เช็ครถหลังลุยน้ำท่วม ..เรื่องจำเป็นที่อย่ามองข้าม
ใกล้จะผ่านพ้นไปเต็มทีแล้วสำหรับเหตุการณ์น้ำท่วมประเทศไทย ที่หลายพื้นที่นั้นเริ่มดีขึ้นตามลำดับ และแม้ก่อนหน้านี้เราจะพูดถึงการซ่อมรถที่ประสบภัยพิบัติกันไปหลายต่อหลายครั้ง แต่ใครที่ยังรอดก็อย่าวางใจ โดยเฉพาะขาลุยจิตอาสาที่บุกฝ่าน้ำท่วม
การขับรถลุยน้ำท่วมนั้นพูดกันตามความจริง ก็ต้องเรียกว่ามีแต่เสียกับเสีย แม้รถของเราจะไม่ตายกลางทางรอดออกมาเล่าเรื่องให้เพื่อนๆ ฟังได้ แต่การลุยน้ำท่วมนั้น โดยเฉพาะระดับน้ำที่ลึกเกินกว่าครึ่งล้อรถหรือประมาณ 30 เซนติเมตร ขึ้นไปนั้น อาจจะส่งผลต่อการทำงานของระบบต่างๆได้ ที่แม้จะไม่ใช่เรื่องราวที่เกี่ยวกับเครื่องยนต์โดยตรง แต่เมื่อพ้นช่วงนี้ไปได้ สิ่งต่อไปนี้คือเรื่องที่คุณควรหาเวลาว่างไปตรวจเช็คกันบ้าง
- ระบบเบรค ระบบเบรคถือเป็นอะไรที่สำคัญมาก และน้ำท่วมที่เกิดขึ้น น้ำที่มาดั่งสายธารให้เราลุยกันสนุกสนานนั้นก็ไม่ได้สะอาดอะไรมากนัก หากแต่ปนเปื้อนไปด้วยเศษขี้ผงต่าง ซึ่งสามารถเข้าไปติดขัดได้ในระบบเบรค
อีกประการน้ำอาจจะทำให้ระบบเบรคนั้นเกิดขึ้นความชื้นได้ ทำให้มีประสิทธิภาพลดลงโดยเฉพาะอย่างยิ่งน้ำมันเบรค ที่อาจเสื่อมคุณภาพได้ เช่นเดียวกับหน้าสัมผัสของชุดผ้าเบรคเองที่เกิดจากขี้ผงต่างๆ จนเป็นรอยบนชุดจานเบรค สำหรับระบบดิสเบรค และในส่วนของระบบแบบดรัมเบรคเองก็ต้องตรวจเช็คด้วยแม้จะมีผลกระทบน้อยกว่าก็ตาม - ลูกปืนล้อ หลายคนมักลืมไปว่าชุดล้อรถยนต์ในปัจจุบันประกอบด้วยลูกปืนที่ช่วยอำนวยให้สามารถหมุนได้อย่างอิสระ ซึ่งภายในลูกปืนนั้นจะมีจาระบีคอยหล่อลื่นซึ่งอาจจะมลายหายไปกับน้ำ หรือาจจะเสื่อมคุณภาพเมื่อถูกน้ำ ซึ่งจะเป็นต้นตอของอาการลูกปืนดัง และอาจจะนำไปสู่ลูกปืนล้อแตก ซึ่งบางกรณีเป็นต้นเหตุของอุบัติเหตุร้ายแรงได้เช่นกัน
- เพลาขับและเฟืองท้าย 2 รายการนี้น่าจะทำคู่กัน โดยเฉพาะใครที่ไปลุยแบบน้ำมิดใต้ท้องมานั้นห้ามมองข้ามโดยเด็ดขาด ยิ่งใครที่ก่อนหน้าน้ำท่วม พบว่ามีเสียงดังจากชุดเพลาอยู่แล้วหรืออาจจะไม่เคยดูแลเพลาขับ อาจหมายถึงยางหุ้มเพลาเสื่อมฉีกขาด มีโอกาสน้ำเข้าไปชะจาระบีที่อยู่ภายในสูงพอตัว เช่นเดียวกันในกรณีกระบะ แม้ชุดเพลาจะเป็นคานแข็ง ซึ่งน้องน้ำอาจจะทำอะไรไม่ได้ แต่กับเฟืองท้ายนั้นอาจจะไม่เป็นแบบนั้น ยิ่งใครที่ลุยน้ำระดับสูงเฟืองท้ายอาจจะสุ่มเสี่ยงต่อการน้ำเข้ามา ซึ่งมันสามารถเล็ดเข้าไปให้ในท่อหายใจของน้ำมันเฟืองท้าย ดังนั้นมีโอกาสเปลี่ยนถ่ายของเหลวก็น่าจะดีกว่า
- ระบบปรับอากาศ บางครั้งกลิ่นไม่พึงประสงค์ของน้ำท่วมนี้ติดแน่นทนนานกว่าที่เราคิดพอสมควร โดยเฉพาะเมื่อเราไปลุยบ่อยๆ ก็คงไม่ต้องแปลกใจที่เราจะพบว่ารถของเรานั้นเหม็นสาปน้ำท่วม โดยมากหลายคนไม่นึกถึงข้อนี้ และแม้รถเราจะไม่ได้จมน้ำ แต่กลิ่นไม่พึงประสงค์นี้ก็ไม่ได้ทำให้รถเราต่างอะไรออกไป ฉะยั้ยเมื่อเสร็จสิ้นภารกิจน้ำท่วมอย่าลืม ไปหาโอกาสกำจัดกลิ่นในระบบแอร์บ้าง
- น้ำมันเครื่อง สิ่งสุดท้ายที่เราไม่น่าจะลืมในการตรวจสอบรถหลังลุยน้ำท่วมนั้นก็เป็นเรื่องของเครื่องยนต์ ยิ่งใครลุยน้ำสูงและบ่อยครั้ง ควรเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องเสียแต่เนิ่นๆ เพราะหากน้ำแอบเล็ดเข้าเครื่องไปยังในส่วนของน้ำมันเครื่องอาจจะสามารถสร้างความเสียหายได้อย่างที่คุณคาดไม่ถึงเลยทีเดียว
ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ความจริงแล้วยังมีรายละเอียดปลีกย่อยในส่วนต่างๆมากมายที่หากจะพูดให้หมดคงไม่จบแน่ แต่ที่สำคัญคือควรรีบปฏิบัติตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อจะได้หลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่จะเสียหายต่อชิ้นส่วนต่างๆ ซึ่งคุณอาจจะไม่มีทางทราบจนวันที่มันตายกลางทาง