Kei Car ...เส้นทางประหยัดของคนญี่ปุ่น

Kei Car ...เส้นทางประหยัดของคนญี่ปุ่น

Kei Car ...เส้นทางประหยัดของคนญี่ปุ่น
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมานี้ บ้านเราดูจะมีความคึกคักอย่างมาก หลังค่ายรถยนต์ยักษ์ Nissan เปิดตัวรถยนต์ที่สนับสนุนโครงการรถยนต์ประหยัดพลังงานและรักษ์สิ่งแวดล้อม ที่เดิมทีชื่อว่า Aces Car ก่อนที่ภายหลังจะเปลี่ยนมาเรียกอย่างติดปากว่า "อีโค่คาร์" จนคุ้นหูคนไทย

แนวโครงการที่มุ่งเน้นความประหยัดพลังงานในรถยนต์รุ่นใหม่นี้ ต้องยอมรับว่าประเทศไทย อาจจะไม่ใช่ประเทศแรกที่มีแนวคิดนี้ แต่ในกลุ่มทวีปเอเซีย แม่แบบของโครงการที่มีลักษณะคล้ายๆ กันนี้ คงต้องยกให้แดนอาทิตย์อุทัย ที่เขามีโครงการลักษณะเดียวกันนี้มาอย่างยาวนาน

ชื่อเสียงที่ขจรไกล อาจจะทำให้เราคุ้นหูในนาม K-Car แต่น้อยคนนักที่จะทราบว่า โครงการนี้เป็นความตั้งใจจริงที่มาจากคำว่า Kei Car หรือ "ยานยนต์ขนาดเบา" ซึ่งไม่ได้หมายถึงแค่รถยนต์ขนาดเล็กเท่านั้น แต่มันหมายรวมถึงรถยนต์ทุกประเภทที่ตอบสนองตามกฏของรัฐบาลได้อย่างไม่มีข้อจำกัด

โครงการ Kei Car เป็นโครงการที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน เริ่มต้นในช่วงปี 1949 ที่มอเตอร์ไซค์กลายเป็นทางออกการเดินทางของคนญี่ปุ่น ทำให้รัฐบาลในขณะนั้นมีแนวคิดในการพัฒนา รถยนต์ขนาดเล็กให้ตอบสนองในการใช้งาน โดยเริ่มแรง Kei car ทุกรุ่นจะใช้เครื่องยนต์ขนาด 360 ซีซี ยกเอามาจากรถมอเตอร์ไซค์ โดยรถ Suzuki และ Subaru ด้วยข้อกำหนดตัวถังกว้าง 1.3 เมตร ยาวไม่เกิน 3 เมตร และสูงไม่เกิน 3 เมตร ก่อนที่ในปี 1955 จะถูกผลักดันสู่การเป็นวาระรถแห่งชาติ และในปี 1968 Honda แนะนำ Honda N360 ที่ถือเป็นรถเล็กที่มีเกียร์อัตโนมัติ ในกลุ่ม Kei car

ความต่อเนื่องของโครงการ Kei car ถูกพัฒนาต่อยอดมาเรื่อย โดยในปี 1976 โครงการ Kei Car มีการเปลี่ยนแปลงเรื่องขนาดตัวถังทั้งทางด้านความกว้าง ที่ขยับเป็น 1.4 เมตร และความยาวที่ให้ได้ไม่เกิน 3.2 เมตร ทว่ายิ่งไปกหว่านั้น เครื่องยนต์ยังถูกปรับให้มีปริมาตรมาถขึ้นเป็น 0.55 ลิตร

 

ในปี 1990 โครงการ Kei car มีการปรับเพิ่มขนาดตัวถังเป็น 3.3 เมตร โดยยังคงความกว้างและสูงเท่าเดิม แต่เครื่องยนต์อนุญาตให้ปรับขยายได้เป็น 0.66 ลิตร เพื่อตอบสนองการใช้งานมากขึ้น แต่ต้องไม่เกิน 63 แรงม้า จวบจนปี 1998 มีการปรับในเรื่องมิติตัวถังเพิ่มขึ้นเป็นกว้าง 1.48 เมตร และยาว 3.4 เมตร โดยยังคงเครื่องยนต์ขนาดเดิมจนมาถึงปัจจุบัน

ความต่อเนื่องที่ยาวนาน ั้น ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากความตั้งใจจริงของภาครัฐบาล ที่ต้องสนับสนุนการประหยัดพลังงาน และทรัพยากร ทั้งยังลดพื้นที่ใช้สอยที่ไม่จำเป็น เพื่อลดการใช้น้ำมัน โดยภาครัฐใช้แรงจูงใจ ด้วยการ ลดภาษี 4 อย่าง สำคัญ ได้แก่

ภาษีสรรพสามิตรของตัวรถ ที่เสียเพียง 3% ของราคาจำหน่าย

ภาษีน้ำหนักตัวรถที่ต่ำกว่า ในประเทศญี่ปุ่นมีการนำน้ำหนักรถมาคำนวนเป็นภาษีการใช้ถนนด้วย โดยสามารถเหมาจ่ายได้ ซึ่งในรถ Kei Car จะถูกกว่าราวๆ 30%

ประกันภัยถูกกว่า เมื่อรถเล็กราคาประกันภัยก็จะถูกกว่ าโดยทั่วรถยนต์ในญี่ปุ่นจะต้องเสียค่าประหันราวๆ 22,470 เยน แต่ถ้าขับรถเล็กเหล่านี้ จะเสียเพียง 18,980 เยน

ภาษีรายปี รถ Keicar จะเสียภาษีรายปีน้อยกว่า จากการคิดมูลค่าตามปริมาตร ซีซีเครื่องยนต์

จากภาพรวมของ Kei Car จะเห็นได้ว่าการประหยัดพลังงานอาจจะต้องใช้ระยะเวลาในการปลูกฝังความรู้ความเข้าใจของรถยนต์ในด้านทั้งพลังงานและสิ่งแวดล้อม ซึ่งนอกจากการปลูกฝังความคิดแล้ว ภาครัฐยังต่องช่วยรณรงค์และผลักดันให้เกิดสิทธิประโยชน์มากกว่า การใช้รถยนต์ทั่วไป

 

 

อัลบั้มภาพ 4 ภาพ

อัลบั้มภาพ 4 ภาพ ของ Kei Car ...เส้นทางประหยัดของคนญี่ปุ่น

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook