ได้เวลาลองของจริงสมรรถนะ ของที่สุดแห่งที่สุด

หลังจากรับรถมาเสร็จเรียบร้อย เจ้า Chevrolet Colorado Crew cab 2.8 LTZ 4 WD ก็ทำให้เรานึกถึงบรรยากาศวันวาน กับเจ้าพี่น้องตัว X-Cab ในรุ่น 2.8 ที่เบ่งพละกำลังจากเครื่องยนต์ Duramax 2.8 ลิตร ได้อย่างสมศักดิ์ศรี แต่ครั้งนันเป็นรุ่นกียร์ธรรมดา

ในครั้งนี้ Chevrolet Colorado Crew cab 2.8 LTZ 4 WD มาพร้อมความทรงพลังที่มากกว่า แม้ต้องยอมรับว่าเสียงเครื่องยนต์นั้นค่อนข้างที่จะดังไปสักหน่อย จนทำให้เราออกแนวรำคาญบ้าง โดยเฉพาะเมื่อการขับยามค่ำคืนในหมู่บ้านอาจจะทำให้เพื่อนบ้านตกใจตื่นได้ ก็นับเป็นเรื่องที่เราได้เคยกล่าวถึงไปแล้ว

แม้จะเป็นเครื่องยนต์เดียวกัน แต่ก็ต้องยอมรับว่า Chevrolet Colorado Crew cab 2.8 LTZ 4 WD คันนี้มีความแตกต่าง เพราะนี่คือรุ่นเกียร์อัตโนมัติ ซึ่งมันถูกปรับพละกำลังแรงบิดจาก 440 มาสู่ 470 นิวตันเมตร ที่ 2000 รอบต่อนาที แต่แม้อาจจะดูเหมือนว่ามันต่างกันแค่ 30 นิวตันเมตร ทว่าก็ให้ความแตกต่างที่ชัดเจนจนสังเกตได้

การขับรถคันนี้ ในเขตเมืองจะมีอุปสรรคก็ในช่วงที่ถนนแคบ หนือมีรถหนาแน่น เหมือนที่เคยเจอ ส่วนหนึ่งด้วยวงเลี้ยงที่กว้าง 6.3 เมตร ทำใ ในบางจังหวะมีลุ้นกันเล็กน้อย เช่นเดียวกับความสู 1.79 ม.ของตัวขับเคลื่อน 4 ล้อที่ทำเอาเสียวในบางห้างสรรพสินค้าชั้นนำ

ถึงจะลำบากบ้างแต่การขับขี่ในเมืองของรถรุ่นนี้ ก็ทำได้ดีกว่า ด้วยการอำนวยความสะดวกสบายจากระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ตอบสนองดีทันใจและเมื่อบวกกำลังแรงบิดมันก็ทำได้ดีเยี่ยม ส่วนหนึ่งก็ได้มาระบบต่างชั้นนำเข้ามาช่วย ทั้งระบบควบคุมการทรงตัว ESP และระบบ Traction Control ช่วยไม่ให้ล้อหมุนฟรีเรียกเสียงเอี๊ยด! เค้นจากยางให้ตกใจ ถือว่าเป็นตัวช่วยที่ทำให้รถคันนี้น่าขับมากขึ้น และมีอารมณ์ผู้ใหญ่สอดรับเข้ามา

หลังจากขับขี่ในเมืองราวๆ 1-2 วัน เราก็ได้เวลาที่จะพิสูจน์บททดสอบอัตราประหยัด และไม่น่าแปลกใจเลยที่เจ้า Chevrolet Colorado Crew cab 2.8 LTZ 4 WD จะซดน้ำมันพิกัดเดียวกับรถหรู ด้วยตัวเลข 7.8 กิโลเมตร/ลิตร ตอบโจทย์ในเรื่องการขับขี่ในการใช้งานจริง ตามสภาวะในเมือง ใช้ความเร็วโดยเฉลี่ยไม่ได้เกิน 100 ก.ม./ช.ม. โดยส่วนใหญ่การทดสอบในเมืองผมขับคนเดียว ซึ่งตอนนี้พิกัดผมก็อยู่ที่ 93 ก.ก.

ได้เวลาเดินทางทริปสั้นขับมันส์ๆที่ฉะเชิงเทรา

หลังจากที่ขับในเมืองกันมาพอสมควร ก็ได้เวลาท่องโลกกว้าง แม้ครั้งนี้ปลายทางเราจะไม่ได้ไกลอย่างที่คิดนักแต่ก็ถือเป็นการทดสอบที่ดีใน โคโลราโด 4 ประตู โดยเฉพาะเส้นทางที่ใช้ในการเดินทางประจำของใครหลายๆคน จะสามารถตอบสนองได้มากแค่ไหนกัน

การเดินทางของเราใช้เส้นทางถนนสุวินทวงศ์ ที่มีหลุมบ่อรวมถึงคอสะพานแทบจะตลอดเส้นทาง และการเดินทางของเราใช้ความเร็ว 120 ก.ม./ช.ม. เป็นสำคัญ และ Chevrolet Colorado Crew cab ก็ตอบสนองดี ทั้งอัตราเร่งในการขับขี่ที่ดูหนักแน่นจากแรงบิดของเครื่องยนต์ Duramax 2.8 ลิตร 180 แรงม้า โดยที่ความเร็ว 130 ก.ม./ช..ม มันใช้รอบเครื่องยนต์ที่ 2050 รอบต่อนาที แต่ถ้าใครรักขับประหยัดน้ำมัน 90 ก.ม./ช.ม. มันใช้รอบเครื่องยนต์เพียง 1500 รอบต่อนาที

ช่วงระหว่างทางเราลองขับทำตัวเลขเล่นๆ ทั้งสถิติอัตราเร่ง 0-100 ก.ม./ช.ม. เหยียบเต็มไม่มีผ่อนทำได้ 12.1 วินาที และในขณะที่ล้อหมุนด้วยความเร็ว 80 ก.ม./ช.ม.เร่งยาวไปถึง 120 ก.ม./ช.ม. ใช้เวลาเพียง 9.6 วินาทีถือว่าสมตัวกับแรงบิดระดับ 470 นิวตันเมตร

ด้านระบบช่วงล่างเอาค่อนข้างตอบสนองได้ลงตัว แต่ถ้าเทียบกับแบรนด์คู่แข่งที่เคยทดสอบก่อนหน้านี้ ก็คงต้องเรียกว่า มันค่อนข้างที่จะกระโดกกระเดกไปสักนิดหนึ่ง ถามผู้โดยสารตอนหลัง ก็ได้ความว่าระบบกันสะเทือนที่เด้งๆแทบตลอดเวลาอาจจะส่งผลต่อความไม่สบายในการโดยสารบ้าง แต่เมื่อผ่านช่วงของถนนที่กระโดดไปมาสู่ทางที่เรียบกว่า ก็ตอบสนองได้ดีขึ้น แต่ภาพรวมของรถยังเด้งกระดอนอยู่ ซึ่งต้องยอมรับว่ามาจากการเซทระบบกันสะเทือน แต่เราจะให้มันนุ่มไปเลย ก็แลดูยังจะเป็นเรื่องที่ยากอยู่

โดยรวมแล้ว Chevrolet Colorado Crew cab ค่อนข้างจะมีองค์ประกอบหลายอย่างที่ดูแล้วค่อนข้างที่จะลงตัว โดยเฉพาะการใช้งานและการโดยสาร แต่สิ่งที่น่าจะเป็นปัญหาคือเรื่องของระบบช่วงล่างที่ยังออกความเป็นกระบะมากไปสักหน่อย แต่เมื่อมองถึงสิ่งต่างๆ โดยเฉพาะลูกเล่น เช่นระบบควบคุมการทรงตัว ,ระบบป้องกันการลื่นไถลที่ให้มาอย่างครบครัน ในราคา 925,000 บาท มันก็น่าคบหาใช่น้อยเลยทีเดียว

ผลการทดสอบ Chevrolet Colorado Crew cab 2.8 LTZ 4 WD

การทำงานของรอบเครื่องยนต์ ที่เกียร์ 6

ที่ความเร็ว 90 ก.ม./ช.ม. ใช้รอบเครื่องยนต์ 1500 รอบต่อนาที

ที่ความเร็ว 130 ก.ม./ช.ม. ใช้รอบเครื่องยนต์ 2050 รอบต่อนาที

สถิติอัตราเร่ง

0-100 ก.ม./ช.ม. ใน 12.1 วินาที

80-120 ก.ม. ใน 9.6 วินาที

อัตราประหยัดน้ำมัน

ในเมือง 7.8 กิโลเมตร/ลิตร

นอกเมือง 12.1 กิโลเมตร /ลิตร

ตารางคะแนนผลการทดสอบรวม

หัวข้อ	คะแนน (หมวดละ 20 คะแนน)	ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะ
การออแบบภายนอก	18	ในรุ่น 4 ประตู การออกแบบค่อนข้างที่จะมีความลงตัวมากกว่าเดิม จากที่รู้สึกเส้นสายค่อนข้างลงตัวมากกว่า และในรุ่นท๊อปนี้มันก็ดูดีทีเดียว เรียกว่าหล่อมาตั้งแต่เกิด
การออกแบบภายใน	18	ภายในห้องโดยสาร ให้อะไรหลายอย่างที่ให้ความลงตัว การตบแต่งที่แปลกตา เบาะหนังดูสวยหรู รับเข้ากันกับไฟเรือนแสงในห้องโดยสาร การจัดวางต่างๆค่อนข้างทำได้ดี เว้นเพียงเบาะตอนหลังที่ชันไปหน่อย แต่นั่งได้อย่างนิ่มนวลจากการหุ้มหนัง แต่ว่าสีขาวเนี่ย คงต้องดูแลกันหนักพอสมควรทีเดียว
เครื่องยนต์	17	เครื่องยนต์ 2.8 Duramax แปลกแต่จริงที่มันค่อนข้างเสียงดัง ไปหน่อย แม้ตอนทำงานเดินเบาเอง ทำให้อาจจะต้องมีการปรับปรุงต่อไปในอนาคตสำหรับเรื่องนี้ ซึ่งเราเองก็อยากฝากไว้ด้วย แต่ถ้าพูดถึงเรื่องพละกำลัง บอกได้เลยว่าเหลือร้าย ทั้ง 180 แรงม้า และแรงบิด 470 นิวตันเมตร ในรุ่นเกียร์ออโต้ 6 สปีด
ระบบกันสะเทือนและสมรรถนะการขับขี่	18	ช่วงล่างน่าจะมีการปรับให้แตกต่างกว่านี้เมื่อเทียบกับ extend cab เพราะ รถมีจุดประสงค์ใช้งานที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง และช่วงล่างที่ออกจะกระด้างไปใน 4 ประตู ทำให้มันขับไม่ดูเป็นรถสำหรับนั่งเท่าที่ควร แถมยังทำให้ตอนหลังกระเด้งกระดอน หกล้มหกลุกบ่อยๆ
เทคโนโลยี	19	สิ่งที่ซ่อนอยู่คือเรื่องที่น่าประทับใจและมันมีมากมายจนรู้สึกได้ถึงความปลอดภัยในยามขับขี่ และทำได้อย่างลงตัวเสียด้วย ซึ่งนี่คือข้อดีที่สุดของรถคันนี้
อื่น /		-
สรุป	90	โคโลราโด4 ประตู น่าใช้มาก โดยเฉพาะเครื่องยนต์ 2.8 ลิตร ขับเคลื่อน 4 ล้อ คันนี้แต่ด้วยช่วงล่างที่กระด้างมากไปเล็กน้อยสำหรับความเป็นรถนั่งทำให้มันดูด้อยลงไป แต่ก็มีอื่นๆ ที่ดี เช่นการตบแต่งที่ดูหรู และลูกเล่นทางการขับขี่ที่จัดมาให้ชุดใหญ่

อัลบั้มภาพ Sanook! Drive : Chevrolet Colorado Crew cab 2.8 LTZ 4 WD ตัวจริงเรื่องทรงพลังของยอดกระบะ 100 ปี ภาพที่ 13 / 38

Sanook! Drive : Chevrolet Colorado Crew cab 2.8 LTZ 4 WD ตัวจริงเรื่องทรงพลังของยอดกระบะ 100 ปี

อัลบั้มภาพที่เกี่ยวข้อง

Sanook! Drive : Chevrolet Colorado 2.8 2WD LTZ ทรงพลังเต็มพิกัด ในกระบะเพื่อคนไทย