Sanook! Drive : Nissan Sylphy 1.6 สมรรถนะเลิศกว่าที่คิด
ช่วงนี้ดูจะเป็นที่พูดถึงกันไม่น้อยกับรถยนต์ Nissan Sylphy ใหม่ที่เริ่มเปิดตัวออกวางตลาดอย่างเป็นทางการ จนเราเห็นหลายคันเริ่มมาวิ่งบนถนนกันบ้างแล้ว แต่เมื่อย้อนกลับไปในการทดสอบก่อนหน้านี้ เราได้ขับรถ Nissan Sylphy 1.8 ซึ่งก็อาจจะลงตัวดี ทว่าเราเองอดสงสัยไม่ได้ว่าในรุ่นเล็กเครื่องยนต์ 1.6 มันจะดีแค่ไหนกัน
โจทย์ที่คาใจมานาน ในที่สุดเราก็ได้คำตอบออกมาเมื่อไม่นานมานี้ เมื่อ Nissan พาเราไปทดสอบการขับขี่รถยนต์ในรุ่น 1.6 ลิตร แม้ครั้งนี้จะไปทดสอบการขับขี่ในโหมดประหยัด ทว่ามันก็ให้ความรู้สึกที่เพียงแค่ได้สัมผัสก็กล้าบอกว่ามัน แตกต่าง
ภายนอกไม่ต้องเรือนร่างยังหรู
ตั้งแต่เปิดตัวออกมาอย่างเป็นทางกา ร Nissan Sylphy ใหม่ มาพร้อมกับการนำเสนอที่เน้นย้ำในเรื่องของความหรูหราทางด้านการออกแบบ ถ่ายทอดเอกลักษณ์ ที่มาพร้อมความสุนทรีย์ในการขับขี่ ตั้งแต่ด้านหน้ากับกระจังหน้าโครมเมี่ยม ให้ความงดงามตั้งแต่แรกเห็น จนสามารถพูดได้อย่างเต็มปากว่า นี่คือรถยนต์ ที่มีโจทย์ ในการนำเสนอที่ลงตัวพอสมควร
เรือนร่างที่หรูหรา ถูกแต่งแต้มเข้าหาความทันสมัย เช่นไฟท้ายที่มาพร้อมไฟแบบ LED ถือเป็นเสน่ห์ที่ให้ความลงตัวต่างจากคอมแพ็คคาร์เจ้าอื่นที่วางจำหน่ายในตลาดและพร้อมกันมันยังสามารถตอบโจทย์บล้ออัลลอย ขอบ 16 นิ้ว มาพร้อมยางขนาด 195/60R16 ที่ปรับให้มาเป็นมาตรฐานในทุกรุ่น
ห้องโดยสารดูดีในสไตล์หรู
ในห้องโดยสาร Nissan Sylphy 1.6 ยังคงมาพร้อมความคุ้นเคยจากรุ่น 1.8 ที่เราเคยได้สัมผัสไป แต่ก็มีการเปลี่ยนแปลงในหลายเรื่อง สามารถสังเกตได้ตั้งแต่การตบแต่ง ที่จะถูกใจ คนหนุ่ม ด้วยการผสานสีเงินเข้ามาทำให้รถดูดีในสไตล์สปอร์ตมากกว่าเดิม ที่เป็นแบบลายไม้ขัดเงา เช่นเดียวกับวัสดุเบาะผ้า แต่ก็ยังเป็นเบาะปรับ 4 ทิศทาง และ ปรับ 6 ทิศทาง ในการฝั่งคนขับ
ความแตกต่างของห้องโดยสารที่ไม่มากอย่างที่คิด ทำให้มีความรู้สึกว่าความหรูหราจะยังคงอยู่เหมือนเดิม ยิ่งเมื่อเหลียวหลังไปดูพื้นที่ทางด้านหลัง มีพื้นที่วางขาค่อนข้างมาก เช่นเดียวกับ พื้นที่เหนือหัว แต่ก็ต้องยอมรับว่า การ ที่ออกแบบเส้นหลังคามีความคล้ายคลึงกับคูเป้ อาจจะทำให้ มีข้อจำกัดบ้างสำหรับคนสูงใหญ่
ลองสมรรถนะ กับความประหยัด ที่น่าเหลือเชื่อ
ในที่สุดเวลาที่รอคอยก็มาถึง หลังจากฟังบรรยายเสร็จ เราก็พร้อมสำหรับการขับขี่ Nissan Sylphy 1.6 โดยในช่วงเดินทางขาไปนี้ เราได้รับคำสั่งให้ขับในโหมดประหยัดเพื่อพิสูจน์สมรรถนะที่แตกต่างในการตอบสนองที่ต่างกัน
ใต้ฝากระโปรง Nissan Sylphy 1.6 นั้น ยังคงมาพร้อมเครื่องยนต์ที่คุ้นหน้าตาอย่าง HR16 DE เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบแถวเรียงที่ถูกจับวางขวาง ไว้ใต้ฝากระโปรง แต่ครั้งนี้มันพัฒนาให้ตอบสนองมากยิ่งขึ้น ด้วยการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาใส่ และที่สำคัญก็ไม่พ้นการแนะนำระบบ หัวฉีดคู Dual Injector เขา มาโดย การใช้หัวฉีดคู่ นั้น ทำให้ วิศวกร สามารถวางหัวฉีด ใกล้ห้องเผาไหม้ได้มากขึ้น และยังส่งผลให้การฉีดเป็นฝอยและละเอียดมากขึ้น ด้วยอนุภาคที่เล็กลงกว่าเดิม
การพัฒนาเรื่องของหัวฉีดนี้ยังรวมถึงในเรื่องการ พัฒนาระบบวาล์สแปรผันใหม่ที่นำเอาระบบ T C-VTC (Twin Continous V ariable- Valve timing Control) เข้ามาทำให้ มีความสามารถในการเปิดปิดวาล์วที่มีช่วงสัมพันธ์กันในลักษณะ Over lap คือบางช่วงที่จะเปิดพร้อมกัน ทำให้ ลดการเสียกำลังในจังหวะดูดด้วยการใช้ไอเสีย ซึ่งเป็นอากาศร้อน มาช่วยดูดไอดี ทำให้สามารถส่งอากาศเข้าห้องเผาไหม้ได้เร็วยิ่งขึ้น และนอกจากนี้ยังมีการขัดผิวของข้อเหวี่ยงให้มีความลื่นมากยิ่งขึ้น ด้วย mirror Like ทำให้สามารถทนทานและทำงานลื่นมากยิ่งขึ้น
ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่อยู่ในหัวใจ Nissan Sylphy 1.6 ลิตร ใหม่ที่ถูกประกอบเข้ากับระบบเกียร์ Xtronics CVT ที่ขึ้นชื่อ ด้วยการทำงานที่ต่อเนื่องลดการสูญเสียกำลังเครื่องยนต์ ถูกปรับให้ตอบสนองรวดเร็ว ฉับไวมากับอัตราทดตั้งแต่ 4.006 - 0.550 จึงไม่น่าแปลกใจว่า มันเป็นเครื่องยนต์ที่มีสมรรถนอย่างแน่นอน แม้ตัวเลข จะโชว์กำลังสูงสุดเพียง 116 แรงม้า 5600 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุดก็เพียง 158 นิวตันเมตร ที่ 4000 รอบต่อนาที
ในการขับขี่วันนี้เราเป็นมือแรกในการขับด้วยเพื่อนคู่หูไม่ถนัดในการขับขี่ในเมืองมากมายนัก ทำให้เราที่รับบทมือขับประหยัดคนแรก ต้องผจญกับรถติดในช่วงสายของวันทำงาน แต่ก็สามารถเดินทางได้เรื่องตามสภาพการจราจร จากถนนเพชรบุรีตัดใหม่ เลี้ยวขวาสู่แยกพระราม 9 ก่อนจะเลี้ยวขวาอีกทีเพื่อวิ่งยาวสู่ มอเตอร์เวย์ โดยสภาพการขับขี่ในเมื่อช่วงแรกนั้น เราใช้ความเร็วได้ไม่มากมายนักเพียงแค่ 50-70 ก.ม./ช.ม. พร้อมกับช้าสลับหยุดนิ่ง แต่แล้วเราก็ผ่านไปสู่มอเตอร์เวย์ ซึ่งเราใช้ความเร็วเพิ่มขึ้นเป็น 80 ก.ม./ช.ม. ซึ่งที่มาตรวัดบ่งบอกรอบเครื่องยนต์เพียง 1400 รอบต่อนาที แล้วเราก็ลองเพิ่มความเร็วเล็กน้อยสู่ 90 ก.ม./ช.ม. ซึ่งกลับใช้รอบเครื่องยนต์ห่างกันไม่มากเพียง 1600 รอบต่อนาทีเท่านั้น
ช่วงการขับขี่นอกเมืองเราใช้ความเร็วที่คงที่ตลอดเส้นทาง มาหยุดผ่อนบ้างแค่ช่วงจ่ายตังค์ค่าผ่านทาง และ ก็คงความเร็วช่วง 80-90 ก.ม./ช.ม. มาตลอด พร้อมเดินคันเร่งเพิ่มขึ้นกันบ้างเล็กน้อยเพื่อแซงรถคันอื่น และช่วยแซงเราก็ใช้ความเร็ว ราว 95 ก.ม./ช.ม. เท่านั้น
หลังจากถึงจุดเปลี่ยนคนขับแรกเรามารับบทคนนั่ง โดยไม่ได้คิดถึงเรื่องอัตราประหยัดและเพื่อนของเราก็ขับต่อเนื่องด้วยหลักการเดียวกัน ความเร็วเดียว จนแทบจะเป็นพิมพ์เดียวกันเลยระหว่างการขับขี่
ในที่สุดหลังจากเวลาเกือบๆ 2 ชั่วโมงเราก็มาถึง ที่ปั้มน้ำมันปลายทาง ที่ศรีราชาแถมมาเป็นคันแรกด้วย จนโดนติติงว่านี่ขับจะเร็วไปไหน แต่แล้วเมื่อเด็กปั้มเสียบหัวจ่ายเติมวัดอัตราประหยัดที่ใช้งานจริงขับจริง .....ตึ้ก!! หัวจ่ายตัดในระยะเวลาเพียงไม่ถึงนาที ทำให้ทุกคนรวมทั้งเรางงไปด้วย หลังจากนั้นก็ค่อยๆริน ด้วยความที่น้ำมันยังล้นถึงคอถัง ครั้งแรกนี้ได้ 1.703 ลิตรเท่านั้น
ไม่น่าเชื่อ!! ว่าแล้วกรรมการก็มาตรวจสอบว่าเราแอบเติมหรือทำอะไรหรือเปล่าแต่ก็พบว่าน้ำมันพร่องไปอีก เลยสั่งเติมเพิ่มเป็นครั้งที่ 2 และครั้งนี้ให้นับเวลา 15 วินาที ก่อนที่จะค่อยๆริน เว้นห่างสามครั้ง จนสุดท้ายไม่ไหวแน่แล้วนับอีก 5 วินาที แล้วเติมเป็นครั้งสุดท้าย
งวดนี้เราเติมเพิ่มมาอีก 0.515 ลิตร รวมเป็นน้ำมันที่เติมไปเพียง 2.218 ลิตร เราเดินทางมา 121.2 ก.ม. และเมื่อหารอัตราประหยัด Nissan Sylphy 1.6 ก็ทำได้ 54.6 กิโลเมตร ในการทดสอบ ด้วยน้ำมันแก๊สโซฮอล 95 ถึงคอถังแล้วปิดผนึก ด้วยลมยางด้านหน้า 33 psi ส่วนด้านหลังเติม 31 psi ตามมาตรฐานของตัวรถทุกประการ จากนั้นขับด้วยความเร็ว 80-90 ก.ม./ช.ม. ตามมาตรวัดในรถ เท่านั้นเองไม่ได้ทำอะไรมากกว่านี้จริงๆ ซึ่งเราก็งงเหมือนกันว่าจะประหยัดไปไหน
ส่วนในภาพรวมของทริปนี้ทำได้ 33.6 ก.ม./ลิตร ถือว่าไม่น้อยเลยต่อ ด้วยสภาพการขับขี่ที่ไม่ได้แตกต่างกันมากมายนัก ซึ่งถือว่าเครื่อง 1.6 ลิตร ใหม่ประหยัดกันพอสมควรเลยทีเดียว
ได้เวลาลองสมรรถนะขับหนักจัดเต็มๆ
ในที่สุดหลังอึดอัดจากการขับในโหมดประหยัดที่ทำเอาอึ้งกันไปแล้ว เราก็ต้องเดินทางกลับกันเสียที และก็นับเป็นโอกาสดีในการทดสอบสมรรนถะการขับขี่ของ Nissan Sylphy 1.6 ลิตร ที่หลายคนอาจจะจับจ้องมากกว่าด้วยราคาที่ไม่แพงนักมีออพชั่นให้เลือกหลายรุ่น ก็ทำให้นี่เป็นรถยนต์ที่สามารถตอบสนองได้พอสมควรต่อลูกค้า
ในขากลับนี้เราไม่มีกฎเกณฑ์ใดๆมาควบคุม และด้วยเส้นทางที่น่าขับขี่ของการถนนหนทางที่ชลบุรีก็ทำให้เราได้ลอง Nissan Sylphy 1.6 ลิตรใหม่มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ช่วงที่เราพักเบรกทานข้าวกลางวัน ได้มีโอกาสเรียนรู้เรื่องราวของซิลฟี่ 1.6 ใหม่เพิ่มขึ้นบางส่วน และที่สำคัญ คงจะเป็นในส่วนของน้ำหนักที่วิศวกรเผยว่า มันจะมีน้ำหนักต่ำกว่า 1.8 ถึง 42 ก.ก. โดยประมาณ เช่นเดียวกับช่วงล่างทางด้านหน้าที่ยกแผงเปลี่ยนทั้งยวงพร้อมเครื่องยนต์ เน้นการให้ความลงตัวในการขับขี่
ปัจจัยที่น่าสนใจในรุ่น 1.6 นี้ สำหรับเรามันคือ น้ำหนักที่ลดลงพอสมควร และเมื่อดูกำลังของเครื่องยนต์ HR16DE ที่มีกำลังสูงสุด 116 แรงม้าที่ 5,600 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 154 นิวตันเมตร ที่ 4000 รอบต่อนาที ก็ถือว่าสมน้ำสมเนื้อกับอัตราเฉลี่ยแรงม้าต่อน้ำหนักที่ 10.4 กิโลกรัมต่อ 1แรงม้า ทว่า ในการขับขี่จริงที่เรากำลังขับขี่นั้น ด้วยความรู้สึกกับแตกต่างไป
ตัวที่เบาขึ้นทำให้เรารู้สึกว่ารถคันนี้คล่องแคล่ว แม้กำลังเครื่องที่ฟังดูน้อยอาจจะไม่น่าทำให้ระทึกได้ แต่ในการขับขี่จริง กลับพบว่ามันสามารถตอบสนองได้ดี ช่วงรอบเครื่องทั่วไป สามารถเร่งได้อย่างน่าประทับใจและเราไม่คาดหวังมากจากรอบเครื่องยนต์กลางที่ 3 พันรอบขึ้นไป แต่เมื่อลองเหยียบเร่วจริง รอบเครื่องก็ยังสามารถเร่งได้ดี อาจจะด้วยเกียร์ CVT ก็มีส่วน แต่ที่น่าประทับใจคือคุณยังสามารถไต่ไปยังรอบสูง 5-6 พันรอบต่อนาที ถ้าจำเป็นต้องใช้กำลังสูงสุดแบบไม่ต้องลุ้นให้เหนื่อย เพราะ รอบจะวาดได้อย่างต่อเนื่องมาเรียงๆไม่ขาดตอน แต่ก็ไม่กระชากหัวใจให้หลังติดเบาะ
เกียร์ CVT เองก็ให้ความประทับใจจากความนุ่มนวลและต่อเนื่องจัดให้ยาวๆ จนกว่าจะพอใจ โดยในรุ่นเครื่องยนต์ 1.6 ระบบส่งกำลังอาจจะเหมือนกัน แต่มีการปรับในส่วนเฟืองท้ายเพิ่มขึ้นเป็น 3.771 ทำให้แม้เครื่องจะเล็กแต่ก็เร่งได้อย่างไม่ขี้เหร่ แต่เรายังไม่ได้ลองจับเวลา 0-100 ก.ม./ช.ม.ดู ทว่าในยามเร่งแซงก็สามารถรู้สึกได้ถึงความมั่นใจ ที่ดีขึ้นกว่ารุ่นเครื่องยนต์ 1.8 จนอาจจะเรียกว่าดีกว่าด้วยซ้ำไป
อัตราเร่งที่อาจจะไม่ใช่เฉพาะระบบเกียร์เท่านั้น เมื่อมองว่า HR 16 DE เป็นเครื่องยนต์ที่สร้างขึ้นมาสนองตอบเรื่องสมรรถนะพร้อมกัน ด้วยขนาดกระบอกสูบ 78.0 ม.ม. และ ช่วงชัก 83.6 ม.ม. มันเป็นระยะที่ใกล้เคียงกับห้องสูบแบบสี่เหลี่ยมจัตุรัส แถมยังสมทบด้วยเทคโนโลยีชั้นนำตามที่ได้กล่าวไปในหลายด้าน จึงไม่แปลกที่มันจะดีขึ้นอย่างผิดหูผิดตา
ในที่สุดเราเดินทางมาถึงช่วงสุดท้าย ที่ทางด่วนบูพาวิธีและเมื่อทางโล่งขอลองอัตราเร่งแบบจัดเต็มๆ เราก็พบว่าถ้าใจถึงก็ไปถึงได้ที่ความเร็ว 150 ก.ม./ช.ม. ในช่วงเวลาเพียงแวบเดียวเท่านั้นจนอาจจะพูดได้ว่า นี่คือรถยนต์ที่สามารถสนองตอบสมรรถนะได้ดีเดินคาด เช่นเดียวกับการทำงานของเครื่องยนต์ ที่ชวนอึ้งกันต่อ เพราะที่ 110 ก.ม./ช.ม. เราได้ 1900 รอบเท่านั้น และ ที่ 120 ก็ใช้เพียง 2100 รอบเท่านั้น ส่วนที่ 150 ก.ม./ช.ม. ที่ทดสอบกลับใช้เพียง 3300 รอบต่อนาที ถือว่าทั้งหมดอยู่ในเกณฑ์ต่ำพอสมควร
ทางด้านระบบกันสะเทือน ในรุ่น 1.6 ลิตร ดูเหมือนจะมีความแตกต่างกันเล็กน้อยด้วยความตั้งใจ ที่ดูเหมือนให้มันมีความเป็นสปอร์ตมากกว่าในรุ่น 1.8 ทำให้สลัดเรื่องบางอย่างทิ้งบ้างเช่นความนุ่มนวล แต่ระบบกันสะเทือนแบบ แม็คเฟอร์สันสตรัททางด้านหน้า พร้อมเหล็กกันโคลง และ ด้านหลังแบบ ทอร์ชั่นบีม พร้อมเหล็กกันโคลงก็ยังให้ความประทับใจ โดยเฉพาะความเร็วสูงที่ยังมั่นใจได้ นอกจานี้เราไมแน่ใจว่าหลังจากครั้งที่แล้ว นิสสันมีการปรับตั้งค่าพวงมาลัยไฟฟ้าใหม่หรือไม่ เพราะงวดนี้ดูเหมือนพวงมาลัยจะหนืดขึ้นและเหมาะมือกว่าเดิม ซึ่งถือเรื่องดีกว่าที่เคยได้สัมผัสมา
Nissan Sylphy 1.6 ลิตร อาจจะเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยสำหรับคนที่ไม่ได้เน้นในเรื่องความหรูหรามากมาย แต่ต้องการรถใช้งานที่มีความประหยัด และสมรรถนะที่อย่างแท้จริง ในราคาก็สมเหตุผลเช่นเดียวกับออพชั่นที่ลงตัว ฉะนั้นคันนี้แม้จะบล็อกเล็กกว่า แต่ก็ห้ามมองข้ามเลยทีเดียวในเรื่องสมรรถนะ
ผลการทดสอบ Nissan Sylphy 1.6
การทำงานเครื่องยนต์
ที่ความเร็ว 80 ก.ม. เครื่องยนต์ทำงานที่ 1400 รอบต่อนาที
ที่ความเร็ว 90 ก.ม. เครื่องยนต์ทำงานที่ 1600 รอบต่อนาที
ที่ความเร็ว 110 ก.ม. เครื่องยนต์ทำงานที่ 1900 รอบต่อนาที
ที่ความเร็ว 120 ก.ม. เครื่องยนต์ทำงานที่ 2100 รอบต่อนาที
ที่ความเร็ว 150 ก.ม. เครื่องยนต์ทำงานที่ 3300 รอบต่อนาที
อัตราประหยัดจากการทดสอบขับประหยัดในช่วงแรก 54.6 ก.ม./ลิตร
โดยเติมน้ำมันถึงคอถัง เช็คลมยางหน้า 33 psi หลัง 31 psi ขับด้วยความเร็ว 80-90 ก.ม./ช.ม.บนหน้าปัดตลอดเส้นทางการขับขี่
ให้ดูชัดๆ พิสูจน์ การขับประหยัด 54.6 ก.ม./ลิตร
ก่อนออกเดินทาง
เติมน้ำมันเต็มปรี่ ..ด้วยแก๊สโซฮอล 95
ปิดผนึกแล้วเช็คลมยาง หน้า 33 หลัง 31
จากนั้นขับขี่ที่ 80-90 ก.ม./ช.ม. อ้างอิงหน้าปัดรถครับ เดินคันเร่งน้อยๆไปเรื่อยๆ ครับไม่รีบ
ภาพระหว่างการเดินทาง ตอนนี้ผมนั่งเพื่อนขับแล้วครับ เป็น เซสชั่นที่ 2 หลังจุดแวะพัก
ถึงปั้ม ทีมงานบันทึกค่า จากมาตรวัดรถ ทั้งหมด
หมายเหตุ ความเร็วที่เห็นนั้นเป็นค่าเฉลี่ยครับ
เติมครั้งแรกครับ
เติมครั้งที่สองครับ
สรุปก็ตามนี้แหละครับ ..แต่ทั้งหมดนั้นเป็นการทดสอบครับ ไม่ใช่การใช้งานจริงข้อนี้ห้ามลืมครับ
อัลบั้มภาพ 52 ภาพ