10 รถสุดคุ้มแห่งปี 2011
มาถึงสิ้นปีกันอีกแล้ว จนไม่น่าเชื่อว่าเราจะฝ่างานมาได้กว่า 365 วัน และปีนี้ถือว่าเป็นปีหนึ่งที่สุดหินของค่ายรถยนต์ โดยเฉพาะเหตุการณ์สึนามิที่ญี่ปุ่น และน้ำท่วมที่บ้านเรา ต่างก็ทำให้ให้ปีนี้วงการรถยนต์ขมขื่นจนกลบกระแสไปเสียสนิท
แม้ต้องยอมรับว่าปีนี้รถยนต์ใหม่จะน้อยกว่าที่คิดไปพอสมควร แต่ในช่วงสิ้นปีนี้ เราก็ยังกลับมาจัด 10 อันดับ รถสุดคุ้ม ที่เราขอเรียกว่า Sanook! Auto Top Pick Award และปีนี้ ใครจะได้รางวัลอะไรไปบ้าง มาดูกันเลย
รถอีโค่คาร์สุดคุ้ม (Best Eco Car)
เพิ่งเปิดตัวออกมาอย่างเป็นทางการเมื่อช่วงก่อนน้ำท่วม และมันน่าสนใจด้วยการนำเสนอเรือนร่างใหญ่ในรถยนต์รุ่นเล็กกับ Nissan Almera อีโค่คาร์ 4 ประตูที่มาพร้อมพี่โดมปกรณ์ลัม ด้วยเครื่องยนต์ 1.2 ลิตรแต่ตอบสนองความภูมิฐานในแบบเดียวรถคอมแพ็คคาร์ ความจริงน่าจะให้ชื่อเล่นว่า "Teana ย่อส่วน" ก็ดูจะเข้าท่าเช่นกัน
รถซิตี้คาร์สุดคุ้ม (Best City Car)
ในปีที่แล้วเราให้รางวัลนี้ โดยไม่ได้แยกประเภทใด แต่ปีนี้ เมื่อตัวเลือกมีมากขึ้น เราก็เลยขอแยกเป็น 2 รางวัล ย่อย ระหว่างรุ่น 4 และ 5 ประตู โดยไม่จำกัดพิกัดของเครื่องยนต์
ซิตี้คาร์ 5 ประตู คุ้มค่า
ในรางวัล ซิตี้คาร์ 5 ประตูคุ้มค่า เรายกให้ค่าย Ford เหมือนเดิม กับ Ford Fiesta ที่ยังคงมีราคาที่ตอบโจทย์การใช้งาน มีหลากเทคโนโลยี โดยเฉพาะ voice Control นั้นโดดเด่นที่สุดในตลาด เรือนร่างรถก็ดูทันสมัยลงตัวมาก เมื่อบวกเครื่องยนต์ 1.6 ลิตร ที่ขับได้ดีเยี่ยม เรียกว่าลงตัวทุกด้านกับราคาที่ตั้งมา ถ้ามีโปรโมชั่นโดนๆ คงขายดียิ่งกว่านี้อีก
ซิตี้คาร์ 4 ประตู คุ้มค่า
ด้านรางวัลใหม่ ซิตี้คาร์ 4 ประตูยอดเยี่ยมนั้น ตัดสินไม่ยากเห็นกันเกลื่อนบนถนน และเราขอยกให้ กับ Honda City ไป ด้วยเรือนร่างทันสมัย และกับการปรับแต่งในรุ่นไมเนอร์เชนจ์นั้นก็ยิ่งทำให้รถลงตัวมากยิ่งขึ้นกว่า เดิม ในฟังชั่นประหยัด ที่ถือเป็นบทบาทสำคัญของซิตี้คาร์ 120 แรงม้าขับแล้วก็ประทับใจดี กับสมรรถนะ ถือว่าเป็นรถซิตี้คาร์ 4 ประตูที่ลงตัว
รถคอมแพ็คคาร์คุ้มค่า (Best Compact Car)
กลุ่มนี้เรียกว่าตัดสินใจยากสักนิด เพราะเป็นรถที่มีตัวเลือกเยอะมาก จนยากที่จะให้คะแนนแบบฟันธงกันไปเลยว่าใครจะได้รางวัลไป ทว่าเราตัดสินใจกันใน Sanook! Auto จะแยกเป็นพิกัดเครื่องยนต์ ระหว่าง 1.8 และ 2.0 ลิตร ซึ่งน่าจะช่วยให้ง่ายมากยิ่งขึ้น
คอมแพ็คคาร์ 1.8 ลิตรคุ้มค่า
ในปีนี้รถกลุ่มนี้ยังไม่มีการขยับเปลี่ยนแปลงอะไรออกมา และในกลุ่ม 1.8 ลิตรนั้น เมื่อมองภาพรวมแล้ว Chevrolet Cruze ยังคงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในตลาดกับรุ่น LT ที่ให้อารมณ์ภูมิฐานหรูหราในการขับขี่ มีหลายฟังชั่นที่เราไม่เคยจะเห็นในรถยนต์กลุ่มนี้มาก่อนเช่นระบบ Cruise Control ถือว่าเป็นสิ่งที่น่าสนใจ ถ้ากำลังมองหาอะไรใหม่จากรถยนต์คอมแพ็คคาร์ในตลาด
คอมแพ็คคาร์ 2.0 ลิตรคุ้มค่า
ในกลุ่มนี้นั้นยากจะตัดสินใจ และท้ายที่สุดนั้น เราต้องตกลงใจให้รถยนต์ 2 รุ่น เข้าวินไปพร้อมๆกัน ที่หนึ่งคือเครื่องยนต์ดีเซล จาก Chevrolet Cruze ที่ทำออกมานำเสนอได้อย่างลงตัวทั้งสมรรถนะและความประหยัด และยังหรูหราอีกด้วย ถือว่าลงตัวสำหรับใครที่ชอบอะไรที่แตกต่าง
แต่ถ้ากำลังมองหารถยนต์เครื่องยนต์ 2.0 ลิตรในกลุ่ม เบนซิน ปีนี้เฉือนกันไปนิดเดียวกับคู่แข่งสำหรับ Mazda 3 2.0 รุ่นใหม่ที่ออกมาเอาใจตั้งแต่ต้นปี ด้วยการนำเสนอการออกแบบที่สดใหม่ ลงตัวมากยิ่งขึ้น เครื่องยนต์ใหม่ ให้ความสปอร์ตเร้าอารมณ์ยิ่งขึ้น ตอบสนองการขับขี่แบบ Zoom-Zoom
ซีดานกลางคุ้มค่า (Best Mid- Size car)
ปีนี้ในกลุ่มซีดานกลางนั้นไม่ได้มีการขยับเปลี่ยนแปลงอะไรมากมายนัก และเมื่อมองภาพรวมแล้ว Nissan Teana ยังถือว่าเป็นรถที่มีความคุ้มค่าอยู่ ด้วยราคาที่จ่ายไปแต่ได้ความหรู สะดวกสบาย และทันสมัย เช่นเดียวกับความปลอดภัยที่ให้มากกว่าจากรถในระดับเดียวกัน
รถกระบะคุ้มค่า (Best Pick up)
ร้อนแรงจริงสำหรับรถยนต์กระบะในปีนี้ ที่ออกโฉมใหม่มากันแทบหมดแผงเลย เหลือเพียงไม่กี่ค่ายที่ไม่ปรับโฉม ซึ่งยอมรับว่าตัดสินใจยากมาก แต่ท้ายที่สุดแล้วเราก็พยักหน้าลงความเห็นว่า New! Ford Ranger ใหม่ นี่แหละ คือ "กระบะสุดคุ้ม"
เครื่องยนต์ 2.2 ลิตร 150 แรงม้า ถือว่าให้สมรรถนะที่ไม่ธรรมดา เมื่อพ่วงกับระบบเกียร์ 6 สปีด ที่เซทมาอย่างลงตัว ยิ่งเมื่อมองการกับเรือนร่างที่ตั้งใจออกแบบมาเป็นอย่างดีในการทำให้รถมีดีไซน์ที่ดุดันสวยงาม คลุกเคล้ากับวิศวกรรมที่โดดเด่น และภายในที่ออกแบบมาตอบสนองการใช้งานจริง แม้ราคาอาจจะถูกหลายคนว่ามันสูงไปนิด แต่ก็คุ้มที่จะจ่าย เมื่อได้ลองขับและใช้งานจริง
รถอเนกประสงค์คุ้มค่า (Best SUV)
ปีนี้ตลาดรถอเนกประสงค์ก็ระอุไม่แพ้กัน แต่ยังไม่แรงมากนัก นอกจากการส่งรุ่นปรับเล็กของ 2 ค่ายยักษ์ใหญ่ออกมา และ Chevrolet Captiva ก็ชนะใจเราไป เรือนร่างที่สปอร์ตยิ่งขึ้นกว่าเดิม ทำให้รถมีเอกลักษณ์ยิ่งขึ้นมากกว่ารุ่นก่อนหน้า มีการปรับหลายสิ่งหลายอย่าง โดยเฉพาะรุ่นเบนซินที่สามารถรองรับน้ำมันได้ถึง E85 ซึ่งยังไม่มีค่ายไหนทำมาก่อน สมรรถนะการขับขี่นั้นก็ดีเยี่ยมมาก โดยเฉพาะความนิ่มสบายในห้องโดยสาร นั้นลงตัวมากกว่า ที่เราคิดเสียอีก ส่วนจะเลือกอะไรดีระหว่าเบนซินและดีเซลนั้น ก็ขึ้นอยู่กับคุณตัดสินใจเอาเอง เพราะดีทั้งคู่ ขึ้นอยู่กับความชอบ
รถคุ้มค่าทางด้านเทคโนโลยี (Best Technology car)
เปิดตัวมาตั้งแต่ปีที่แล้ว และในปีนี้เราก็ยังคงให้มันคุ้มที่สุดกับเทคโนโลยีชั้นนำที่จะสามารถหาได้ใน Toyota Prius โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของ เครื่องยนต์ไฮบริด ถือเป็นอะไรที่ใหม่มากสำหรับวงการรถยนต์และในอนาคตก็ยังน่าจะเป็นที่นิยม เรียกว่า ซื้อมาไม่มีคำว่าตกรุ่นกันง่ายๆ ซึ่งเมื่อมองราคาที่ 1,190,000 บาท กับความประหยัดและสมรรถนะที่ไปด้วยกันได้อย่างลงตัว มันก็คงคุ้มที่จะหามาติดบ้านสักคันยามเข้าเมือง
รถคุ้มค่าทางด้านความประหยัด (Best Economy Car)
ประหยัดจริงอะไรจริงต้องคันนี้เลยกับ ....Mitsubishi Lancer Ex 1.8 ที่แน่นอนมันคงฟังดูตลก และตำแหน่งนี้ไม่เปลี่ยนไปจากปีที่แล้ว ซึ่งก็ดูจะแหกคอกไปสักเล็กน้อย
ข้อสงสัยว่า Mitsubishi ประหยัดได้ยังไง คำตอบอยู่ที่น้ำมัน E85 ที่สามารถเติมได้ตามต้องการ ถ้าผ่านปั้มบ่อยก็แวะทิ่มเก็บไว้ขับขี่ไม่มีผิดหวังลิตรละไม่ตังค์ ทั้งเรื่องสมรรถนะและราคาที่ต้องจ่าย เชื่อได้เลยว่าคุ้มค่า แถมยังไม่ต้องมาเปลืองหาเงินติดแก๊ส ไม่ต้องรอคิวเติมแก๊ส เครื่องไม่พังในระยะยาว และค่าบำรุงรักษา ก็ไม่ต่างอะไรจากรถทั่วไป
รถสุดคุ้มแห่งปี 2011 (Best 2011 Sanook! Auto top pick of the Year)
ในที่สุดเราก็เดินทางมาถึงรางวัลที่สุดของที่สุดในปี 2011 และปีนี้ รางวัลตกเป็นของ..เป็นของ...(ลุ้นหน่อยๆ) Nissan Almera ..อีโค่คาร์ 4 ประตูใหม่ล่าสุด
เราไม่ได้เลือกรถคันนี้เพราะมันซื้อง่าย แต่เราเลือกมันเพราะ Nissan Almera นั้นตอบโจทย์ได้มากกว่าที่คิด ทั้งในด้านตัวรถที่มีมิติตัวถังไล่กับรถขนาดคอมแพ็คคาร์ แถมยังมีออพชั่นมากมาย โดยเฉพาะรุ่นท๊อปมีระบบ Idling Stop เช่นเดียวกับเกียร์ CVT ที่พบได้ในรุ่นใหญ่ เครื่องยนต์ 1.2 ลิตร ที่ประหยัด และราคาที่สามารถจับจองได้ในงบไม่เกิน 7 แสนบาท นั่นคือเหตุผลว่าทำไม เรามองว่ามันคุ้มค่า เมื่อเทียบกับรถทั้งหมดที่มีในตลาด ซึ่้งก็น่าจะเหมาะสมแล้วและขอแสดงความยินดีกับ Nissan ที่สามารถป้องกันแชมป์ไว้ได้อีกปี
แล้วนี่ก็คือ 10 รถยนต์คุ้มค่าแห่งปี 2011 ที่ปีนี้ Nissan สามารถซิวรางวัลไปได้อีกครั้งในตำแหน่งรถยนต์สุดคุ้มแห่งปี ซึ่งเราเองก็อยากจะฝากย้ำถึงผู้อ่านทุกคนครับ ว่า รถคุ้มค่านั้นไม่ได้มองเพียงราคา และแบรนด์ แต่ต้องมองหลายๆองค์ประกอบสำคัญ ที่ทำให้เราสามารถใช้รถคันนั้นๆ ได้อย่างเต็มความสามารถ..สวัสดี