ใหญ่แค่ไหน, ความจุเท่าไร ถึงเรียก “Bigbike”
Bigbike คำยอดฮิตคำนี้ โด่งดังมากในช่วง 3 ปีหลังนี้ เนื่องจากตลาดรถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่ (Bigbike) เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วชนิดก้าวกระโดด จนทำให้คนส่วนใหญ่เมื่อพบเห็นรถจักรยานยนต์ที่มีรูปร่างขนาดใหญ่ สมรรถนะที่แรง ราคาที่แพง ก็เรียกกันว่า Bigbike แล้วแท้ที่จริงมันมีนิยามที่ชัดเจนหรือไม่กันแน่?
จากประเด็นดังกล่าว จึงทำให้หลายคนนำมาเป็นข้อถกเถียงกันว่ารถแบบไหน หรือรถที่มีเครื่องยนต์ขนาดใหญ่เท่าใด ถึงจะได้ชื่อว่าเป็น Bigbike อย่างแท้จริง
เมื่อพิจารณาถึงคำศัพท์พื้นฐาน Bigbike เกิดจากการผสมคำระหว่าง Big+Bike ซึ่งความหมายแปลเป็นไทย คือ รถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่ แล้วใหญ่ในที่นี้ มันต้องใหญ่แค่ไหนล่ะ? แน่นอนว่าไม่ใช่แค่ขนาดบอดี้ที่ใหญ่อย่างเดียวเท่านั้น แต่ต้องพิจารณาถึงเฟรมแชสซีส์, ขนาดของล้อ, ยาง และขนาดเครื่องยนต์อีกด้วย
ถ้ามองย้อนไปแต่ก่อนสมัยที่ยังไม่มีการใช้คำว่า Bigbike นั้น (มากกว่า 7 ปี) คนส่วนใหญ่มักจะเรียกรถจักรยานยนต์ที่มีขนาดใหญ่หรือสมรรถนะสูง กันว่า Super 4 หรือ ที่เรียกกันติดปากว่า “4 สูบ” ซึ่งโดยส่วนใหญ่ที่เราจะเห็นกันบ่อยในยุคนั้น คือเจ้า CB400 ไฟกลม รถ Naked Biked ที่มีรูปทรงคลาสสิค ทุกยุคทุกสมัย โดยมากับเอกลักษณ์เสียงเครื่องยนต์อันหวานหู นั่นจึงอาจเป็นการจำกัดความของคนส่วนมากในสมัยนั้นว่า 400cc ขึ้นไป คือรถที่มีขนาดตัวถังใหญ่และมีสมรรถนะสูง นั่นคือแรงกว่ารถจักรยานยนต์ทั่วๆไปบนท้องถนน (ไม่นับรถโมดิฟายด์)
แต่เมื่อถึงยุคหลัง (ในช่วง 6 ปีมานี้) มีแบรนด์ผลิตและจำหน่ายรถจักรยานยนต์ในพิกัด 250cc ในประเทศ ได้ทำตลาดจำหน่ายรถในพิกัดนี้อย่างจริงจัง จนได้เกิดกลุ่มสังผมผู้ใช้ในรุ่นเดียวกันของแบรนด์ดังกล่าวมีจำนวนมากยิ่งขึ้น ประกอบกับตัวรถที่มีขนาดตัวถังที่ใหญ่ และวงเลี้ยวที่กว้าง รวมไปถึงทางค่ายรถนั้นเองได้ให้คำจำกัดความ Bigbike แก่แบรนด์ตัวเองว่าเป็นรถที่มีความจุเครื่องยนต์สูงกว่า 250cc ขึ้นไป
สำหรับในปัจจุบันนี้ คงอาจนิยามจำกัดความของ Bigbike ตามความจุจริงๆ ได้ค่อนข้างยาก เนื่องจากหลายค่ายรถก็ให้นิยาม Bigbike ของตัวเองในด้านของพิกัดความจุไม่เท่ากันอีก บางค่ายนับตั้งแต่ 250cc อีกค่ายหนึ่ง 400cc มาอีกค่าย 500cc, 600cc ขึ้นไปก็มี (ซึ่งเราจะมานำมาเสนอ นิยาม Bigbike ของแต่ละค่ายกันอีกครั้ง) ดังนั้นหากเราตัดสินด้วยความจุเครื่องยนต์ว่าตั้งแต่เท่านี้ขึ้นไปนับเป็น Bigbike อาจจะไม่ถูกต้องเสมอไป เพราะขึ้นอยู่กับแต่ละกลุ่มคนและสถานที่นั้นๆ ด้วย
ทาง MotoRival เรามีความเห็นเหมือนกันกับสิ่งที่เราเสนอแฟนๆ Bigbike คือรถที่มีขนาดเฟรมใหญ่ ล้อและยางใหญ่ ซึ่งหากพิจารณาจากจุดนี้ รถในพิกัด 250cc ในยุคหลังนี้จะเข้าข่าย Bigbike ได้เลย แต่ถ้าต้องนำความจุของเครื่องยนต์เข้ามาเกี่ยวข้องร่วมกับการตีความจากคนในยุคก่อนด้วยแล้ว นั่นอาจจะต้องนับที่ความจุ 400cc อย่างพวก Super 4 ขึ้นไป
เอาเป็นว่าเราขอแนะนำให้แฟนๆ ลองมองสังเกตรถคันต่างๆ และตัดสินด้วยตัวคุณเองจากข้อมูลที่เราแนะนำไปแล้วกัน คุณจะได้คำตอบของตัวคุณเอง หรือ ลองสังเกตตามแต่ละสถานที่ดูกันก็ได้ เช่นห้างที่มีที่จอด Bigbike เขาแบ่ง Bigbike ที่ความจุเท่าใด หรือ ไม่เว้นแม้กระทั่งสนามแข่งขันระดับโลกอย่าง ช้างอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต ก็ได้มีนิยามที่ให้ไว้ชัดเจนเช่นกัน
ที่มา MotoRival