Mitsubishi Mirage มากกว่าแค่อีโค่คาร์
ตั้งแต่เปิดตัวออกมา คงต้องยอมรับว่ารถยนต์อีโค่คาร์ในตอนนี้ที่มีกระแสดีมาแรง และที่สำคัญ จำนวนบนถนนมันเริ่มเยอะจนติดตานั้น ทำให้ ณ วันนี้ไม่มีใครไม่รู้จักรถยนต์ Mitsubishi Mirage อีโค่คาร์น้องใหม่ล่าสุดจากค่ายรถยนต์มิตซูบิชิ
การมาถึงของ Mitsubishi Mirage ถือเป็นการเน้นในการให้อะไรที่มากกว่าอย่างชัดเจน ตั้งแต่ที่พุ่งเป้าเรื่องความประหยัดชูตัวเลข 22 ก.ม./ลิตร ให้ความแตกต่างจากรถยนต์ทุกค่ายที่วางจำหน่ายยู่ในตลาดปัจจุบัน แต่แน่นอนว่าวันนี้เราจะมาท้าพิสูจน์ความมากกว่าของ Mitsubishi Mirage
มากกว่าภายนอก อย่ามองแค่เป็นอีโค่คาร์
ตั้งแต่ที่ได้เจอตัวครั้งแรกในงานเปิดตัว เรายอมรับว่า Mitsubishi Mirage พยายามให้ความแตกต่างทุกอย่าง ไม่เว้นกระทั่งการออกแบบทางภายนอก ที่ลงตัวในการจัดสรรปันส่วนเส้นสายคงเอกลักษณ์ในของ Mitsubishi จับเส้นสายมาเล่นในแง่ของความทันสมัยไปพร้อมกัน
ความลงตัวทางการออกแบบจะเห็นได้ตั้งแต่ทางด้านหน้าที่เผยรายละเอียดเอกลักษณ์ของค่ายที่ Mitsubishi Mirage ได้รับการถ่ายทอกจากรุ่นพี่ ให้ความลงตัว ดูไม่ใช่รถประหยัดทั่วๆไป รายละเอียดถูกฝังลึกอยู่ในจิตวิญญาณด้วยการให้ความลู่ลมตามหลักอากาศพลศาสตร์ผสานเข้าไปในการออกแบบ ทำให้มีค่าสัมประสิทธ์เสียดทานเพียง 0.29 Cd เท่านั้น
ในแง่มิติตัวรถคันนี้ถูกออกแบบมาในสไตล์ของ 5 ประตู แฮทช์แบ็คที่สามารถอำนวยความสะดวกได้หลากหลายมากยิ่งขึ้น มาพร้อมขนาดพอดีสำหรับชีวิตคนเมืองยาว 3,710 มม. กว้าง 1,665 มม. และสูง 1,490 มม. ซึ่งให้ความคล่องแคล่วสำหรับการขับขี่ และในจิตวิญญาณของมันยังตอบสนองเรื่องความปลอดภัยสูงสุด ด้วยการออกแบบโครงสร้างตัวถังเพิ่มส่วนรับแรงกระแทก ที่ผลิตจากเหล็กที่มีความแข็งแรงเป็นพิเศษ "High-tensile steel" สูงสุดที่ 980 MPc ซึ่งมีน้ำหนักเบาแต่ให้ความแข็งแกร่งสูงกว่าเหล็กทั่วไป และคุณจะหาไม่ได้จากอีโค่คารืรุ่นอื่นๆที่มีในตลาดแน่นอน
ห้องโดยสารมากกว่าในความสปอร์ต
เมื่อก้าวเข้ามาสู่ห้องโดยสาร Mitsubishi Mirage ตอบสนองการออกแบบด้วยลุคสปอร์ตที่ไม่เหมือนใคร ห้องโดยสารของเจ้าอีโค่คาร์คันนี้ ใช้การออกแบบที่เน้นในความทันสมัยและยังสปอร์ตไปพร้อมกันด้วย เช่นเดียวกับที่เราสัมผัสได้ภายนอก สามารถรองรับการเดินทางได้สูงสุดถึง 5คน อย่างสบายๆ
ตรงหน้าในห้องโดยสาร Mitsubishi Mirage ใหม่จะพบกับคอนโซลหน้าสีดำแบบ Piano Black ให้เสน่ห์ที่ลงตัวเมื่อมองคู่กับมาตรวัดที่จัดวางเอาไว้อย่างผสมผสานลงตัว Combination meter สามารถปรับแสงสว่างได้มากถึง 8 ระดับ พร้อมจอแสดงผลข้อมูลเอนกประสงค์ (Multi-information display) แสดงผลข้อมูลได้หลากหลาย ทั้งความเร็วเฉลี่ยในการขับขี่ อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงโดยเฉลี่ย ระยะทางขับขี่ที่เหลือจากปริมาณน้ำมันที่มีอยู่ในถัง และระบบเตือนการบำรุงรักษา รวมไปถึงการเตือนต่างๆ เมื่อมีความผิดปกติของระบบต่างๆ นอกจากนี้ยังมาพร้อมไฟแสดงผลการขับขี่แบบประหยัด (Eco lamp)
เบาะนั่งถูกออกแบบมาให้กระชับลงตัวสำหรับสรีระในระหว่างการขับขี่ ด้านคนขับสามารถปรับสูงต่ำได้ ช่วยให้ปรับท่านั่งได้หลากหลายมากยิ่งขึ้น และ Mitsubishi Mirage ยังให้ความอเนกประสงค์ในการใช้สอยด้วยเบาะหลังสามารถปรับพับได้ในอัตรา 60/40 ช่วยอำนวยความสะดวกมากขึ้น ยามต้องการปรับเปลี่ยนเพื่อใช้งานในรูปแบบอื่นๆ
ใช้ชีวิตอย่างลงตัวมากกว่าในความประหยัด
ใต้ฝากระโปรง Mitsubishi Mirage มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร 3 สูบแถวเรียงที่พัฒนาขึ้นมาใหม่ เน้นหนักในความประหยัดและยังให้สมรรถนะที่ลงตัวกับพละกำลังสูงสุด 78 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 100 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบ ให้การตอบโจทย์ในเรื่องการขับเคลื่อนกับ 2 ทางเลือก คือ ในรุ่นเกียร์ธรรมดา5 สปีด และระบบเกียร์ CVT 6 สปีด พร้อม Sportronic และระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์อัจฉริยะ INVECS-III
แน่นอนสิ่งที่ Mitsubishi Mirage ต้องการสื่อสารออกมาจากการให้เครื่องยนต์แบบนี้คงเป็นอะไรอื่นไปไม่ได้ นอกจากพุ่งเป้าให้ความประหยัดในการขับขี่ยิ่งกับตัวเลข 22 กิโลเมตร/ลิตร ถือเป็นสิ่งที่พิสูจน์ว่า "มิราจ" อาจจะมีดีกว่าที่เห็นและเราก็พามันออกไปเที่ยวในป่าคอนกรีตกันดู
การขับขี่ในเขตเมือง กับ Mitsubishi Mirage คงต้องยอมรับว่า รถคันนี้ที่เกิดมาเพื่อสิ่งนี้ ด้วยการตอบสนองทั้งในเรื่องขนาดที่เล็กกระทัดรัด ย่อมให้ความคล่องตัวมากกว่า เช่นเดียวกับในส่วนของพวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า EPS ที่ควบคุมง่าย และเบาสบายทุกครั้งที่สาวพวงมาลัย ตวัดไป-มา ซ้ายหรือขวา และวงเลี้ยวแคบสุดที่ 4.4 เมตร มันก็ให้ความคล่องในการขับขี่มากพอสมควรเลยทีเดียว
ด้านเครื่องยนต์เอง ให้อัตราเร่งที่สมน้ำสมเนื้อ ไม่อืดอาดแต่ก็ยอมรับว่ามันไม่ได้ปรู๊ดปร๊าดแบบสปอร์ตคาร์ ระบบเกียร์ CVT ให้อัตราเร่งที่ค่อนข้างจะลงตัว และใช้งานง่าย ซึ่งการมาพร้อมระบบควบคุมเกียร์อัจฉริยะ Invecs-III ก็สนองตอบให้มันสามารถรู้ใจคนขับได้อย่างน่าเหลือเชื่อ และอาจจะต้องยอมรับว่านี่คือเกียร์ที่ลาดรุ่นหนึ่งเลยทีเดียว
สิ่งที่น่าอัศจรรย์ใจที่สุดใน Mitsubishi Mirage คือในเรื่องของอัตราประหยัด ที่แม้ตัวเลข 22 กิโลเมตร/ลิตร อาจจะดูน่าเหลือเชื่อ แต่ในระหว่างการทดสอบ มันกลับพบว่ามีความเป็นไปได้สูงที่จะทำได้ตามที่ตั้งไว้ โดยเฉพาะในช่วงชานเมืองที่รถน้อย เราลองใช้ความเร็ว 110 กิโลเมตร/ชั่วโมง เดินคันเร่งเนียนๆ ไปเรื่อย แล้วลองเซทค่าที่หน้าจอแสดงผลใหม่ ไม่ใช่เรื่องยากที่จะได้ ตัวเลข 21 กิโลเมตร/ลิตร ตอบเรื่องความประหยัด และเราเชื่อว่าถ้าขับช้ากว่านี้อีกสักหน่อย จะต้องพบตัวเลขประหยัดตามที่ Mitsubishi Mirage โฆษณาย่างแน่นอน
ช่วงล่างมั่นใจ จิ๋วแต่ยังแจ๋ว
เมื่อพูดถึงรถยนต์นั่งขนาดเล็กอีโค่คาร์อย่าง Mitsubishi Mirage สิ่งที่หลายคนอาจจะกังวลใช่น้อย ก็ดูจะไม่พ้นเรื่องของการทรงตัวของรถ แม้เราจะตระหนักดีว่า อีโค่คาร์เป็นรถที่เกิดมาใช้งานในเมืองมากกว่า แต่มันก็ยังจำเป็นต้องตอบคำถามนี้
ช่วงระหว่างที่เราขับขี่รถ Mitsubishi Mirage บ่อยครั้งที่มีโอกาสลองใช้ความเร็วเดินทางเพื่อดูในสมรรถนะการทรงตัวของ ซึ่ง Mitsubishi Mirage สามารถตอบสนองข้อนี้ได้เป็นอย่างดี แม้จะมีความเล็ก แต่ความนิ่งของตัวรถสามารถทำได้เทียบเท่ากับระดับรถยนต์คอมแพ็คคาร์หลายๆ รุ่นและเคล็ดลับหนึ่งก็คือการนำหลักอากาศพลศาสตร์ที่ใช้ในการออกแบบมาช่วยตอบโจทย์ ด้วยการสร้าง Air Dam ที่กันชนหน้า ให้มีการรีดอากาศออกสู่ด้านข้างตัวรถ ทำให้ช่วยควบคุมการทรงตัวไม่เอนอ่อน เปรียบเสมือนเกราะกำบัง แม้จะขับข้างรถบรรทุกขนาดใหญ่ก็ตาม
เช่นเดียวกับระบบช่วงล่างที่เลือกใช้แม็คเฟอร์สันสตรัท ทางด้านหน้าและระบบทอร์ชั่นบีมทางด้านหลัง ให้ความลงตัวในการขับขี่ที่นุ่มนวลแต่ก็ยังไม่ลืมที่จะทำให้มันมีการเกาะถนนที่ดี ไปพร้อมกัน ทำให้ Mitsubishi Mirage ยิ่งมีความลงตัวยิ่งขึ้น
ฟังชั่นที่หลากหลาย ฉลาดล้ำมากกว่า
แม้เป็นอีโค่คาร์ แต่ Mitsubishi Mirage กลับค่อนข้างให้อะไรที่มากกว่าที่คิดด้วยการหลากระบบอัจฉริยะที่พร้อมสรรพ ตอบสอนงความนำสมัยของตัวรถที่มากกว่า ไม่ว่าจะเป็น ระบบกุญแจอัจฉริยะ KOS ช่วยให้ง่ายและสะดวกในการขึ้น-ลงจากรถ ที่ยังให้ ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ เพิ่มความสะดวกในการสตาร์ทเครื่องยนต์ได้เพียงปลายนิ้วสัมผัส
อย่างไรก็ดี ทีเด็ดสุดของเจ้า Mitsubishi Mirage ใหม่นี้ อยู่ที่ระบบอำนวยความสะดวกและปลอดภัยตามแบบฉบับของมิตซูบิชิ ที่เรียกว่า ETACS หรือ Electronic Time & Alarm Control System ซึ่งให้รายละเอียดที่สำคัญต่างๆมากถึง 8 ข้อ และเป็นออพชั่นที่แปลกแหวกแนวในรถรุ่นเล็ก อาทิ ระบบล็อคประตูซ้ำหากไม่มีการเปิดประตูใน 30 วินาที, ระบบไฟเลี้ยวเปลี่ยนเลน กระพริบ 3 ครั้ง ,หรือจะเป็นไฟหน้าปิดเองอัตโนมัติ และยังมีอื่นๆอีกมาก ที่เชื่อได้เลยว่า คนเมืองอย่างเราๆจะได้ใช้งานมันอย่างแน่นอน
ปิดประตูลงมาจาก Mitsubishi Mirage พร้อมความประทับใจในการผสานส่วนผสมของสมรรถนะและความประหยัด รวมถึงความฉลาดอย่างลงตัว และนี่คือ "อีโค่คาร์" ที่ให้อะไรได้มากกว่า..อย่างแท้จริง...