Sanook! Drive : Honda CR-Z สมรรถนะเต็มพิกัดในสไตล์ไฮบริด ...
"โอป่ะ กังนัมสไตล์...กังนัมสไตล์" ประโยคที่ได้ยินแว่วผ่านหูแล้วผ่านหูอีกในช่วงที่ผ่านมากับเพลง ที่น่าจะเรียกว่ามีกระแสที่ดีที่สุดในโลก และมีท่าเต้นที่ต้องตั้งคำถามว่าคิดได้ไง แต่ในขณะที่หลายคนสนใจหมกมุ่นกับท่าเต้นที่คิดว่ามันตลกและเท่ห์ดีเพลงนี้ก็มีความหมายถึงสไตล์ป๋าของผู้คนย่านกังนัมที่เกาหลี และนั่นเป็นสิ่งที่เราต้องคิดถึงเจ้ารถยนต์สปอร์ตชั้นนำ ที่หลายคนอาจจะมีสิทธิ์ที่จะเอื้อมถึงและยังเป็นไฮบริดด้วย
คงเป็นคันไหนไปไม่ได้ ถ้าเราจะพูดว่าเรากำลังพูดถึงรถยนต์สปอร์ตไฮบริด Honda CR-Z ใหม่ที่เพิ่งนำมาเปิดตัวอย่างเป็นทางการในปีที่ผ่านมา ในฐานะรถยนต์นำเข้าจากค่ายรถยนต์ Honda ที่เป็นหนึ่งใน 3 ตัวเลือก สำหรับสาวกที่ต้องการอารมณ์ที่แตกต่างมากกว่าแค่รถยนต์ที่มีให้เลือกในตลาด
ทรวดทรงที่งดงามกับความทันสมัยในสไตล์
ย้อนกลับไปเมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมา Honda ได้เคยเชิญเราไปสัมผัสยานยนต์ทรงสมรรถนะคันนี้ และ Honda cr-z เป็นรถยนต์ที่เนื้อหอม อย่างที่บอกมันอาจจะเป็นรถสปอร์ตที่กลับมาอีกครั้ง เพื่อยืนยันว่า ฮอนด้ายังเห็นไทยเป็นตลาดรถยนต์ที่มีศักยภาพไม่แพ้ชาติอื่น
ถ้าย้อนความกลับไปในช่วงปี 90 ฮอนด้า ถือเป็นค่ายรถยนต์ที่เน้นมรการีสร้างจุดขายอย่างมาก และรถยนต์ประเภทรถสปอร์ตนี้ก็หลังไหลเข้ามา ตั้งแต่ซิตี้คาร์ Honda civic 3 ประตู ที่ยังเป็นรถมือสองที่มีราคาจำหน่ายดีในตลาดวันนี้ ตามต่อเนื่องด้วยรถยต์ ฮอนด้า ซีวิค คูเป้ เวอร์ชั่นที่งดงามตามติดมาในรุ่นต่อมา และในหมู่สาวกก็ยังมีรถยนต์ฮอนด้า intregra ที่แรงไม่แพ้ใครสามารถหาจับจอง ดังนั้นในภาพของคนที่อยู่วงการยานยนต์มาพอสมควร การนำ Honda CR-Z เข้ามาเปิดตลาด ก็ถือเป็น การมองจุดขายเพิ่มเติมจากกลุ่มรถบ้านเน้นใช้งานให้คุ้มค่า หรือหรูหราเพื่อดูดีมีระดับ
การแนะนำรถยนต์ Honda CR-Z สู่ตลาดของ ฮอนด้า ตั้งแต่ที่ญี่ปุ่นจวบจนมันถูกนำข้ามน้ำข้ามทะเลมาไทย รถยนต์รุ่นนี้ ถูกออกแบบด้วยความมาดมั่นที่ต้องการให้เส้นสายของตัวรถมีจุดขายในตัวของมันเอง อาจจะเรียกได้ว่า ต้องการให้คนที่เห็นมีความประทับใจในเรื่องการออกแบบ โดยเฉพาะในยามเคลื่อนไหว
การออกแบบในภูมิภาคยุโรปนั้นทำให้รถ Honda Cr-Z มีความพิถีพิถัน ในการให้รายละเอียดในการออกแบบค่อนข้างมาก ซึ่งการเป็นรถยนต์สปอร์ตที่ถูกวางแผนให้มันเป็นรถยนต์พลังไฮบริดนั้น ก็ทำให้ต้องมีปัจจัยในการออกแบบ 3 ประการ คือ ดูมีเสน่ห์ ,มีความพลิ้วไหวในแบบรถยนต์สปอร์ต และพร้อมกันนั้น ยังต้องดูสะอาดสะอ้านในเรื่องการออกแบบที่ต้องคู่กับความทันสมัย
การให้รายละเอียดในการอออกแบบค่อนของทำให้เมื่อเรามอง Honda CR-Z ทุกมุมมอง ตั้งแต่ไปรับรถที่ Honda มา เจ้ารถคันนี้ก็ฉายแววในความแตกต่างในเรื่องตัวตนที่ไม่ว่าจะมองในมุมไหน มันก็ดูลงตัวในแบบรถสปอร์ตคูเป้สไตล์ 3ประตู
ทรวดทรงทางด้านหน้าถูกทำให้ตัวรถทีความทันสมัยมากยิ่งขึ้นในการออกแบบ ในสไตล์รถยนต์แบบ 3 ประตู และพร้อมกันนั้น มันก็ยังเป็นรถยนต์ที่มุ่งเน้นในส่วนของการให้รายละเอียดที่เย้ายวนอย่างมีเสน่ห์ และให้ความจดจำตั้งแต่แรกเห็น ด้วยเส้นสายทางด้านหน้า ที่ดูทันสมัยและลื่นไหล ต่อเนื่องสู่ด้านข้างกับประตูยาวๆ ที่เหมือนรถสปอร์ตคูเป้ และ และด้านหลังถูกขลับการออกแบบให้ลงตัวมากยิ่งขึ้น การออกแบบรถยนต์สไตล์ท้ายลาดที่เป็นการผสมผสานในเรื่องของวิศวกรรมการออกแบบเข้ามา และเมื่อในองค์รวมรถคันนี้มีความเป็นตัวตนในเรื่องความทันสมัย สปอร์ต และมันดูคล้ายๆกับซุปเปอร์คาร์ขนาดย่อมๆคันหนึ่งเลยทีเดียว
ห้องโดยสารทันสมัยผนวกอารมณ์รถครอบครัว
2+1 เป็น ..2+2 เป็น 4 สูตร เลขบวกที่ใครก็จำกันได้เมื่อย้อนความถึงวิชาคณิตศาสตร์สมัยเยาว์วัยและ สูตร 2+2 นี้ก็เป็นอารมณ์ตั้งต้นของรถยนต์สปอร์ตไฮบริดคันนี้ ที่ต้องการให้เป็นมากกว่าแค่รถแรงแต่ยังต้องใช้งานจริงได้อีกด้วย ถือเป็นจุดยืนที่ฮอนด้าต้องการสร้างความแตกต่าง
ทรวดทรง 3 ประตูจากภายนอกถูกปรับให้ภายในมีพื้นที่โดยสารมากพอที่จะบรรจุผู้โดยสารให้สามารถเดินทางได้ 4 คน แม้มันจะดูเป็นเรื่องนิยาย ที่รถสปอร์ตจะต้องมีการเดินทางมากถึง 4คน โดยเฉพาะเมื่อนึกว่ามันต้องอัดไปในเรือนร่างเล็กๆของ Honda CR-Z ก็ตามที
เมื่อก้าวเข้าห้องโดยสาร ประตูคู่หน้าที่ยาว ทำให้มันมีอารมณ์เป็นรถยนต์สไตล์สปอร์ตมายิ่งขึ้น และเมื่อลงนั่งที่เบาะสปอร์ตแล้ว จะพบการออกแบบที่ให้ความรู้สึก ที่น่าจะเรียกว่าเหมือนการถอดเอารถโลกอนาคตมาไว้ตรงหน้า เลยทีเดียว
รายละเอียดที่เยอะอยู่แล้วของรถยนต์ไฮบริดทำให้ Honda CR-Z จำเป็นต้องทำให้มันใช้งานง่ายและเริ่มต้นด้วยไมล์เรืองแสงที่เป็นอุปกรณ์มาตรฐานของยานยนต์สมัยใหม่ โดยเฉพาะเมื่อในภาคการออกแบบมันต้องการให้รายละเอียดต่างๆเป็นส่วนที่สำคัญต่อคนขับมากกว่าคนนั่ง ยิ่งเราพูดถึงการขับขี่ที่ต้องการอะไรมากกว่าแค่เท้าแตะคันเร่ง
ไมล์เรืองแสงถูกทำให้ตอบสนองด้วยสไตล์ 3 มิติบอกค่าต่างๆมากมาย เริ่มตั้งแต่ฝั่งซ้ายที่บอกการทำงานของ ระบบไฮบริดเริ่มจากด้านบนที่บอกพลังงานแบตเตอร์รี่ไฮบริด ถัดลงมาเป็นการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้าและตำแหน่งเกียร์ที่ใช้
ตรงกลางเป็นที่อยู่ของชุดวัดรอบ โดยเครื่องยนต์จะเป็นแบบเข็มให้ความรู้สึกที่ดูแล้วคลาสสิค ผสานกับการให้ความทันสมัยที่ตัวเลขความเร็วที่ถูกทำให้ดูมีความแตกต่างในสไตล์ 3 มิติ ซึ่งที่ขอบของตัวเลขนั้น สามารถเปลี่ยนสีเป็นเขียว น้ำเงินและ แดง จากการปรับโหมดการขับขี่และสภาวะการขับขี่ ซึ่งสามารถจัดวางไว้ทางริมขวามือสุดของคอนโซล คือ Econ,Normal และ Sport ในขณะที่หน้าปัดทางด้านขวาเป็นการบอกการใช้เชื้อเพลิง อัตราประหยัด และรายละเอียดการทำงานจากจอแสดงผลในการขับขี่ที่บรรจุไว้รวมกันที่ภายในหนึ่งเดียว ส่วนที่พวงมาลัยก็มีแป้น Paddle Shift รวมถึง ปุ่มควบคุมเครื่องเสียงและล็อคความเร็วเดินทาง Cruise Control
ตรงกลางคอนโซลเป็นที่อยู่ของระบบเครื่องเสียงและระบบปรับอากาศของรถที่ให้การใช้งานที่ง่ายดายไม่ว่าจะจากคนขับหรือคนนั่ง และเมื่อเหลียวมองทางก้านหลัง มันก็ยังมีที่นั่ง อีก 2 ที่ แต่แค่มองก็ว่าแคบแล้ว จนน่าจะบอกว่าอย่างมีมาให้ดีกว่า แต่จากลองทดสอบเราก็พบว่าคนที่สูงระดับ 160 ซม. พอที่จะยัดไปได้ หรือน่าจะบอกว่า ถ้าคุณอารมณ์ป๋าอยากพาสาวๆไปเยอะๆก็พอได้อยู่ หากแต่บางทีอาจจะมีบ่นบ้างด้วยส่วนหนึ่งจากหลังคาท้ายลาดนั้นเอง
เรื่องพื้นที่เก็บสัมภาระก็มากพอตัว แต่ที่แปลก คือเมื่อเปิดทางด้านหลังมา คุณจะพบกับหมุดยึดที่นั่งสำหรับเด็กยิ่งตอกย้ำว่านี่เป็นรถสปอร์ตที่ต้องการอะไรมากกว่าแค่ความเป็นรถยนต์นั่งเน้นแรงทั่วๆไป แบบที่หลายคนเข้าใจ และถ้าให้พูดมันเพียงพอต่อการขับขี่ในเมืองจริงๆ ...
สัมผัสสมรรถนะที่สุดของสปอร์ตไฮบริด ราคาไม่ถึง 2 ล้าน
เมื่อพูดถึงรถยนต์สปอร์ตแล้วไม่ว่าใครก็คงจะส้นเรื่องสมรรถนะในการขับขี่มากกว่า แค่ในเรื่องของการออกแบบหรือเรื่องประหยัดน้ำมัน ใต้ฝากระโปรงเจ้ารถยนต์สปอร์ต Hybrid Honda CR-Z นี้ก็มาพร้อมความทันสมัย ด้วยขุมพลังบล็อกเล็กแต่กล้ามโต ที่ผสานความทันสมัยจากการแต่งเติมระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าเข้ามาร่วมในการทำงานของเครื่องยนต์
ขุมพลังบล็อกเล็กขนาด 1.5 ลิตร สำหรับเราๆ ท่านๆ คงจะมองว่ามันก็คงไม่ต่างอะไรนัก แต่เมื่อมันถูกทำให้มีสมรรถนะมากขึ้นด้วยการใส่ระบบไฮบริดเข้ามานั้น เครื่องยนต์ 1500 ซีซี ธรรมดาๆ ก็มีความสามารถมากยิ่งขึ้น แม้ฟังตัวเลขเรื่องกำลังอาจจะน้อยไปสักนิดกับตัวเลข 110 แรงม้า ที่ 6000 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุดเพียง 144 นิวตันเมตร ที่ 4800 รอบต่อนาที แต่ทั้งหมดนั้นก็ถูกชดเชยด้วยแรงบิดสูงในรอบต่ำจากมอเตอร์ไฟฟ้าที่พร้อมเสริมการทำงานเครื่องยนต์ทันทีตั้งแต่รอบต่ำ โดยบวกเพิ่มอีก 10 แรงม้าที่ 1000 รอบต่อนาที และ แรงบิดอีก 90 นิวตันเมตรที่ 500 รอบต่อนาที ทำให้เครื่องยนต์ใน Honda CR-Z ใหม่นี้มีความสามารถในการปั่นฝีเท้าด้วยแรงบิดสูงในรอบต่ำ
การพัฒนาเครื่องยนต์บล็อกนี้ในการเน้นให้ความสามารถตอบสนองนั้น ทางฮอนด้าได้มีการปรับในส่วนของระบบท่อร่วมไอดีแบบ Low port Intake ให้ความไหลลื่นของอากาศ และการจับคู่ในระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT ที่ให้ความไหลลื่น พร้อมอัตราทดที่ตอบสนอง ตั้งแต่2.526 ไปจนถึง 0.421 เมื่อรวมกับความเบาของน้ำหนักตัวถังแล้ว ความสามารถในการขับขี่ของมันก็เรียกว่าเทียบชั้นสปอร์ตชั้นนำ ที่มีเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร เลยทีเดียว
สิ่งที่เราพูดมายาวนานต่อเนื่องนี้ถูกพิสูจน์ให้ทันทีตั้งแต่นำรถคันนี้เลี้ยวออกมาจาก Honda และด้วยสมรรถนะที่ลงตัวของมัน ทำให้หลายครั้ง ที่สมรรถนะถูกปลดปล่อยออกมาท่ามกลางเขตเมือง เรียกว่าเป็นรถยนต์ที่ขับเพลินและลงตัวมากยิ่งขึ้นต่อการขับขี่ โดยเฉพาะในเมือง ยิ่งเมื่อคุณสามารถเปลี่ยนอารมณ์การขับขี่ได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะประหยัด หรือ สปอร์ต ถือเป็นอีกสิ่งที่ทำให้รถคันนี้มีตัวตนในเรื่องการตอบสนองที่แตกต่างมากยิ่งขึ้น แต่ถึงจะพูดแบบนั้นในโหมดประหยัด ก็อาจจะไม่เหมาะกับบางที่เช่นการขึ้นห้างสรรพสินค้าที่รถติด เพราะไฟฟ้าในแบตเตอร์รี่จะถูกใช้ไปมาก จนอาจจะเรียกว่าหายตัวได้เลยทีเดียว
ในการขับขี่เขตเมือง สิ่งที่เราค้นพบอีกเรื่องที่สำคัญก็คือความคล่องตัวของรถที่ตอบสนองได้ดี จนเรียกว่า ถ้าขับในเมืองนี้ความหล่อของมันไม่ได้เป็นเพียงแค่สวยงามเท่านั้น แต่ยังสามารถพริ้วไหวได้อย่างจริงจังมากยิ่งขึ้น ด้วยความยาวสูงสุดเพียง 4,080 ม.ม. กว้าง 1,740 ม.ม. และสูง 1,395 ม.ม. บวกกับฐานล้อ 2,435 ม.ม. มันก็ลงตัวมากขึ้นในเรื่องการขับขี่ โดยเฉพาะการวาดลีลาผ่ารถติดป่าคอนกรีต
ความลงตัวของเรือนร่างถูกทำให้ขับง่ายยิ่งขึ้นกับชุดพวงมาลัยมอเตอร์ไฟฟ้า ช่วยในการตอบสนองที่เบาะมือ เมื่อบวกกับระบบ Paddle shift ที่พวงมาลัย ก็ทำให้สามารถขับเคลื่อนได้อย่างเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับตัวรถ แต่ถึงแบบนั้นบางครั้งก็มีอุปสรรคเช่นกัน โดยเฉพาะวงเลี้ยวระดับ 5 เมตร ถือเป็นเรื่องไม่หมูสำหรับที่แคบในบางครั้ง
ช่วงระหว่างการทดสอบ ซึ่งเป็นช่วงที่มีพายุเข้านั้น Honda CR-Z ใหม่นั้น ตอบสนองด้วยเรือนร่างที่ดูดีลงตัวในเรื่องการขับขี่ กับระบบช่วงล่างที่ปรับแต่งมาเป็นอย่างดี แม้จะเลือกใช้ ระบบกันสะเทือนแบบแม็คเฟอร์สันสตรัททางด้านหน้า และทอร์ชั่นบีมทางด้านหลัง แต่มันก็มีความแตกต่างจากความเป็นรถซิตี้คาร์ธรรมดาทั่วไป ที่ใช้ระบบกันสะเทือนแบบเดียวกัน
สำหรับใครที่ต้องการความสบายในการขับขี่ก็คงต้องยอมรับว่าเจ้ารถสปอร์ตนั้นอาจจะไม่เหมาะแก่การใช้งานด้วยความกระด้างของช่วงล่าง ที่สามารถรู้สึกได้แทบจะทันที และก็ค่อนข้างพอสมควรเมื่ออยู่ในความเร็วต่ำ ถึงอารมณ์ของ Honda CR-Z อาจจะลดดีกรีในเรื่องนี้ด้วยการปรับช่วงล่างให้มีการตอบสนองไว จนสามารถรู้สึกได้ในสไตล์ความหนึบแน่นมากกว่า แข็งเป็นม้ากระโดด แต่ถึงแบบนั้น ถ้าเคยขับรถซิตี้คาร์กับรถสปอร์ตมันก็ยังมีความแตกต่างกันอยู่ดี ทว่าเรื่องการเกาะถนนนั้น มันก็เป็นเลิศมากยิ่งขึ้น ยิ่งกับสภาพถนนช่วงที่ทดสอบ ที่โดยมากจะเป็นช่วงฝนตกเสียมาก การใช้ความเร็วมากถึง 130-140 กม./ช.ม. ในการขับขี่บนทางด่วน แม้จะยามเข้าโค้งก็ยังให้ความมั่นใจ
นอกเมืองสมรรถนะเยี่ยม แต่เหมาะเที่ยวแค่ 2 คน
การขับขี่ Honda CR-Z ใหม่นั้น นอกจากในเมืองแล้ว คงไม่พ้นเรื่องการขับขี่นอกเมือง หรือบนทางหลวง ที่ซึ่งในระหว่างการเดินทางมันอาจจะกลายเป็นสนามประลองความเร็ว ยิ่งเมื่อพูดว่านี่เป็นสปอร์ตคาร์ที่มีเครื่องยนต์แค่ 1.5 ลิตร แม้จะเป็นเครื่องยนต์ไฮบริด แต่ข้อจำกัดของเครื่องยนต์บล็อกเล็กก็ยังคงเป็นอะไรที่ไม่สามารถก้าวข้ามได้
วันต่อมาเราจัดทริปสั้นๆในการเดินทางด้วย Honda CR-Z โดยในครั้งนี้เราอัญเชิญเพื่อนผองมาร่วมทดสอบ รวมทั้งหมด 4 คน เดินทางเอาใกล้ไม่คิดมากไปสุพรรณบุรี เพื่อดูว่า รถสปอร์ตคันนี้จะตอบโจทย์ได้ดีอย่างที่เราคิดหรือไม่
การยัดคน 4 คน ลงไปในรถคันนี้แค่เริ่มต้นมันก็ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด เพราะ ผู้โดยสารตอนหลัง ถ้าไม่ตัวเล็กจริงก็เข้ายาก และนั่นทำให้พี่คนหนึ่งของเราต้องนั่งก้มโค้งไปตลอดทางการขับขี่ ย่อมปฏิเสธไม่ได้ว่ามันคงไม่ค่อยสบายนัก ไม่ว่าจะพื้นที่เหนือศีรษะหรือ พื้นที่วางขา เอง อาจจะเรียกว่าสุดบรรยาย กับคนที่มีความสูง 175 ซม. และแม้กับคนที่ตัวเล็กย่างหญิงสาวสูง 160 ซม. มันก็ยังยากอยู่
คนนั่งด้านหน้าไม่ได้เป็นปัญหาอย่างที่คิดมากนัก ด้วยอาจจะรถคันนี้เน้นที่คนขับกับตุ๊กตาหน้ารถมากกว่า แต่เมื่อ Honda CR-Z ต้องมีคนเสียสละนั่งหลัง 2 คนมันก็ทำให้ด้านหน้า ต้องเอื้อเฟื้อชาวบ้านบ้าง และทำให้ตำแหน่งนั่งของคนขับที่สูง 182 ซม. อาจจะได้ท่าที่ไม่กระชับพอดี แต่ก็พอขับได้ ..
4 คนกับบทผจญภัย ตอนใหม่ ทำให้เราเริ่มเห็น ชัดเจนมากยิ่งขึ้นว่า เจ้าสปอร์ตคันนี้เอาได้ แต่แน่นอน เมื่อผ่านถนน ที่ขรุขระมันก็ทำให้คนข้างหลังหัวโน ได้อย่างไม่ต้องสงสัย แต่เมื่อผิวทางเรียบแล้ว มันก็พร้อมในการที่จำอำนวยความสะดวก คิดๆเอาว่า เขย่าๆแล้วมันก็ลงตัว
ในช่วงการขับขี่ใช้ความเร็วเดินทาง ที่ความเร็ว 100 ก.ม./ช.ม. Honda CR-Z ใช้รอบเครื่องยนต์อยู่ราวๆ 1900 รอบต่อนาที โดยดูจากมาตรวัดที่หน้าปัดรถ เช่นเดียวกับเมื่อต้องการความเร็วสูงขึ้นที่ 120 ก.ม./ช.ม. มันก็ใช้รอบเครื่องราวๆ 2400 รอบต่อนาที และถ้าจะขับจู๋จี๋ที่ 90 ก.ม./ช.ม. มันก็พร้อมประหยัดที่ 1800 รอบต่อนาที เท่านั้น ส่วนหนึ่งก็เพราะเกียร์ CVT นั้นมีอัตราทดมากถึง 7 สปีด และการส่งกำลังแบบนี้ก็มีทุนเดิมในเรื่องการใช้รอบเครื่องต่ำอยู่แล้ว
เราลองทดสอบอัตราเร่ง 80 -120 ก.ม./ชม. เพื่อค้นหาการตอบสนอง และที่ความเร็ว80 ที่รอบเครื่องอยู่ที่ 1500 รอบต่อนาที เท่านั้น ในโหมด Normal เมื่อกระแทกคันเร่งไปบนพื้นห้องโดยสาร มอเตอร์ไฟฟ้าก็จะเริ่มรับช่วงก่อน ทำให้รู้สึกได้ถึงแรงบิดอันมหาศาล อาจจะอารมณ์คล้ายๆกับเครื่องดีเซล แต่มันเงียบนิ่ง และไปเนียนๆ ท้ายสุด ได้เวลา 9.4 วินาที ตอบโจทย์เรื่องของสมรรถนะในเรื่องเร่ง ซึ่ง แน่นอนว่าถ้านั่งน้อยกว่านี้ ตัวเลขคงจะดีขึ้น จนอาจจะยืนพื้นที่ 9 วินาทีเป๊ะ! ก็ได้ รวมถึงการเปลี่ยนโหมดการขับขี่ก็ย่อมมีผลเช่นกัน
ในเรื่องความเร็วสูงสุดที่หลายคนมักจะเฝ้าถวิลหาเมื่อพูดถึงสปอร์ตคาร์ เมื่อถนนว่างๆเราก็ลองเหยียบดูในโหมด Normal แล้วก็ค้นพบว่าเจ้ารถสปอร์ตคันนี้ สามารถปั่นฝีเท้าแบบครั้งเดียวถึง ความเร็ว 180 ก.ม./ช.ม. แต่ถึงแบบนั้น ในช่วงความเร็วที่รอบเครื่องยนต์ปลายนั้นก็ไม่ค่อยจะไหลนัก ต้องใช้เวลาและส่งด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า และในที่สุดเราได้เพียง 182 ก.ม./ช.ม. เพราะข้างหน้าถนนไม่เอื้อต่อการทดสอบความเร็วสูง
โหมดที่ต่างอารมณ์ที่เปลี่ยน
สิ่งหนึ่งที่โดดเด่นมากในรถยนต์ Honda CR-Z เมื่อเทียบกับรถสปอร์ตรุ่นอื่นๆที่ค่ายรถยนต์ชั้นนำหลายค่ายทำออกมาตอบสนองลูกค้านั้น ก็คงไม่พ้นในเรื่อง โหมดการขับขี่ ที่แสดงออกอย่างชัดเจนให้คนขับได้เลือกไม่ว่าจะโหมดประหยัด ,ทั่วไป และ สปอร์ต ซึ่งนอกจากนี้ในรุ่นใหม่ล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัวที่ญี่ปุ่นยังมี สปอร์ตพลัส ที่จะทำงานคล้าย Nitrous Oxide ด้วยการนำเอาพลังงานไฟฟ้ามาปั่นมอเตอร์ไฟฟ้า ในเวลา 10 วินาที ช่วยในความระทึก แต่ตัวใหม่นี้ยังไม่เข้าไทย หากแต่ก็เป็นอะไรที่น่าสนใจใช่ย่อย
โหมดที่สามารถเลือกได้นี้ไม่เพียงแต่เป็นของเล่น แต่มันเป็นสิ่งที่ใช้งานได้จริง โดยทำงานผสานกับการทำงานของชุดลิ้นปีกผีเสื้อ ทำให้สามารถปรับค่าการไหลเวียนของอากาศได้ และ มันหมายถึงประหยัด-ไม่ประหยัด รวมถึง แรง -ไม่แรงด้วย นอกจากนี้ ไฟที่มาตรวัดยังเปลี่ยนสี โดยในโหมดประหยัดจะเป็นสีเขียว และในโหมดสปอร์ตจะแสดงออกมาเป็นสีแดง ที่สื่อให้อารมณ์เปลี่ยนไป นั่นยังรวมถึงการตอบสนองในเรื่องของอัตราเร่งและเสียงเครื่องยนต์ที่เปลี่ยนไป รวมถึงจากที่ขับเราคาดว่า น่าจะรวมถึงในส่วนของระบบ i-Vtec ด้วย
การตอบสนองในโหมดสปอร์ตนั้น โดยรวมคือการตอบโจทย์เรื่องของอัตราเร่งที่ชัดเจนมากข้น และสามารถรู้สึกได้ทันทีที่กดเปลี่ยน แม้ยามขณะขับขี่ การสร้างความสัมพันธ์ในลักษณะของบุคลิกนั้น ก็ทำให้เจ้ารถคันนี้มีดีกรีที่แตกต่างอย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น รวมถึง การเน้นให้รายละเอียดเรื่องการทำงานของเครื่องยนต์ที่สามารถสื่อสารได้อย่างลงตัว
Honda CR-Z อาจจะไม่ใช่รถยนต์ที่เป็นรถตลาด หรือเป็นรถที่หลายคนจะได้มีโอกาสสัมผัส แต่สำหรับสาวกฮอนด้า นี่คือรถในฝัน และถ้าครั้งหนึ่งในวันหน้าคุณมีทรัพย์มากพอ นี่คือสปอร์ตที่ไม่ควรพลาด ทั้งในเรื่องของความประหยัด ความสะอาดจากไอเสียด้วยการทำงานผสานในระบบไฮบริด ที่ยังลงตัวในสมรรถนะ และทั้งหมดนั้น ก็ทำให้มันคุ้มค่าในเงิน 1.975 ล้านบาท
ผลการทดสอบ Honda CR-Z
Honda CR-Z ราคาจำหน่าย 1,975,000 บาท
การทำงานของเครื่องยนต์
ที่ความเร็ว 80 ก.ม./ช.ม. เครื่องยนต์ทำงานที่ 1500 รอบต่อนาที
ที่ความเร็ว 90 ก.ม./ช.ม. เครื่องยนต์ทำงานที่ 1800 รอบต่อนาที
ที่ความเร็ว 100 ก.ม./ช.ม. เครื่องยนต์ทำงานที่ 1900 รอบต่อนาที
ที่ความเร็ว 120 ก.ม./ช.ม. เครื่องยนต์ทำงานที่ 2400 รอบต่อนาที
ที่ความเร็ว 140 ก.ม./ช.ม. เครื่องยนต์ทำงานที่ 3300 รอบต่อนาที
อัตราเร่ง 0-100 ก.ม./ช.ม. (นั่ง 4 คน) ได้ 10.5 วินาที
อัตราเร่ง 80-120 ก.ม./ช.ม. (นั่ง 4 คน) ได้ 9.4 วินาที
ความเร็วสูงสุดในการทดสอบ 182 ก.ม./ช.ม.
อัตราประหยัดเฉลี่ย 11.8 ก.ม./ลิตร
คะแนนจากการทดสอบ Honda CR-Zทำได้ 93 คะแนน
หัวข้อ |
คะแนน (หมวดละ 20คะแนน) |
ข้อเสนอแนะ -ติชม |
การออกแบบภายนอก |
19 |
การออกแบบที่ไหลลื่นทำให้รถคันนี้มีความโดดเด่นในเรื่องของการใช้งาน ซึ่ง รวมถึงการสื่อสารที่มุ่งเน้นให้ความทันสมัยในการออกแบบเองด้วยก็สื่อสารความเป็นตัวตนได้ดี เรียกว่าเป็นการบรรจบทุกอย่างลงตัว โดยเฉพาะที่ชอบที่สุดคือทรงท้ายลาดของรถที่ทันสมัยมาก แต่จริงๆอยากจะฝากถึงนักออกแบบว่าด้านข้างเหมือนจะดูขาดๆอะไรไปบางอย่างบ้างก็เท่านั้น |
ภายในห้องโดยสาร |
18 |
ห้องโดยสารแบบ 2+2 คือสิ่งที่ต้องให้รถคันนี้เป็นมากว่ารถสปอร์แต่ข้อเท็จจริงหนึ่งคือ ใครจะคิดเอารถ 2 ประตู ไปบรรทุกบ้างคงมีแต่ก็น้อย ซึ่งในความสามารถนี้ใช้ได้ แต่ไม่เหมาะกับการเดินทางไกล ทว่าที่โดนใจสุดคือเรื่องการจัดวางอุปกรณ์สำหรับผู้ขับขี่ที่ทำได้ดีพอสมควร |
เครื่องยนต์ |
19 |
เครื่อง 1.5 ลิตร ไฮบริด 110 แรงม้า ฟังดูไม่แรงนัก หรืออาจจะมากพอที่จะเรียกว่าสปอร์ต แต่เมื่อขับขี่มันก็พิสูจน์แล้วว่ามันมีดี ทุกด้าน ทั้งประหยัด สมรรถนะ ที่ช่วยเปลี่ยนอารมณ์จากการทำงาน 3 โหมด คือ ประหยัด,ทั่วไป และ สปอร์ต แต่ถึงแบบนั้นก็มีข้อติดบ้างเช่นในโหมดประหยัด เมื่อขึ้นทางชันบ่อยๆไฟฟ้าจะหายไปเร็วมากอาจจะด้วยการทำให้มอเตอร์ไฟฟ้าเข้ามาช่วยในการทำงาน |
ระบบกันสะเทือนและสมรรถนะการขับขี่ |
19 |
โดยรวมสมรรถนะการขับขี่ Honda CR-Z ใหม่ นั้นเป็นเรื่องที่ลงตัวอย่างมาก โดยเฉพาะในแง่ของการทำงานเครื่องยนต์ ที่ลงตัวกับช่วงล่างของรถ ซึ่ง แม้จะมีข้อเสียในความเป็นสปอร์ตที่ช่วงล่างกระด้างบ้าง แต่ความไว้ใจได้ในทางฝนตกที่ความเร็ว 14 ก.ม./ชม. ก็ลบสิ่งนี้ไปเสียหมดสิ้น |
เทคโนโลยี |
18 |
เครื่องยนต์ไฮบริด ถือเป็นตัวแทนเทคโนโลยีที่ดี และเมื่อมันถูกจับมาให้มีความแรงเร้าใจ และทำได้ดีมากจนต้องออกปากชมนั้นคือสิ่งที่เราเรียกว่าเป็นความโดดเด่นในการขับขี่ |
สรุป |
93 |
ราคาที่ลงตัวมากับบทสรุปสมรรถนะที่บรรจบกับความประหยัดคือความโดเด่นที่ยากจะหาสปอร์ตคันไหนมาเทียบเคียงยิ่งกับความสามารถในการปรับอารมณ์ของมันด้วยถือว่าคุ้มที่จะคบหา แต่แน่นอนเครื่อง 1.5 ลิตร อาจจะไม่แรงอย่างที่คิด เมื่อเทียบว่าเจียดเงินอีกนิด ซื้อความแรงที่มากกว่าระดับ 200 แรง้มาอย่างจากคู่แข่ง แต่ถ้าชอบรถที่คล่องตัวมีเอกลักษณ์ก็น่าจะมอง Honda CR-Z ซึ่งท้ายสุดนี้ ขอฝากถึงฮอนด้า ให้พิจารณาในการนำรุ่นเกียร์ธรรมดาเข้ามาด้วย เพราะมีหลายคนสนใจแต่ด้วยเกียร์ออโต้มันไม่เร้าใจเท่าการถีบ 3 แป้นที่เท้า ทำให้เขามองข้ามเจ้ารถคันนี้ไป |
อัลบั้มภาพ 37 ภาพ