Sanook Drive : Honda CBU สามอารมณ์รถนำเข้า..ที่บอกความเป็นคุณ
เคยคิดไหมครับว่า วันหนึ่งที่เราประสบความสำเร็จในชีวิตเราจะให้อะไรตัวเองเป็นของตอบแทน แน่นอนว่า หลายคนคงมองว่ารถยนต์คือสิ่งหนึ่งที่บอกได้ว่าคุรมีฐานะและรสนิยมเช่นไร และในช่วงที่ผ่านมา Honda ก็ได้นำเสนอรถยนตืระดับพรีเมี่ยมในรูปแบบรถนำเข้าทั้งคัน หรือที่เรียกว่า CBU (Complete Bulit Up)
การนำรถเข้ามาจำหน่ายของฮอนด้านี้เป็นการฉีกตลาดอีกครั้ง ด้วยส่วนหนึ่งฮอนด้าเป็นรถยนต์ที่มีการทำรถยนต์ในกลุ่มรถหรูเช่นกัน และคงเห็นช่องทางตลาดรถยนต์ในเมืองไทย และวันนี้ทางทีมงานเราก็ได้ไปขับจริงกับ 3 รถนำเข้าที่บอกความแตกต่างได้อย่างชัดเจน
Honda Stepwagon Spada เจ้าตู้ปลาคนเมือง
ใครที่กำลังมองารถยนต์อเนกประสงค์ที่ให้ความแตกต่างในการใช้งาน เราต้องยอมรับว่ารถยนต์ในบ้านเรานั้นปัจจุบันก็มีมาก แต่เมื่อก้าวเข้าสู่ Honda StepWagon Spada ก็ให้ความต่างที่ชัดเจน
รถยนต์ Honda StepWagon เป็นรถยนต์รุ่นหนึ่งที่เคยขายดีมาก่อนในกลุ่ม Grey Market และในรุ่นใหม่นี้ มันก็ดูช่างลงตัวอย่างมากในการขับขี่ในแบบทันสมัย
ตัวรถถูกออกแบบมาในสไตล์เรียบง่าย ดูดี และเช่นเดียวกันมันก็ยังให้ความหรูหราไปพร้อมกันด้วย โดยให้การตอบสนองภายในห้องโดยสารถึง 8 ที่นั่งจากเบาะ 3 แถวที่นั่งได้อย่างลงตัวไม่เบียดเสียด กว้างขวาง ด้วยทรวดทรงของรถที่สูงโปร่งทำให้รู้สึกไม่อึดอัด กระจกบานใหญ่ ทำให้เรานึกถึงว่านี่คือตู้ปลาเคลื่อนที่ดีๆนี่เอง
ในช่วงแรกเรามีโอกาสได้สัมผัสในเรื่องของการนั่ง โดยรถรุ่นนี้ให้อารมณ์ที่ตอบสนองในความสะดวกสบายพอสมควร เบาะ แถวแรกและแถว 2 มีช่องว่างพอที่จะให้สลับกันไปนั่งหน้าถ้าต้องการ ในขณะที่การทรงตัวของรถโดยรวมถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี ไม่นิ่มจนลำบากใจในการขับขี่และไม่โคลงจนเวียนหัวแม้จะมีศูนย์ถ่วงต่ำ
สักพักก็ได้เวลาที่เราจะไปลองขับรถคันนี้กันบ้าง โดยต้องยอมรับว่าไม่ได้ขับเยอะมาก แต่ก็มากพอที่จะบอกได้ว่าการขับขี่ Honda StepWagon Spada ถือว่าเหมาะมากในการเป็นรถยนต์ครอบครัว ในการขับขี่วันนี้เรามีเพื่อน-พี่ ผู้สื่อข่าวมากันเต็มคันรถรวมเราด้วยก็ 6 ชีวิต แต่อัตราเร่งของเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้ากลับไม่ได้ขี้เหร่ ยิ่งแรงบิดสูงสุด 193 นิวตันเมตร ที่ 4200 รอบต่อนาที ก็ชัดเจนว่า นี่คือรถที่มีแรงบิดดีพอสมควร โดยเฉพาะเมื่อมันขับเคลื่อนด้วยระบบเกียร์ CVT มีอัตราทดแปรผันตั้งแต่ 2.470 - 0.450
ช่วงที่เราขับขี่ต้องยอมรับในเรื่องของสมรรนถะที่ให้มาอย่างลงตัว รถคันนี้เองให้อัตราเร่งที่ดีและให้การใช้งานที่เหมาะสมต่อรูปแบบการเดินทางของครอบครัว การให้เกียร์ CVT นั้นค่อนข้างที่จะตอบโจทย์ โดยเฉพาะความนิ่มนวลคุณจะไม่รู้สึกว่ากระชากมากเกินไปนึก ส่วนช่วงล่างเมื่อเป็นคนขับก็รู้สึกมั่นใจ แม้รถที่มีทรงสูงอาจจะไม่ได้เหมาะกับความเร็วสูงมาก แต่มันก็ดีพอที่จะทรงตัวที่ความเร็ว 150 - 160 ก.ม./ช.ม.
Honda Odyssey รุ่นใหม่นี้ สปอร์ตยิ่งขึ้น
เมื่อพูดถึงรถยนต์นั่งแล้วในตระกุลรถนำเข้าของ Honda เจ้า Honda Odyssey ดูจะเป็นชื่อคุ้นหูเราอย่างมาก เพราะรถรุ่นนี้ค่อนข้างจะได้รับความนิยมพอสมควรในรุ่นก่อนหน้านี้ที่เข้ามาจำหน่าย
การกลับมาด้วยเวอร์ชั่นนำเข้า Honda odyssey ค่อนข้างที่จะได้มุ่งเน้นที่การให้อารมณ์ของความสปอร์ตในการขับขี่มากกว่าเดิม ด้วยการนำเสนอเรือนร่างที่พัฒนาให้สปอร์ตตั้งแต่แรกเห็นกันเลยทีเดียวแถมยังดูทันสมัยและ งามสง่าเหมือนรถหรูชั้นดีอย่างไม่เคอะเขิน
แน่นอนตอนที่ขึ้นมาขับขี่เจ้า Honda odyssey เราอดไม่ได้ที่จะมองหาความแตกต่างกับเจ้าตู้ปลา Step Wagon ที่ได้ขับมาก่อนหน้านี้ โดยในภาพรวมนั้น นี่คือรถอเนกประสงค์เหมือนกันแต่ต่างกันที่บุคคลิกในการนำเสนอ เพราะ Honda odyssey เน้นในความสปอร์ตอเนกประสงค์มากว่า ทำให้ รถมีทรวดทรงที่แบนลู่ลมพุ่งทะยานไปข้างหน้า และด้วยหลังคาที่ลาดเอียงก็ทำให้เบาะแถว 3 ตอนหลังไม่เหมาะกับคนสูงใหญ่เลย จากที่โดนยัดเข้าไปนั่งในช่วงแรกๆ
การขับขี่ของเรากับรถยนต์ Honda odyssey ค่อนข้างน่าประทับใจ เรายังมี 6 ชีวิตในรถเหมือนเดิม เพียงแต่ว่าการให้ความสปอร์ตของตัวรถด้วยเครื่องยนต์ขนาด2.4 ลิตร 180 แรงม้า ก็สามารถสนองตอบต่อการขับขี่ ยิ่งช่วงล่างเจ้าคันนี้คือการยกเอาช่วงล่างในแบบรถหรูมาใช้ ก็ยิ่งทำให้มันขับขี่ได้อย่างลงตัวมากขึ้น
ความนุ่มนวลของเจ้าโอดีซีย์อาจจะน้อยกว่า แต่ในขณะเดียวกันมันก็ตอบโจทย์ได้มากกว่า ในด้านการเกาะถนน และความลู่ลมของมัน ทำให้ผู้โดยสารนั่งได้อย่างไม่รู้สึกกังวลแม้จะใช้ความเร็วสูง และเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด ก็ตอบสนองได้ดีและนิ่มนวลพอสมควร มาพร้อมoverdrive ช่วยให้ความนุ่มนวลแม้ต้องเร่งรีบ
Honda CR-Z เจ้าสปอร์ตพลังไฮบริด
แม้อาจจะไม่ใช่รถที่น่าจะขายดิบขายดี แต่ Honda ก็คงมั่นใจว่าสปอร์ตพลังไฮบริดน่าจะเป็นที่ถูกใจใครหลายๆคนพอสมควร และมันมาพร้อมราคา 1.9 ล้านบาทถือว่าไม่แพงเลยสำหรับความไฮเทคของมัน
Honda CR-Z เป็นรถที่ได้รับความนิยมในต่างประเทศละมันก็เป็นรถสปอร์ตรุ่นเดียวที่มาพร้อมระบบไฮบริด ซึ่งในทริปนี้ก็ค่อนข้างเนื้อหอมพอสมควร เนื่องจากเป็นรถสปอร์ตทำให้หลายคนอยากที่จะลองสักครั้ง
เรามาได้ขับ Honda CR-Z ในช่วงวันที่ 2 ของการเดินทางแต่ก็เป็นช่วงสั้นๆที่ได้คบรถคันนี้ โดยเมื่อเริ่มแรกขึ้นขับเจ้าสปอร์ต มันก็ทำเราประทับใจตั้งแต่เรือนร่างในสไตล์ 3 ประตูกึ่งท้ายลาด ซึ่งทรวดทรงนี้ได้รับการขัดเกลาจากรถรุ่น Honda Insight รถไฮบริดตัวจริงของฮอนด้าที่ขึ้นชื่อในเรื่องความประหยัด
การออกแบบภายนอกที่น่าประทับใจ เมื่อก้าวมาภายในก็ยิ่งหลงใหลมากขึ้น โดยตรงหน้าคนขับมาพร้อมชุดมาตรวัดสปอร์ตแบบ 3 มิติ ที่ดูแปลกตา และสามารถเปลี่ยนสีตามโหมดการขับขี่ที่มีอยู่ด้วยกัน 3 โหมด คือ ประหยัด,ทั่วไปและสปอร์ต นอกจากนี้ ยังบอกสถานการณ์ทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้าระหว่างชาร์จไฟฟ้าหรือทำงาน
เมื่อเริ่มเลื่อนรถเพื่อออกสู่ถนนการทำงานของระบบไฮบริดฮอนด้า จะเริ่มต้นด้วยการใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเข้ามาเป็นตัวช่วยขับเคลื่อนเพื่อให้ความสามารถในการออกตัว และในย่านความเร็วต่ำ ขณะที่เครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร จะเข้ามาช่วยรับช่วงต่อเมื่อมีความเร็วเพิ่มขึ้น และมอเตอร์ไฟฟ้าก็จะช่วยอีกครั้งเมื่อต้องการเร่งแซง
การขับขี่เจ้า CR-Z ค่อนข้างจะชัดเจนในเรื่องการให้อารมณ์แต่ละอารมณ์ขับขี่ที่ต่างกันไม่ว่าจะประหยัด ทั่วไป หรือสปอร์ต ทั้งหมดต่างตอบสนองตามความต้องการของผู้ขับขี่อย่างชัดเจน แม้จะให้การขับขี่ด้วยระบบเดียวกันก็ตาม
อย่างไรก็ดีแม้ว่ามันจะเป็นรถยนต์พลังไฮบริดที่ให้ความสามารถในการขับขี่ในสไตล์รถสปอร์ตโดยเฉพาะช่วงล่างที่เหนียวแน่นกับถนน ระบบกันสะเทือนถูกเซทมาให้มีการตอบสนองการขับขี่ที่กระฉับกระเฉง ทว่าในเรื่องเครื่องยนต์มันก็ตอบสนองอารมณ์สปอร์ตได้ยังไม่มากนัก เมื่อเทียบกับสปอร์ตรุ่นอื่น ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นด้วยอารมณ์ที่วางอยู่ปัจจัยเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร ซึ่งทำได้ดีในช่วงรอบเครื่องยนต์กลางๆ แต่เมื่อรอบลึกๆขึ้นไปกว่า 5500 รอบต่อนาทีโดยประมาณมันก็จะรู้สึกขาดกำลังไป แต่มันก็ดีพอที่จะทำตัวเลข 180 ก.ม. ให้เห็นในช่วงเวลาขับขี่สั้นๆ ของเรา
จบทริปเราลองมานั่งตัดสินใจคิดฝันหวานเล่นๆว่า ถ้ามีโอกาสจะเลือก แต่เรากลับไม่สามารถสรุปได้ว่าคันไหนดีกว่าคันไหน ด้วยส่วนหนึ่ง ทุกคันต่างมีเอกลักษณ์ในการขับขี่ของมันเอง และแน่นอนนี่คืออารมณ์ของรถนำเข้าที่ไม่มีใครเหมือน
อัลบั้มภาพ 15 ภาพ