10 ขุมพลังยอดเยี่ยม 2012 ..ต้นกำลังทรงพลังกับยอดสมรรถนะ

ผ่านมากว่า 365 วัน ละในช่วงส่งท้ายปีนี้ ส่วนใหญ่นั้นก็เป็นเทศกาลของการจัดอันดับ สิ่งที่เกิดขึ้นในรอบปี และเมื่อพูดถึงเรื่องราวของรถยนต์ยนต์นั้น เครื่องยนต์นั้นก็เป็นส่วนหนึ่งที่มีบทบาทสำคัญต่อการเลือกรถว่าจะมีดีในด้านสมรรถนะการขับขี่หรือไม่

เครื่องยนต์ยอดเยี่ยมแห่งปี นั้น เป็นการจัดอันดับที่ทำกันมาทุก โดย Ward's Auto ซึ่งจะมีการจัดอันดับเครื่องยนต์รุ่นใหม่ทั่วโลก ขุมพลังตัวไหน ที่ใช้คุ้มค่าคุ้มราคา ทั้งด้านสมรรถนะและประสิทธิภาพการขับขี่ ซึ่งปีนี้ ก็มี 10 เครื่องยนต์ชั้นนำขึ้นแท่นรับรางวัล ในช่วงงาน Detroit Auto Show

 

อันดับที่ 10 Audi V6 3.0 L TFSI Supercharge

Audi V6 3.0 L TFSI Supercharge

งานนี้ไม่ได้เป็นการจัดอันดับอะไรอย่างเป็นทางการ แต่เป็นการพูดถึงเครื่องยนต์ที่ดีที่สุดในปีผ่านมา ซึ่ง ขุมพลังแรกนั้น เป็นเครื่อง V6 3.0 L TFSI Supercharge ที่ผนวกเอาทั้งความประหยัดและสมรรถนะมาไว้ด้วยกัน ต้นกำลัง 6 สูบ นี้ให้กำลัง 333 แรงม้า ตั้งแต่ 5000-7000 รอบต่อนาที เรียกแรงบิดกว่า 441 นิวตันเมตร ตั้งแต่ 2900-5300 รอบต่อนาที แรงและเมื่อเทียบกำลังที่ได้แล้วเครื่องยนต์ปริมาตร 1 ลิตร ทำกำลังได้กว่า 111 แรงม้า ซึ่งเครื่องยนต์รุ่นนี้ อยู่ใน Audi A6

2.0L N20 Turbocharged DOHC I-4

อันดับที่ 9 2.0L N20 Turbocharged DOHC I-4

 

ขุมพลังบล็อกเล็กกล้ามโตรั้งเข้ามาในอันดับที่ 9 กับ เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ผนวกเทอร์โบชาร์จ ของ BMW Z4 หรือ อาจจะคุ้นเคยใน 528i ที่ให้กำลังสูงด้วยแรงบิด 350 นิวตันเมตร เช่นเดียวกันเมื่อเทียบแล้ว มันให้กำลัง 120 แรงม้า ต่อปริมาตร 1 ลิตร

 

อันดับที่ 8 BMW AG 3.0 L N55 Turbo Charge DOHC i6

 

ขุมพลังบล็อกนี้ พบได้ใน BMW 335i และมันมีดีด้วยการทำสมรรถนะในระดับ 300 แรงม้า รีดแรงบิด 407 นิวตันเมตร ตั้งแต่ 1200-5000 รอบต่อนาที ทั้งหมดเป็นผลงานจากเทอร์โบเดี่ยวช่องคู่ ซึ่งลดอาการรอรอบจากในรุ่นก่อน และตั้งแต่ประกาศรางวัลมาขุมพลัง BMW เป็นหนึ่งในสุดยอดเครื่องยนต์ตระกูลแถวเรียง 6 สูบ ที่ได้รับรางวัลในปี 2007- 2009

 

อันดับที่ 7 3.6L Pentastar DOHC V-6

 

เครื่องยนต์บล็อกนี้ไม่คุ้นในบ้านเรา แต่ขุมพลังชั้นนำบล็อกนี้ อยู่ในรถยนต์ Dodge Avenger ที่มาพร้อมกำลัง 283 แรงม้า ให้แรงบิด 353 นิวตันเมตร ซึ่งเมื่อเฉลี่ยแล้ว มันผลิตเพียง 79 แรงม้าต่อปริมาตรเครื่องยนต์ 1 ลิตร เท่านั้นเอง

 

อันดับที่ 6 2.0L EcoBoost DOHC I-4

ขุมพลังเล็กใจใหญ่ที่ไทยมีแววได้สัมผัสเร็วๆนี้ มาอยู่ในอันดับที่ 6 ซึ่งมันไม่น่าเป็นไปได้ แต่ เครื่อง 2.0L EcoBoost นั้นสามารถชุดกระชาก รถอเนกประสงค์ขนาด 5 ที่นั่ง Ford Edge ได้อย่างไม่น่าเชื่อ ซึ่งนับเป็นความเหลือเชื่อ จากเดิมที่รถระดับนั้นต้องการกำลังจากเครื่องยนต์ 6 สูบ

Ford 5.0 L DOHC V8

อันดับที่ 5 Ford 5.0 L DOHC V8

 

เครื่องยนต์ 8 สูบ คงไม่ใช่ที่คุ้นเคยในบ้านเรานัก แต่เมื่อพูดถึงรถยนต์ที่มีสมรรถนะสูงจากอเมริกา ไม่ว่าใครคงต้องเคยได้ยินเจ้าม้าป่า Ford Mustang ที่พกขุมพลังตัวนี้ให้กำลัง 412 แรงม้า ที่ 6500 รอบต่อนาที รีดแรงบิดสะใจ 529 นิวตันเมตรที่ 4250 รอบต่อนาที และเฉลี่ยแล้วให้กำลัง 82 แรงม้า/ลิตร ถือว่าไม่เลวเลยทีเดียว

 

อันดับที่ 4 GM 2.0L Turbocharged DOHC I-4

 

อาจจะไม่ใช่รถที่จำหน่ายในบ้านเรา แต่เครื่องยนต์ของ GM ใน Buick GS รั้งอันดับที่ 4 ด้วยพละกำลัง 135 แรงม้า ต่อปริมาตรเครื่องยนต์ 1 ลิตร ที่ถือว่าไม่ธรรมดา และมันทำให้เจ้าคุณปู่ทั้งหลาย เข้ากรุไปตามๆกัน ด้วยต้นกำลังยุคใหม่

 

อันดับที่ 3 Hyundai Gamma 1.6L DOHC I-4

 

หลัง 3 ปี ในการชนะใจกรรมการด้วยเครื่องยนต์รุ่นใหญ่ ในปีนี้ Hyndai พิสูจน์แล้วว่าพวกเขามีดีมากกว่าที่เห็นด้วยเครื่องยนต์ Gamma 1.6 ลิตร 4 สูบแถวเรียงใน Hyundai Accent และ Kia Rio ที่มาพร้อมเกียร์ 6 สปีด ซึ่ง Kia rio นั้นเป็นหนึ่งในรถที่คุ้มค่าที่ได้รับการยกย่องในอเมริกา แต่ดูเหมือนในไทย ราคามันจะแพงไปหน่อย

Hyundai Gamma 1.6L DOHC I-4

อันดับที่ 2 Mazda 2.0L Skyactiv DOHC I-4

 

การทุ่มเทสู่ท้องฟ้าที่ขวางกั้น น่าจะเป็นนิยามของเครื่องยนต์ Sky Activ และปีนี้มันก็ไปถึงฝันด้วยการติดเข้ามาในอันดับที่ 2 จากน้ำพักน้ำแรงแห่งการทุ่มเท ซึ่งมันเป็นเครื่องยนต์ที่ให้ประสิทธิภาพที่ดี มีช่วงกำลังที่ใช้งานได้จริงไม่อิงนิยาย ประหยัดระดับ 5.8 ลิตร / 100 กิโลเมตรเมื่อขับนอกเมือง มีราคาราวๆ 7 แสนบาทที่อเมริกา สำหรับรุ่นทัวร์ริ่ง ถือว่าสามารถซื้อหาได้คุ้มค่า ราคาไม่เว่อร์

 

อันดับที่ 1 Infinity 3.5L DOHC V-6 HEV

Infinity 3.5L DOHC V-6 HEV

ชื่อ Infinity อาจจะไม่ใช่อะไรที่คนไทยรู้จักมากมายนัก แต่ค่ายรถยนต์เจ้านี้คือพรีเมี่ยมแบรนด์ Nissan และชนะด้วยเครื่องยนต์ไฮบริด 3.5 ลิตร V6 ขุมพลังบล็อกนี้มาพร้อมระบบมอเตอร์ไฟฟ้า 67 แรงม้า พร้อมแบตเตอร์รี่ที่ให้กำลังได้เต็มประสิทธิภาพทำให้บางครั้งมันสามารถวิ่งในโหมด EV ได้ที่ความเร็ว 113 กิโลเมตร/ชั่วโมง และแน่นอนเมื่อใช้เครื่องยนต์น้อยลงก็สามารถประหยัดได้ถึง 30 ไมล์ต่อแกลลอนอย่างง่ายดาย

 

จาก 10เครื่องยนต์ยอดเยี่ยมในปีนี้ จะเห็นได้ว่า เครื่องยนต์ส่วนใหญ่นั้น เป็นเครื่องยนต์ที่สรรสร้างในประสิทธิภาพการขับขี่มากขึ้นกว่าแค่การให้ความประหยัดที่ตอบสนองเรื่องค่าใช้จ่าย ดังนั้นซื้อรถอย่างมองแค่เรือนร่าง ต้องมองให้ลึกถึงภายในอย่างขุมกำลังด้วย... สวัสดี