"ทดลองขับ" อย่างไร เมื่อต้องซื้อรถใหม่ทั้งที
ทุกวันนี้คนจำนวนมีความต้องการที่จะซื้อรถยนต์กันมากมาย แต่อย่างที่เราเคยบอกเพื่อนๆไปแล้วครับว่า การที่เราจะเลือกรถถูกใจได้นั้น เราจำเป็นที่จะต้องลองให้มันรู้กันไป ไม่ใช่เพียงฟังมาเขาเล่าว่า หากแต่การลองขับคือหนทางที่ดีสุดของขั้นสุดท้าย ก่อนที่คุณจะตัดสินใจซื้อรถสักคัน
ในบ้านเราคงจะยังมีคนจำนวนน้อยมากที่ขอ "ทดลองขับ" รถยนต์รุ่นต่างๆที่วางจำหน่ายอยู่มากมาย ทั้งที่เป็นสิทธิของผู้บริโภคที่สามารถพึงกระทำได้ ไม่ว่าจะรถใหม่หรือมือสองเอง ก็ตามแต่ที่เรารู้สึกว่าคนไม่กล้านั้น อาจจะเหตุด้วยความกลัวว่าจะเกิดความเสียหายหรือไม่ ก็ไม่ทราบว่า การเอารถไปทดลองขับเพื่อประกอบการตัดสินใจ จะต้องทำอย่างไร บ้างและวันนี้ เราก็มี เคล็ดลับเล็กๆมาฝากกัน
1.อย่ากลัวที่จะลอง ข้อแรกที่สำคัญก็คงต้องเป็นการที่จะต้องมีความแน่วแน่และกล้าที่จะทดลองขับ แน่นอน หลายคนคงไม่ใช่นักทดสอบรถที่โดดขึ้นคันนี้ขับคันนั้นอย่างมืออาชีพ แต่แม้คุณจะเป็นมือใหม่สิ่งที่ต้องทำคือกล้าที่จะลอง จริงอยู่มันอาจจะมีความเสี่ยงในการก่อให้เกิดความเสียหาย แต่ถามจริง มีใครอยากขับรถไปชนบ้าง.. ดังนั้นสิ่งที่ต้องจำคือเมื่ออยู่หลังพวกมาลัยรถทดสอบ ต้องหูตาว่องไว และพยายามอย่าเกร็งในการขับขี่ และถ้าไม่มั่นใจ ลองชวนเพื่อนที่มีประสบการณ์ในการขับขี่ไปกับคุณ
2. ทำการบ้านก่อน การไปขอลองขับรถยนต์เพื่อประกอบการตัดสินใจนั้น สิ่งที่สำคัญ คือคุณควรทำการบ้านมาก่อน ทั้งในแง่เครื่องยนต์ และลักษณะของตัวรถเอง เพื่อทำความเข้าใจธรรมชาติที่น่าจะเกิดขึ้น และการขับทดลองรถนั้น ก็จะทำให้เราได้คำตอบ วิธีง่ายๆคือ คุณลองทำรายการสิ่งที่คุณอยากรู้เกี่ยวกับรถที่จะไปลองขับดูสัก 5-8 ข้อ และไม่ใช่ในแง่ของสมรรถนะเท่านั้น แต่ยังรวมถึงองค์ประกอบอื่นๆเช่นภายนอก ภายในห้องโดยสาร และสิ่งที่สำคัญ คือ โจทย์ที่จะตอบในการใช้งานของคุณ
3 เมื่ออยู่หลังพวงมาลัย การลองขับรถสิ่งที่สำคัญส่วนใหญ่นั้นอยู่ที่ตัวคุณเองและรถคันที่คุณเลือก เมื่อได้ขึ้นไปยู่หลังพวงมาลัยแล้ว สิ่งที่สำคัญต่อมาคือ การดูว่ามันเข้ากับคุณหรือไม่ ...
การที่เราจะรู้ว่ารถเข้ากับเราหรือไม่ เป็นประโยคที่ฟังดูง่าย เนื่องจากเรามีความต้องการอยู่เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่เราอยากให้ลองมองลึกกว่านั้น หลังจากที่คุณได้ปรับท่านั่งที่เหมาะสมตั้งแต่
-เริ่มตั้งแต่รถใหญ่ไปสำหรับคุณหรือไม่
- เมื่อลองนั่งในท่าที่เหมาะสมแล้วยังมีมุมอับของตัวรถหรือไม่
- รถมีทัศนวิสัยด้านหน้า -หลัง และข้าง เป็นเช่นไร
-เราสามารถปรับแต่สิ่งอื่นๆเพิ่มเติมเพื่อความเหมาะสมกับสรีระของเราได้หรือไม่ เช่น พวงมาลัยยืด เข้า-ออกได้ หรือปรับสูงต่ำได้
- ท้ายสุดดูสิว่า เมื่อเรานั่งถูกต้องแล้ว ยังขับขี่ได้สะดวกหรือไม่
นอกจากด้านหน้าแล้ว เรายังคงต้องมองถึงด้านหลังของตัวรถด้วยในพื้นที่ใช้งานต่างๆ เช่น ถ้าคุณมีผู้โดยสารตอนหลังบ่อย ลองขึ้นไปลองนั่งดูด้วยตัวเอง น่าจะได้คำตอบมากกว่า
4.ได้เวลาออกถนน เมื่อเราได้เวลาที่เหมาะสมในการลองขับขี่รถที่เหมาะสม จำไว้ว่าจงทิ้งความชอบและอคติต่อรถออกไป และขับขี่มันอย่างเป็นกลางเหมือนไม่เคยรู้จักกันมาก่อน การขับขี่ เพื่อทดลองรถนั้น คือโอกาส ที่คุณจะสัมผัสความรู้สึก จงจำและเก็บไว้ตัดสินใจ
ตามปกติ เซลล์มักไม่ค่อยชอบใจนักที่ต้องพาคุณมาลองขับ ในแง่หนึ่งคือเสียเวลา และมีความเสี่ยง ประกอบกับสินค้าจะเผยธาตุแท้เมื่อให้มีการทดลองใช้ เรียกว่าดีไม่ดีก็โผล่กันมาตรงนั้นนั่นแหละ แต่นี่คือโอกาสของคุณแล้วในการตอบโจทย์ให้ตัวเอง
หลายครั้งเราพบว่าหลายคนได้ทดลองขับ แต่ ทดลองขับในสถานที่ซึ่งเป็นสถานที่เปิดและเป็นกลยุทธ์ของโชว์รูมบางแห่ง ซึ่งการทดลองขับในสภาวะการใช้งานจริงท่ามกลางการจราจรนั้น ถือเป็นสิ่งที่มีความสำคัญกว่าอย่างมาก โดยเฉพาะในแง่ของการตอบโจทย์ในลักษณะสภาวะแวดล้อมจริง แต่งหมดจำไว้ว่า "อย่าเอามันส์เอาความรู้สึก" เพราะคุณอาจจะขับเก่งแต่นี่ไม่ใช่รถของคุณ ..ข้อนี้สำคัญมาก
เมื่อออกสู่ถนนอย่าไปเกรงใจเซลล์ คุณควรจะลองสิ่งที่สำคัญต่างๆ ซึ่งเราได้ทำรายการมาให้คุณแล้ว
1.อัตราเร่ง และพละกำลังในทางชัน รวมถึงอัตราเร่งขณะเร่งแซง
2.เสียงรบกวนจากภายนอกและการเก็บเสียงภายในห้องโดยสาร
3.ความแม่นยำของพวงมาลัย และความคล่องตัวของรถ
4.อัตลักษณ์ของระบบกันสะเทือนและการให้ความรู้สึกในการขับขี่และการเข้าโค้ง
5.ความรู้สึกของระบบห้ามล้อ
ถ้าดูจากทั้ง 5 ข้อที่เราได้ทำมาให้นี้จะเห็นว่า ทั้งหมด เป็นสิ่งที่เราต่างทำกันอยู่ทุกวัน และการที่เรา มาทดลองขับก็อย่าขับแค่เพียงรอบๆโชว์รูม แต่ให้คุณขับจนเข้าถึงความรู้สึกของรถโดยรวมคือ "พอ" และอย่าหลอกตัวเองระหว่างการทดลองขับ
แน่นอนว่า คงไม่ได้บ่อยนักที่คุณจะต้อสินใจซื้อรถและได้ลองขับมันอย่างจริงจัง แต่ถ้าวันนี้ คุณมีโอกาสซื้อรถใหม่ เราอยากแนะนำว่า ให้ลองไปทดลองขับ ดู เพราะมันจะตอบโจทย์คุณได้ดีที่สุดว่า สรุป มันเหมาะกับคุณจริงๆหรือไม่ ...