2013 Audi A4 อวดโฉมรุ่นใหม่คู่ปรับซีรี่ย์ 3
หากกล่าวถึงรถยนต์จากประเทศเยอรมันแล้ว เราหลายคนอาจจะคุ้นกับแบรนด์ค่ายดาวสามแฉก Mercedes Benz หรืออาจจะถูกใจค่ายตราพัดฟ้า BMW แต่ในระหว่างสองค่ายที่หนึ่งเป็นยอดรถหรู อีกหนึ่งวเป็นรถหรูทรงสมรรถนะนั้น ก้ยังมีอีกค่ายหนึ่งที่กำลังก้าวเข้ามาอย่างช้าๆ
สัญลักษณ์วงกลม 4 ห่วงกอดกันเหนียวแน่นคล้ายเครื่องหมายโอลิมปิก จนมีคนไทยหามุขตลกให้ขำกันแก้เครียดกับ "รถน่าเป็นห่วง" นั้น คงไม่ใช่ยี่ห้ออะไรถ้าไม่ใช่ Audi ที่จะเรียกให้ถูกตามหลักภาษาแดนอินทรีเหล็กจะต้องพูดว่า "เอาดี้" และล่าสุดในระหว่างที่คู่แข่งเพิ่งส่งคอมแพ็คคาร์รุ่นใหม่ออกมา ค่ายรถยนต์รายนี้ก็ไม่รอช้าที่สัมทับชนตลาดคอมแพ็คคาร์ที่กำลังซื้อมากพอตัว
Audi A4 ใหม่เป็นความพยายามอีกครั้งในการชิงตำแหน่งของคอมแพ็คคาร์ หลังจากที่เมื่อกลางเดือนที่ผ่านมาค่ายรถยนต์ BMW ได้เปิดเผยโฉมใหม่ของ BMW Series 3 และกำลังจะวางจำหน่ายในอีกไม่ช้า กับรถคอมแพ็คหรูเจ้าสมรรถนะ
A4 ใหม่ ถูกปั้นขึ้นมาเป็นคู่แข่งตัวจริง และมันเป็นรถยนต์ที่ขายดีที่สุดของค่าย Audi กว่า 39 ปี ของการเปิดตัววางจำหน่ายรถรุ่นนี้ A4 สามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้และได้รับความนิยมด้วยยอดขายใน 8 รุ่น ที่กวาดไปกว่า 10 ล้าน คันทั่วโลก
การกลับมาของ Audi A4 โฉมใหม่มีการปรับแต่งเส้นสายให้เข้ากับยุคสมัยมากยิ่งขึ้น เริ่มจากด้านหน้าที่ปรับเปลี่ยนกระจังหน้าให้ดูลงตัวมากยิ่งขึ้น สปอร์ตมากกว่าที่เคย ฝากระโปรงถูกปรับให้มีลักษณะยกสูงยิ่งขึ้นเพิ่มความลู่ลมรับกับเส้นสายใบหน้าด้วยดวงตาคู่ใหม่ ที่มาพร้อมไฟซีนอนจากโรงงาน เติมความหรูหราเล็กน้อยผ่านไฟหน้าซีนอน ที่มีไฟ Day light แบบ LED ผสานไว้ในโคม ที่ต่อเนื่องมายังบั้นท้าย พร้อมไฟท้ายทรงใหม่แบบ LED ดูเต็มตาในความสปอร์ตแต่ยังใส่ความหรูหรามาด้วยไปพร้อมกัน
ในห้องโดยสาร audi A4 ใหม่ นั้น ตอบโจทย์ในความเป็นเลิศทางด้านความหรูหราที่กลมกลืนลงตัวในความสปอร์ตเต็มอารมณ์ ระยะฐานล้อที่กว้างขึ้นมาหยุดที่ 2.41 เมตรในรถ audi A4 ทุกรุ่นให้การตอบสนองเรื่องคุณภาพการโดยสารที่ดีขึ้นพร้อมการตบแต่งที่เริ่มตั้งแต่พวงมาลัยมัลติฟังชั่นแบบใหม่ พร้อมการประดับด้วยโครเมี่ยม ลงตัวกับภายในแบบดำเงาให้ความนุ่มลึกทางด้านการออกแบบ
ห้องสัมภาระด้านท้ายนั้นจุได้เต็มพิกัดมากยิ่งขึ้น โดยในรุ่นซีดานสามารถเก็บสัมภาระได้ 480 ลิตร และสามารถขยายเป็น 962 ลิตรได้เมื่อพับเบาะที่นั่งด้านหลัง เช่นเดียวกับรุ่น All Roader ที่ให้ความจุสะใจถึง 1480 ลิตร ตั้งแต่แรกคลอด
ใต้ฝากระโปรง audi แนะนำขุมพลังมากมายหลากหลายทางเลือกประกอบด้วยเครื่องยนต์ดีเซล 6 รุ่น และเบนซิน 4 รุ่น ที่ทั้งหมดนั้นเติมพลังในสมรรถนะด้วยระบบอัดอากาศจากซุปเปอร์ชาร์จ ยังมาพร้อมระบบหยุดเครื่องยนต์เดินเบาชั่วขณะ
ขุมพลังที่มากมายนี้ในกลุ่มดีเซลที่กำลังเป็นที่ต้องการของตลาดยุโรปนั้น เริ่มตอบโจทย์ลูกค้าด้วยเครื่องยนต์ ดีเซล TDI ขนาด 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 136 แรงม้า และยังสามารถเลือกเวอร์ชั่นเดียวกันแต่มีแรงม้าเพิ่มถึง 163 แรงม้า ให้ทั้งอัตราประหยัดและสมรรถนะสูงสุด
ในกลุ่มเครื่องยนต์ดีเซลยังมีเครื่องยนต์อีกหลายรุ่นโดยในกลุ่ม 4 สูบนั้น ยังให้เลือกตั้งแต่ เครื่อง 120,143 และ 177 แรงม้า โดยในรุ่นสมรรถนะสูงนั้นตอบสนองด้วยขุมพลัง V6 3.0 TDI ให้กำลัง 204 แรงม้า และในเวอร์ชั่นพันธุ์รักโลกจะมีแรงม้ามากถึง 245 แรงม้า แต่ก็ไม่สามารถจับคู่ได้กับระบบขับเคลื่อน Qauttro
ทางด้านฝั่งเบนซินก็มีให้เลือกเล่นอย่างจุใจ โดยเฉพาะเครื่องยนต์ TSFI รุ่นใหม่ ตั้งแต่ขนาด 1.8 ลิตรตอบสนอง 120 แรงม้า และตอบโจทย์ดีสุดในกลุ่มที่ 211 แรงม้า แต่ไฮไลท์นั้นอยู่ที่เครื่องยนต์ 170 แรงม้า ที่สามารถเพิ่มอัตราประหยัดมากกว่ารุ่นเดิมถึง 19 % แต่มีน้ำหนักลดลง 3.5 กิโลกรัม
ในรุ่นใหญ่ของกลุ่มเครื่องยนต์เบนซินนั้น เราจะได้พบกับขุมพลัง V6 ตอบสนองพลังสูงสุด 272 แรงม้า และในตัวท๊อปสปอร์ตกับ Audi S4 จะมีแรงม้า สูงถึง 333 แรงม้า โดยเครื่องยนต์ทั้งหมดสามารถเลือกระบบส่งกำลังได้กลายรูปแบบทั้งเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ และเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด หรือจะเป็นแบบคลัทช์คู่ 7 สปีด ไปจนถึงระบบ CVT ที่จะมีในแต่รถขับเคลื่อนล้อหน้า เท่านั้น
ทั้งนี้ Audi A4 และ S4 ใหม่นั้นจะยังมาพร้อมพวงมาลัยผ่อนแรง electromachinical ที่พิเศษเฉพาะในรถ audi รุ่นใหม่ ในขณะที่กำหนดการวางจำหน่ายนั้นยังไม่มีการเปิดเผยออกมาอย่างเป็นทางการ แต่รถรุ่นใหม่นั้นจะมีราคาจำหน่ายที่แตกต่างจากรุ่นเดิมก่อนหนี้เพียงประมาณ 500 ยูโรเท่านั้น