวดล้อมก็เป็นสิ่งที่หลายคนให้ความสนใจและทางออกในโลกอนาคตที่ยืนยันได้มากขึ้นคือการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าแทนการใช้พลังงานน้ำมันที่แพร่หลายในปัจจุบัน

"รถไฟฟ้า" อาจะเป้นทางออกที่ดีที่สุดในชั่วโมงนี้ แม้จะมีพลังงานอีกหลายอย่างมากมายถูกนำเสนอต่อๆกันมาแต่ความพยายามในเรื่องรถไฟฟ้าทั่วดลกนั้นก็ได้รับความสนใจ และกับบ้านเรานั้นก้คงไม่พ้นค่าย mitsubishi ที่พยายามในการนำรถไฟฟ้าเข้ามาศึกษาหาความเป็นไปได้ในการเข้ามาให้คนไทยได้สัมผัสเทคโนโลยีใหม่ที่อาจจะอีกไม่นาน

เมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมา Mitsubishi ได้มีการจับมือกับการไฟฟ้านครหลวง(กฟน.) และ Encom ในการศึกษาในความเป็นไปได้ในการใช้งานรถไฟฟ้าในประเทศไทย แต่ในขณะที่มีคนในหลายภาคส่วนเองก็ยังมองว่ายังเป็นไปได้ยากไม่ใช่ด้วยเรื่องของทางเทคนิค แต่เมื่อบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่อย่าง ปตท. เป็นบิ๊กพลังงานของประเทศก้าวต่อไปที่ท้าทายย่อมรออยู่

อนาคตที่ไม่อาจจะปฏิเสธของรถไฟฟ้าในอนาคตนั้น ทำให้ล่าสุดเมื่อวันที่ 19 กันยายนที่ผ่าน สถาบันวิจัยและเทคโนโลยี ปตท. บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ได้ร่วมลงนามกับ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) ใน "Memorandum of Understanding on Collaborative Research of Technical Evaluation of Electric Vehicle and Charger" ที่ถือว่าเป็นอีกขั้นของการใก้ลความเป็นจริงของรถไฟฟ้าในประเทศไทย

นายไชยเจริญ อติแพทย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สถาบันวิจัยและเทคโนโลยี ปตท. ให้ข้อมูลว่า การร่วมมือกันของ ปตท. และมิตซูบิชิ มอเตอร์สฯ มีแผนการผลักดันที่จะให้เกิดการใช้รถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย ภายใน 3-5 ปีข้างหน้า ซึ่งจะมีบทบาทสำคัญในการช่วยลดปริมาณการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงและลดมลพิษทางอากาศอย่างมีประสิทธิผล โดยจัดทำโครงการร่วมวิจัยศึกษาความเป็นไปได้ เพื่อประเมินประสิทธิภาพและสมรรถนะการใช้งานเชิงเทคนิคของรถยนต์ไฟฟ้าประสิทธิภาพสูงขนาดเล็ก รุ่น Mitsubishi i-MiEV

การศึกษาในครั้งนี้มุ่งเน้นในเรื่องการศึกษาด้านการสิ้นเปลืองพลังงาน ความเหมาะสมในการใช้งานในประเทศ ระยะทางขับขี่ต่อการชาร์จไฟฟ้าแต่ละครั้ง ที่สำคัญ ปตท. จะนำร่องตั้งสถานีชาร์จไฟฟ้ารถยนต์เพื่อการทดลองเป็นแห่งแรกในประเทศไทย ณ สถาบันวิจัยและเทคโนโลยี ปตท. อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ภายในสิ้นปีนี้

ความร่วมมือดังกล่าว เป็นการเสนอทางเลือกหนึ่งที่ส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนของประเทศในรูปพลังงานไฟฟ้า โดยมีโครงสร้างพื้นฐานทางพลังงานที่มั่นคงรองรับอยู่แล้ว นอกจากนี้ยังเป็นการใช้พลังงานสะอาดในภาคขนส่งอย่างคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพในอนาคต ตั้งแต่ต้นทางที่เป็นแหล่งผลิตพลังงานสู่ปลายทางคือผู้ใช้รถยนต์และยังช่วยลดมลพิษทางอากาศและเสียงอีกด้วย

นาย โนบุยูกิ มูราฮาชิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) กล่าวเสริมว่า มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่นได้ให้ความสำคัญต่อการค้นคว้าและผลิตรถยนต์ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่องมานานกว่า 40 ปี โดยเล็งเห็นถึงประโยชน์ของรถยนต์ไฟฟ้าในการช่วยลดมลพิษทางอากาศ ลดภาวะโลกร้อนและสร้างความมั่นคงทางพลังงาน ซึ่งรถยนต์ไฟฟ้ารุ่น "i-MiEV" สามารถตอบสนองได้ครบถ้วนทุกด้าน

"ความร่วมมือที่เกิดขึ้นกับ ปตท ในวันนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของการนำประเทศไทยก้าวเข้าสู่ยุคสมัยแห่งการใช้รถยนต์ไฟฟ้าและการดำเนินชีวิตที่คำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง รวมทั้งจะเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญของอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยอีกด้วย"

แม้จะยังอีกยาวไกลกว่าที่รถพลังไฟฟ้าจะกลายมาเป็นที่ยอมรับของคนในสังคมไทย ด้วยปัจจัยหลายๆอย่างที่อาจจะทำให้ เทคโนโลยีไฟฟ้ายังไม่เหมาะสมที่จะใช้งานในประเทศไทย ทว่าก้าวเล็กที่เพิ่งเกิดขึ้นนี้ก็เป็นบทพิสูจน์ที่ชัดเจนว่า บิ๊กพลังงานคนไทยก็มองว่าพลังงานทางเลือกอย่างรถไฟฟ้านั้นก็มีส่วนสำคัญ ในการนำพาประเทศไทยให้รุดหน้า และทันสมัย

 

ภาพประกอบ mitsubishi i-mievจาก netcarshow