เปิด 10 เมืองรถติดระดับโลก กทม. รั้งที่ 4
กลายเป็นอะไรที่หลายคนเซ็งไปตามๆกับใครที่ใช้รถใช้ถนน เพราะ ทุกครั้งที่เดินทางในชั่วโมงเร่งด้วย ทุกอย่างที่เร่งรีบจะกลับกลายเป็นหยุดนิ่งไปในทันใด ด้วยจำนวนรถที่มากทำให้ต่างมาติดกันไปตังเม บนถนน แต่ในขณะที่เราบ่นๆกันว่า รถติดระดับโลก ดูเหมือนมันจะเป็นเช่นนั้นจริงๆ
ใครจะเชื่อว่า กทม. เรา กลายเป็นเมืองที่รถติดอันดับที่ 4 ของ โลก จากการจัดอันดับ โดยการรวบรวมข้อมูลของนิตยสาร travel+leisure ได้นำเข้ามูลหลายอย่างมาประกอบกันจนได้เมืองที่ได้ชื่อว่า รถติดที่สุดในโลก ที่แม้เราจะใบ้ไปแล้วว่า กทม. อยู่ในอันดับที่ 4 แต่จะมีเมืองไหน ที่เลวร้ายในเรื่องการจราจรบ้างนี้น ต้องไป ดูกัน
อันดับที่ 10 กรุงวอร์ซอ ,โปแลนด์
ติดเป็นอันดับที่ 2 ของทวีปยุโรปสำหรับเมืองนี้ และรั้งเข้ามาในอันดับที่ 10 ด้วยความที่เมืองนี้มีการสำรวจพบว่ามีรถอยู่ราวๆ 3.5 ล้านคัน และมีอาคารสำนักงานต่างๆมากมาย แถมไม่มีทางที่จะเลี่ยงเมืองนี้ได้ผลคือ ติดอันดับเข้ามานั่นเอง
อันดับที่ 9 นิวเดลี,อินเดีย
แดนภารตะก็ใช่ย่อย เพราะเมืองหลวงที่นี่ติดเข้ามาในอันดับที่ 9 จากการสำรวจ เนื่องจากช่วง 50 ปีทีผ่านมา พบว่าเมืองนี้มีประชากรเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และไม่มีทีท่าจะลดลงโดยจากการสำรวจของ IBM พบว่า 30% ของผู้ใช้รถรู้สึกเครียด เพราะไม่มีเวลาให้กับครอบครัว และอีกกว่า 29% รู้สึกว่าการจราจรบั่นทอนประสิทธิภาพการทำงาน
อันดับที่ 8 ปักกิ่ง,จีน
คนส่วนใหญ่ที่นี่ไม่ไดเป้นเหมือนยุคก่อนแล้ว เพราะ คนเริ่มทิ้งจักรยานหันมาขับรถมากขึ้น และทุกวันนี้ มีรถใหม่ออกมาเฉลี่ยวันละ 1900 คัน จนต้องมีการออกมาห้ามรถบางชนิดเข้าโซนรถติดในวันทำงาน แต่กระนั้น ชาวจีนในเมืองนี้ก็รู้สึกว่า การจราจรที่ติดขัดมีแนวโน้มดีขึ้นถึง 16%
อันดับที่ 7 ลอสแองเจิลเลส ,สหรัฐอเมริกา
ไม่น่าแปลกใจนักสำหรับเมืองนี เพราะ แค่เพียงการสำรวจภายในประเทศอเมริกาเอง ยังระบุว่าเมืองแห่งนี้ เป็นเมืองที่ คนใช้เวลาค้างบนถนนถึง 485 ล้านชั่วโมงเลยทีเดียว และยังไม่นับรวมร้านรวงต่างที่เยอะแยะมากมาย แม้จะน่าเที่ยวแต่นักท่องเที่ยวมักจนทนที่นี่ได้ไม่นาน
อันดับที่ 6 มอสโคว ,รัสเซีย
ค้างเติ่งวันละกว่า 2 ชั่วโมงครึ่งโดยเฉลี่ยคงไม่ใช่เรื่องสนุกนักกับการขับขี่ และจากการสำรวจมีการเผยว่า ชาวมอสโควเคยติดนานบนถนนกว่า 3 ชั่วโมงถึง 40% โดยสาเหตุหลักมาจากจำนวนรถยนตืที่เพิ่มขึ้น จาก 60 คัน /1000 คน มาเป็น 350 คัน /1000 คน จากการสำรวจเมื่อเร็วๆนี้
อันดับที่ 5 โจฮันเนสเบิร์ก ,แอฟริกาใต้
ถ้าคุณคิดว่าไฟจราจรบั่นทอนอารมณ์ขับรถมาที่สุด แสดงว่าคุณคิดเหมือนคนที่นี่ เพราะ คนกว่า 43% เห็นพ้องเรื่องการปล่อยสัญญาณไฟที่นี่ห่วยแตก และมันทำให้กระดื้บได้ที่ละน้อยเท่านั้น แต่สิ่งที่เป็นปัญหาหนักข้อนั้น คือ ระบบรถไฟฟที่ไม่เหมาะสมในเมืองนี้ เช่นเดียวกับ จำนวนประชากรที่ทะยานสูงขึ้น จนคาดว่า ในอีก 4 ปี ข้างหน้าจะมีคนกว่า 14 ล้าน คน อยู่ที่นี่ จากเดิมที่มีเพียง 7 ล้านคนเท่านั้น
อันดับที่ 4 กรุงเทพฯ
บ้านเราติดเกือบติดอันดับ 3 เช่นกัน ที่มีการเผยว่า เมืองหลวงเรานั้น มีการจราจรติดขัดมาก ด้วยส่วนหนึ่งการเป้นเจ้าของรถของคนต่างๆมีเพิ่มมากยิ่งขึ้น ตามลำดับ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยเวลาที่บ้านเราจะเริ่มรถติดคือ ตั้งแต่บ่าย 3 โมงเย็นเป้นต้นไป หรือว่าง่ายๆคือ เวลาเด็กเลิกเรียน แถมวันไหนฝนตก ก็จะกลายสภาพเป้นคลอง ทำให้การจราจรยิ่งแย่ลงไปอีก
อันดับที่ 3 บรัสเซล ,เบลเยี่ยม
ที่นี่คืออีกเมืองยุโรปที่ มีการจราจรคับคั่งที่สุดจนรถติด และคุณจะไม่แปลกใจเลย ถ้ารู้ว่า ทุกวัน คนกวา 2 ล้านคน ต้องเดินทางมาที่นี่ ไม่นับคนที่อาศัยในเมืองนี้ 1 ล้าน คน แถม ยังไม่ค่อยใช้ระบบขนส่งสาธารณะ โดยในระยะทางกว่า 7 กิโลเมตร ที่สามารถปั่นจักรยานได้ใน 20 นาที หากเดินทางด้วยรถจะใช้เวลาถึง 1 ชั่วโมงครึ่งเลยทีเดียว
อันดับที่ 2 นิวยอร์ค
มหานครสุดอลังการของโลกคือสถานที่จอดรถดีๆนี่เอง เพราะที่นี่รถติดด้วยสภาพถนนที่มีจุดบอดจากคอขวด โดยจาก 5 ขอควดที่แย่สุดในอเมริกา มันอยู่ที่นี่ไปแล้วกว่า 4 แห่ง แถมคนมาที่นี่ก็เยอะ ก็ไม่น่าแปลกใจ เช่นเดียวกับนอกเกาะแมนฮัตตันก็เลวร้ายพอๆกัน
อันดับที่ 1 เม็กซิโกซิตี้, เม็กซิโก
ติดที่สุดในโลกคงต้องที่นี่กับ นครเม็กซิโกซิตี้ ด้วยส่วนหนึ่งความคล้ายคลึงกับ LA และมันมีระบบถนนที่ซับซ้อน แถมการตั้งยุ่ในหุบเขา จึงมีปัญหามลพิษมากขึ้นด้วย โดยจากการสำรวจของ IBM พบว่า คนส่วนใหญ่ในการสำรวจกว่า 8,192 คน จาก 20 เมืองใหญ่ทั่วโลก ให้คะแนนเรื่องอุปสรรคในการเดินทาง ในนครแห่งนี้ถึง 99 จาก 100 คะแนน