เมอร์เซเดส-เบนซ์จัดทัพอวดโฉมยนตรกรรมใหม่ 3 รุ่น ตอบโจทย์ ก่อนงาน Motor Expo 2012
เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) รุกตลาดรถหรูส่งท้ายปี เปิดตัวยนตรกรรมใหม่พร้อมกันถึง 3 รุ่น ตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้า
ดร. อเล็กซานเดอร์ เพาฟเลอร์ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเปิดเผยว่า ในปัจจุบันการคัดสรรยนตรกรรม นอกจากจะต้องเลือกให้เหมาะสมกับความต้องการของตลาดแล้ว ยังต้องคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ อีกทั้งยังต้องสามารถตอบสนองความต้องการและไลฟ์สไตล์ของลูกค้าได้อย่างตรงจุด เราจึงได้นำเสนอยนตรกรรมหลากหลายรุ่นที่สะท้อนความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวในแบบฉบับของเมอร์เซเดส-เบนซ์ที่แตกต่างกันออกไป
ว่า "ไม่ว่าจะเป็น The new CLS Shooting Brake ยนตรกรรมที่สะท้อนความโดดเด่นของรูปลักษณ์ที่มีดีไซน์อันน่าหลงใหล ซึ่งสามารถผสานคุณสมบัติการใช้งานได้อย่างลงตัว CLS 250 CDI รถยนต์คูเป้ 4 ประตูโฉมใหม่ที่ได้รับการออกแบบให้ดูปราดเปรียว โฉบเฉี่ยวมากขึ้น และ E 300 BlueTEC HYBRID ครั้งแรกในประเทศไทยกับยานยนต์หรูที่ประหยัดพลังงานมากที่สุดซึ่งมาพร้อมกับเครื่องยนต์ไฮบริดดีเซลที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม"
ดร. เพาฟเลอร์ กล่าวสรุปว่า "การนำรถโมเดลใหม่ๆ เข้ามาในประเทศไทย บริษัทฯ จะคัดสรรผลิตภัณฑ์ให้เหมาะกับโครงสร้างของประเทศ รวมทั้งมีการเตรียมพร้อมทีมช่างเทคนิคให้มีทักษะความรู้ ความเชี่ยวชาญในรายละเอียดผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีใหม่ๆ ตลอดจนเครื่องมือและอุปกรณ์เฉพาะทางจากกลุ่มบริษัทเดมเลอร์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปัจจุบันพฤติกรรมการเลือกซื้อรถยนต์ที่มาจากผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการเพิ่มขึ้น เนื่องจากลูกค้าเล็งเห็นถึงความสำคัญเรื่องข้อได้เปรียบสำคัญที่จะได้รับจากการซื้อจากผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการ
สำหรับการแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่ออกสู่ ตลาดในครั้งนี้ ได้แก่ The new CLS Shooting Brake ต้นแบบของยานยนต์รูปลักษณ์ใหม่แบบไร้ขีดจำกัดที่เปี่ยมไปด้วยดีไซน์อันน่าหลงใหล และยังคงความหรูหรา ปราดเปรียวเข้าไว้ด้วยกัน ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านการออกแบบ โดยโครงสร้าง (ความยาว 4,956 มม. ความกว้าง 1,881 มม. และความสูง 1,416 มม.) ที่สร้างความแตกต่างอันโดดเด่น ด้วยลายเส้นที่โค้งมนตั้งแต่ฝากระโปรงหน้า โครงกระจกด้านข้างแบบไร้ขอบ ไปจนถึงหลังคาที่ลาดลงต่อเนื่องจรดด้านท้ายของตัวรถ และที่สร้างจุดเด่นสำคัญให้แก่รถคันนี้ คือ ดีไซน์ในแบบสปอร์ต 5 ประตู ซึ่งมีด้านท้ายที่กว้างอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
โดยมาพร้อมกับเครื่องยนต์ดีเซลแบบแถวเรียง 4 สูบ ความจุกระบอกสูบ 2,143 ซีซี ขุมพลัง 150 กิโลวัตต์ (204 แรงม้า) ที่ 3,800 รอบ/นาที มีแรงบิดสูงสุดที่ 500 นิวตันเมตรที่ 1,600 - 1,800 รอบ/นาที อัตราเร่งจาก 0 - 100 กม./ชม. ภายในระยะเวลา 7.8 วินาที ความเร็วสูงสุด 235 กม./ชม. ถ่ายทอดผ่านกำลังเกียร์อัตโนมัติเดินหน้าแบบ 7 จังหวะ (7G-TRONIC PLUS) แบบ DIRECT SELECT พร้อมระบบเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Steering-wheel Gearshift Paddles) ซึ่งมีราคาจำหย่ายในประเทศไทยเริ่มต้นเพียง 4.99 ล้านบาท เท่านั้น
สำหรับ CLS 250 CDI ความเหนือระดับในสไตล์สปอร์ตคูเป้ 4 ประตูที่ผสานรวมกับดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์มาพร้อมกับเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบแถวเรียง ขนาด 2,143 ซีซี กำลังแรงม้าสูงสุดที่ 150 กิโลวัตต์ (204 แรงม้า) ที่ 3,800 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตรที่ 1,600 - 1,800 รอบ/นาที อัตราเร่งจาก 0 - 100 กม./ชม. ภายในระยะเวลา 7.5 วินาที ความเร็วสูงสุด 242 กม./ชม. พละกำลังทั้งหมดถูกถ่ายทอดผ่านเกียร์อัตโนมัติเดินหน้า 7 จังหวะ (7G-TRONIC PLUS) อันทรงประสิทธิภาพ โดยแนะนำเพียง 2 รุ่น มีราคาจำหน่ายที่ 4.99 และ 5.29 ล้านบาท พร้อมกับแพ็คเกจตบแต่งพิเศจาก AMG ด้วย
ส่วนในปีหน้า Mercedes Benz Thailand จะแนะนำ Mercedes Benz E 300 BlueTEC HYBRID ครั้งแรกในไทยสำหรับรถยนต์พรีเมี่ยมเครื่องยนต์ไฮบริดดีเซลที่สะอาดและประหยัดมากที่สุด โดย E 300 BlueTEC HYBRID มาพร้อมกับเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบแถวเรียง ขนาด 2,143 ซีซี กำลังแรงม้าสูงสุดที่ 150 กิโลวัตต์ (204 แรงม้า) แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า โดยมีกำลังบิดที่ 20 กิโลวัตต์ แรงบิดสูงสุดที่ 250 นิวตันเมตร พร้อมด้วยฟังก์ชั่น ECO Start/Stop ที่ช่วยประหยัดพลังงานมากยิ่งขึ้น แต่ยังคงให้พละกำลังเช่นเดิม
Mercedes เคลมอัตราเร่ง Mercedes Benz E 300 BlueTEC HYBRID จาก 0 - 100 กม./ชม. ภายในระยะเวลา 7.5 วินาที ความเร็วสูงสุด 242 กม./ชม. อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง 4.2-4.3 ลิตร/100 กม. (23.2-23.8 กม./ ลิตร) และอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 109 กรัม/กม.โดยพละกำลังถูกถ่ายทอดผ่านเกียร์อัตโนมัติเดินหน้า 7 จังหวะ (7G-TRONIC PLUS) พร้อมด้วยแบตเตอรี่ลิเธียม-อิออนขนาด 120 โวลต์ โดยที่รูปลักษณ์ภายในและภายนอกยังคงสร้างความประทับใจด้วยการมอบความสะดวกสบาย ความหรูหรา ความปลอดภัย และพื้นที่ใช้สอยเช่นเดิม คาดว่าจะสามารถจำหน่ายได้จริงในช่วงปีไตรมาส 2 ปีหน้า
อัลบั้มภาพ 45 ภาพ