Sanook! Ride : 5นาที บน Mitsubishi I-Miev ประสบการณ์นี้ที่ยากจะลืม

Sanook! Ride : 5นาที บน Mitsubishi I-Miev ประสบการณ์นี้ที่ยากจะลืม

Sanook! Ride : 5นาที บน Mitsubishi I-Miev ประสบการณ์นี้ที่ยากจะลืม
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการแล้วกับงาน BOI Fair 2011 ก็ไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมเราถึงพูดว่าปี 2011 เพราะงานนี้เลื่อนมาจากช่วงวิกฤตการณ์น้ำท่วม แต่ท้ายที่สุดการเริ่มต้นปีกับงานมหกรรมใหญ่ๆ ก็ต้องยอมรับว่ามันน่าจะเป็นไอเดียที่ดีไม่น้อยเช่นกัน

งาน BOI Fair นั้นไม่ใช่งานที่เน้นขาย หรือ ลด-แลก แจก แถม แต่เป็นงานที่เน้นโชว์ทิศทางในอนาคตและนวัตกรรมโลกวันหน้า ที่สามารถสัมผัสได้ในวันนี้ และ หนึ่งในหลายๆ นวัตกรรมที่โดเด่นในงานนั้น เห็นที่จะไม่พ้นเจ้ารถพลังไฟฟ้า ที่วิ่ง ฉิวๆไปๆ มาๆ ในงาน

Mitsubishi I-Miev Mitsubishi I-Miev

Mitsubishi ถือว่าเป็นค่ายหนึ่งที่คิดริเริ่มเรื่องรถไฟฟ้ามาหลายปี และในช่วงปีที่ผ่านมา Mitsubishi ก็ก้าวเข้าสู่ความจริงอีกขั้น ในการร่วมทดสอบรถไฟฟ้าในบ้านเรา กับ การไฟฟ้านครหลวง(กฟน.) และยักษ์ใหญ่พลังงานในประเทศอย่าง PTT แต่วันนี้ ถ้าคุณอยากรู้ว่ารถไฟฟ้านั้นมีการทำงานหรือความรู้สึกเวลานั่งเป็นอย่างไร ก็สามารถสัมผัสได้ด้วยตัวเองง่ายๆ

ถ้าคุณผ่านไปผ่านมาที่บูธ Mitsubishi ที่อาจจะและดูไม่ใหญ่มากมายอะไรนัก แต่พื้นที่ด้านข้างที่มีวงเวียนเล็กๆและ ทางจิ๋วอ้อมไปด้านหลัง นี่คือจุดที่คุณจะพบประสบการณ์ใหม่ ในการสัมผัสรถไฟฟ้าตัวจริงเสียงจริง Mitsubishi I-Miev ที่เราทีมงานสนุกได้ขึ้นไปลองนั่งกันมาแล้วกว่า 5 นาที ที่มันอาจจะคือ 5 นาทีที่ดีที่สุดในชีวิตก็ได้

"เขาให้ลองนั่งรึเปล่า" ทางทีมงานเราพึมพำกับ พี่นักข่าวจากสื่อใหญ่ Grand Prix channel แต่ดูเหมือนอานิสงค์เรานั้น จะกระเด็นเข้าถึงหูทีมงานรถไฟฟ้า Mitsubishi ที่พูดตอบรับว่า "นักข่าวอยากนั่งพาไปวนสัก 2 รอบสิ" ว่าแล้วพี่คนนั้นก็เปิดประตูวางของที่บั้นท้ายรถ อันประกอบด้วยถุงผ้าประมาณเกือบ 20 ใบ พร้อมเอกสารที่แจกในงาน แต่เหลียวไปๆมาๆ พี่นักข่าว Grandprix เรารีบ กระโดดขึ้นรถอย่างไว พร้อม สัดส่วนสูงแมนหล่อลำขวัญใจสาวๆ ด้วยพิกัดสูง 178 ซ.ม. หนัก 83 ก.ก. ส่วนตัวเราเองก็หนัก ราวๆ 90 ก.ก. สูงกว่าเล็กน้อย 182 ซ.ม. ไม่รวมสัมภาระที่ขนเข้ามาด้วย

เมื่อเปิดประตูก้าวเข้าสู่ mitsubishi I-miev หันไปทางขวา ก็เจอกับพี่คนขับ ที่สูงไม่มากตัวเล็กเหมือนรถ คาดว่าน่าจะมีน้ำหนัก ราวๆ 50 -60 กิโลกรัม ได้ เรากล่าวทักทายเป็นมารยาท ก่อนปิดประตู เพื่อเตรียมสู่ก้าวใหม่การเดินทางในวันข้างหน้า ใน Mitsubishi I-miev

"พึ่บ" เสียงประตูที่นิ่วนวลให้ความรู้สึกที่สุภาพ แต่เมื่อห้องโดยสารถูกผนีกแน่น สิ่งที่แรกที่สังเกตได้และชัดเจนมาก คงไม่พ้นความเงียบของห้องโดยสาร เรียกว่าถ้าไม่มีบทสนทนา แทบจะไม่มีเสียงใดๆ เล็ดลอดให้เราได้ยิน เมื่อเทียบกับรถปัจจุบัน ที่ต้องมีเสียงการทำงานของเครื่องยนต์ แต่นั่นไม่ใช่กับรถไฟฟ้า

Mitsubishi I-Miev Mitsubishi I-Miev

"เงียบแฮะ" พี่นักข่าวพูด เราต่างก็เห็นพ้องว่ามันเงียบมากจนต้องหาอะไรพูด และทันทีพี่คนขับ I-miev ก็พาเราเริ่มเดินทางในเจ้ารถไฟฟ้า การเป็นคนนั่งนั้น ก็เป็นหนทางการทดสอบรถที่ดีอย่างหนึ่ง เพราะทันทีที่เท้าคนขับเดินคันเร่ง รถก็เคลื่อนตัวออกอย่างง่ายดาย ทั้งทีในรถคันนี้ น่าจะมีน้ำหนักรวมราวๆ 83+90 +60 + น้ำหนักถุงผ้า ราวๆ 10 ก.ก. ก็น่าจะอยู่ที่ 245 ก.ก. แต่มันง่ายเหมือนเขี้ยวขนม และไม่มีการแสดงความอืดให้เห็นเลยแต่น้อย

แรงบิดสูงในรอบต่ำ ถือเป็นข้อดีที่สำคัญของมอเตอร์ไฟฟ้าที่ขับเคลื่อนเจ้า Mitsubishi I-Miev และในขณะที่เริ่มเคลื่อนนั้น เสียงมอเตอร์ไฟฟ้าที่ได้ยินแผ่วๆในห้องโดยสาร ทำให้เรารู้สึกได้ถึงความทรงพลังในแบบทันสมัย ยิ่งถ้าใคร เคยขับรถกอล์ฟที่เป็นไฟฟ้าจะมีความรู้สึกที่คล้ายๆกัน แต่ว่านี่คือรถไฟฟ้าที่พร้อมใช้งานจริง ถ้าภาครัฐเอาด้วย

เราเคลื่อนตัวจากด้านหน้าเลาะข้าง Mitsubishi Pavilion มาถึงด้านหลัง ที่ซึ่งเป็นจุดจอดของรถ Mitsubishi I-Miev คันอื่นๆที่นอกจากจะเปิดให้ทุกท่านได้สัมผัสแล้ว Mitsubishi ยังนำมารับส่ง VIP ในงาน Boi Fair อีกด้วย

Mitsubishi I-Miev Mitsubishi I-Miev

ณ จุดนี้ เราต้องย้อนกลับไปด้านหน้าอีกครั้ง ซึ่งพี่คนขับเราก็จัดการตีวงเลี้ยวกลับในที่แคบๆ มีพื้นที่ไม่เกิน 3 เมตร ในหมุนรถ Mitsubishi I -Miev ..ตรงนี้เรามองเรื่องความคล่องตัวอยู่ เหมือนกัน แต่เพียงเดินหน้า ถอยหลังรอบเดียว เจ้ามีฟ ก็สามารถผ่านไปได้อย่างง่ายดายไร้ปัญหา ส่วนหนึ่งมาจากการออกแบบหน้าสั้น ในขณะที่ในตอนถอยหลังนั้น รถก็สามารถขับเคลื่อนได้อย่างสบายๆไม่มีปัญหาอืดหรือมากดคันเร่งให้เสียเวลาเมื่อยตุ้ม

บททดสอบที่ 2 ผ่านไป และเรากลับมาทางตรงสู่วงเวียนด้านหน้าอีกครั้ง ที่เราได้คุยกับพี่คนขับถึงเรื่องสมรรถนะโดยรวม ในขณะที่เราแอบเหลียวมองที่หน้าปัดที่บอกจุดที่ขับขี่ได้ประหยัดที่สุดเช่นเดียวกับเรือนไมล์ดิจิตอลนั้นที่แสดงว่าเพียงเราเผลอมันก็ไต่ไปกว่า 9 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในระยะทางไม่ถึง 4 เมตร

เรามาวกกลับตรงวงเวียนอีกรอบ ที่พาชวนเสียว พร้อมโบกมือทักทายพี่นักข่าว ที่อยู่ด้านนอกที่กำลัง "งง" ว่าทำไมเราเข้ามาอยู่ในรถไฟฟ้าของ Mitsubishi ในขณะที่ห้องโดยสารนั้นยังเงียบสนิทเมื่อเราลุ้นว่าจะวกกลับผ่าน ในครั้งเดียวหรือไม่

Mitsubishi I-Miev Mitsubishi I-Miev

Mitsubishi I-Miev พร้อมให้คุณสัมผัสแล้วในงาน BOI FAIR

ในรอบที่ 2 พี่นักขับของโชว์สมรรถนะของ Mitsubishi I-miev อีกครั้งที่แม้จะเป็นเพียงทางแคบ แต่เพียงเติมคันเร่งนิดเดียว รถก็พุ่งทะยานดีอย่างต่อเนื่องเหมือนพกความทรงพลังอย่างเต็มเปี่ยม และไม่มีอาการอืดกับน้ำหนักที่เกือบเต็มอัตราบรรทุกของรถไฟฟ้าคันนี้ ทว่าหลังจากกลับรถ พี่นักขับเราลองเร่งให้ดูเต็มที่ในระยะที่ปลอดภัย และแค่เพียงไม่กี่วินาที มันก็สามารถไต่ได้เกือบ 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเลยทีเดียว ซึ่งพี่นักขับบอกเราว่า รถคันนี้นั้นสามารถทำความเร็วปลายได้สูงสุด 130 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และในการชาร์จแบตเตอร์รี่จนเต็มมันสามารถขับได้ไกลถึง 160 กิโลเมตร

เราเปิดประตูลงมาด้วยความประทับใจกับประสบการณ์การนั่งรถไฟฟ้า ที่อยากจะเฝ้ารอให้มันมาถึงมือเราได้ขับขี่ทดสอบกันอย่างจริงจัง และแม้นี่เป็นเพียงเรื่องที่เกิดภายในช่วงเวลา 5 นาทีบน Mitsubishi I-Miev ของการเหยียบเท้ามางาน BOI Fair แต่ถ้ามีโอกาส มันคุ้มค่าที่จะลองนั่งยานยนต์ไฟฟ้าที่ไม่แน่คุณอาจจะได้สัมผัสในโลกอนาคต ซึ่ง Mitsubishi พร้อมอบประสบการณ์ให้คุณ


ขอบคุณ Mitsubishi สำหรับ ประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นในรถไฟฟ้า Mitsubishi I Miev

อัลบั้มภาพ 8 ภาพ

อัลบั้มภาพ 8 ภาพ ของ Sanook! Ride : 5นาที บน Mitsubishi I-Miev ประสบการณ์นี้ที่ยากจะลืม

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook