Sanook! inside : เปิดใจ Chevy ล้างพอร์ทชิงตลาด ปีหน้าหวด B-Car มั่นมัดใจลูกค้า
ในชั่วโมงนี้หากพูดถึงค่ายรถยนต์จากอเมริกาแล้ว Chevrolet ดูจะสร้างสีสันกับตลาดรถไทยได้ไม่น้อย ด้วยการลุกตลาดโดยนำเสนอสินค้าใหม่อย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมาปล่อยคอมแพ็คคาร์ มาเขย่าวงการ กลางปีก็ส่ง รถอเนกประสงค์ลงมา พร้อม นายมอส ปฏิภาณ ปิดท้ายปลายปี ไม่กลัวน้ำส่ง Chevrolet Colorado กระบะใหม่ลงตลาดปิดจ๊อบปี 2554
การเปลี่ยนเกมใหม่ครั้งนี้ของ Chevrolet ทำให้ภาพของ Chevrolet ในสายตาของผู้บริโภคเปลี่ยนไป กลายเป็นรถยนต์ที่ใครก็สามารถเป็นเจ้าของได้ แต่ในปีหน้าค่ายโบว์ไทน์นั้น จะมีผลงานใหม่ๆ อะไรมาให้เราได้ชื่นใจกันอีก ซึ่งเกมการตลาดที่ก้าวหน้าไปอีกขั้นของ Chevrolet ทั้งหมดล้วนเป็นผลงานของคุณ ชาญวิทย์ เขียวนาวาวงศ์ษา Marketing Director ฝ่ายการตลาดของค่าย Chevrolet ที่วันนี้ได้เปิดใจพูดคัยกับ Sanook! Auto อย่างเป็นกันเอง
"เราเปลี่ยนพอร์ทใหม่" ประโยคแรกของการเริ่มต้นสนทนาจากนักการตลาดหนุ่ม ที่มีวิสัยทัศน์ตลาดยานยนต์ "ในปีที่ผ่านมานั้น Chevrolet มีการขยับตัวเองไปอยู่ในตำแหน่งใหม่ในฐานะแบรนด์ระดับโลก หรือ Global Brand โดยตลอดทั้งปี 2011 ที่ผ่านมานั้น Chevrolet ได้ให้ความชัดเจนในรถยนต์รุ่นใหม่ ที่มีเอกลักษณ์เหมือนกันทั่วทั้งโลก หรือ Global Vehicle Identity"
"ถ้ามองตลาดรถยนต์เมืองไทยในปี 2011 และปีก่อนหน้านี้ ตลาดรถยนต์ในประเทศไทย มีการถ่ายโอนจากรถยนต์กลุ่มซิตี้คาร์หรือที่เราเรียกว่า B-Car นั้น ไปอยู่ที่ อีโค่คาร์มากขึ้น ยิ่งมีโครงการรถคันแรกทำให้ช่องว่างทางราคาน้อยลง ส่วนของกลุ่มรถยนต์ขนาดกลางหรือ D-car ก็มีการแบ่งแยกมากขึ้น เป็นทั้งระดับ Premium และระดับ Entry Level ซึ่งปัจจุบัน มีราคาเริ่มต้นราวๆ 1.7 -2.0 ล้านเท่านั้น ในขณะที่ตลาดรถกระบะยังครองส่วนแบ่งรวมถึง 50%"
ปีที่ดีของ Chevrolet ส่วนหนึ่งก็มาจากการฉลองครบรอบ 100 ปี ของการก่อตั้ง Chevrolet ซึ่ง "ในการครบรอบ 1 ศตวรรษนั้น เราก็ส่ง รถรุ่นพิเศษมาลงในงาน Motor Expo 2011 ด้วยการแนะนำ Centennial Edition ใน 3 รถรุ่นยอดนิยม คือ Chevrolet Captiva ,Chevrolet Cruze และ Chevrolet Aveo โดยเน้นในการให้ความพิเศษที่มากกว่า ทั้งหมดจะมาพร้อมสีขาว white metallic และการตบแต่งเสริมความสปอร์ต ที่โดดเด่นและแตกต่างออกไป และเช่นเดียวกันในบูธ Motor Expo 2011 นั้น เรายังให้คอนเซปต์ Future and Beyond the Future ที่ให้ลูกค้าและผู้เข้าชมงานมองไปอนาคตข้างหน้า ทั้ง Chevrolet EN-V ที่สามารถเชื่อมต่อและขับเคลื่อนได้เอง วิสัยทัศน์ของยานยนต์ในปี 2030 และเส้นสายการออกแบบ Chevrolet Mi-ray ที่ออกแบบโดยมีแนวคิดมาจากเครื่องบินรบ"
แล้วปีหน้า Chevrolet จะมีอะไรมานำเสนอ? คุณ ชาญวิทย์ แย้มถึงโปรเจ็คใหญ่ว่า ปีหน้านั้น คงจะเดินต่อในการปรับพอร์ทใหม่มาให้ครบองค์ โดยจะมี รถยนต์ 2 รุ่น มานำเสนอแก่ลูกค้า รุ่นแรก คือ Chevrolet TrailBlazer รถอเนกประสงค์ ที่จะมาวางจำหน่ายในไทยเป็นที่แรก และมีการเปิดตัวไปแล้วที่ดูไบ
ส่วนอีกรุ่นนั้นเป็น Chevrolet Sonic ที่จะเปิดตัวอย่างแน่นอนไม่เกินปลายปีหน้า และครั้งนี้จะมีให้เลือกทั้งรุ่น 4 และ 5 ประตู ซึ่งจะมาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.4 และ 1.6 ลิตร ที่น่าจะมัดใจลูกค้า ด้วยจุดเด่น Global Power train มั่นใจว่าขับสนุกแน่นอน ที่สำคัญยังเป็นรถซิตี้คาร์ที่มีขนาดใหญ่เอื้อในประโยชน์ในสอยต่อลูกค้า
ท้ายที่สุด "เรื่องที่ลืมไม่ได้นั้นก็คงเป็นบริการหลังการขาย" คุณชาญวิทย์กล่าวเสริม ซึ่งในสิ้นปีนี้ Chevrolet จะมีศูนย์บริการครอบคลุมเพิ่มมาอยู่ที่ประมาณ 100 ศูนย์ทั่วประเทศ และน่าจะสามารถตอบโจทย์ได้ เช่นเดียวกับอะไหล่ที่ถูกมองว่ายากนั้น เรามีการรับประกัน ถ้าหาไม่ได้ใน 24 ช.ม. นั้นอะไหล่ชิ้นนั้นให้รับฟรี พร้อมกันนี้เรายังได้มีการรับประกันค่าใช้จ่ายการดูแลรักษา ที่เริ่มใน Chevrolet Colorado ที่กล้าประกันว่า ใน 1 แสนกิโลเมตรแรกจะมี ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาไม่เกิน 19,900 บาท
เมื่อมองอนาคตข้างหน้าจะเห็นได้ว่าในปี 2012 Chevrolet มีแนวโน้มที่จะเดินหน้าต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง ทั้งการนำเสนอรถยนต์รุ่นใหม่ เช่นเดียวกับ การให้ความสำคัญกับลูกค้า และนับว่าค่ายโบว์ไทนนั้นจะมองข้ามไปไม่ได้ ถ้ากำลังมองหารถยนต์รุ่นใหม่ที่ให้อะไรมากกว่า
อัลบั้มภาพ 6 ภาพ