แย้ม ว่าที่แผนแม่บทอุตฯ ยานยนต์ใหม่ เน้นเทคโนโลยีพลังเขียว
ก.อุตสาหกรรมเตรียมชงแผนแม่บทอุตสาหกรรมยานยนต์ฉบับใหม่เข้าครม. เปรยแผนใหม่งดปั้นโปรดักส์ แต่เน้นพัฒนาศักยภาพการแข่งขันจากเทคโนโลยีเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม
แผนแม่บทใหม่พร้อมลุยอีก 5 ปี ไทยเป็นฮับอุตสาหกรรมยานยนต์ทุ่มงบเพิ่มสร้างศูนย์ทดสอบในประเทศ มั่นใจทิศทางใหม่เน้นหนักเทคโนโลยียานยนต์รักษาสิ่งแวดล้อมในรถยนต์ทุกประเภทได้ผล ด้วย 5 ยุทธศาสตร์สำคัญปั้นไทยถึงดวงดาวแน่นอน
ดร.วิฑูรย์ สิมะโชคดี ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดถึงการทำงานในเรื่องแผนแม่บทอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ฉบับที่ 3 ว่า จากแผนแม่บทฉบับเดิมนั้นได้สร้างให้ประเทศไทยมีความก้าวหน้าจนปัจจุบันเราติดอันดับ 10 ของผู้ผลิตรถยนต์ระดับโลก โดยมี 2 สินค้าชั้นนำที่สำคัญ คือ รถยนต์กระบะขนาด 1 ตัน และอีโค่คาร์
"เรากำลังจะนำแผนแม่บทฯ ต่อท่าน รมว.อุตสาหกรรม เพื่อส่งให้ คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณา โดยแผนใหม่นี้ จะเน้นหนักในการพัฒนาและผลักดันเทคโนโลยีรถยนต์ ที่มีการรักษาสิ่งแวดล้อม พร้อมมุ่งเน้นในการใช้พลังงานทางเลือกด้านต่างๆ ทั้งรถยนต์ที่มีน้ำหนักเบา แต่ได้มาตรฐานสากล เพื่อให้ประหยัดพลังงาน และเพิ่มความสะดวกในการขับขี่ รวมถึงจะต้องมีความปลอดภัยสูง"
ด้าน นายปฏิมา จีระแพทย์ ผู้อำนวยการสถาบันยานยนต์ เปิดเผยว่า แผนใหม่จะไม่เน้นโปรดักส์ตัวใดตัวหนึ่ง แต่จะเน้นทั้งหมด ซึ่งปัจจุบันเทคโนโลยียานยนต์รักษาสิ่งแวดล้อมกำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น ทั่วโลก
"ในแผนนี้ได้วาง 5 ยุทธศาสตร์ ที่สำคัญ คือ 1. การพัฒนาเทคโนโลยีและงานวิจัย 2. ความเป็นเลิศในด้านกรพัฒนาบุคลากร 3. เสริมสร้างความเข้มแข็งของผู้ประกอบการ 4. การสร้างสภาวะแวดล้อมที่ดี ด้วยปัจจัยโครงสร้างพื้นฐาน 5. การสร้างสภาวะแวดล้อมทางธุรกิจที่ดี ด้วยการบูรณาการนโยบายภาครัฐ และท้ายสุดนี้จะมีการนำเสนอให้ตั้ง คณะกรรมการชุดหนึ่งขึ้นมาดูแลโดยเฉพาะ"
เป้าหมายของแผนนี้เป็นการวางแนวทางให้ไทยเป็น ศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ที่สำคัญของโลกซึ่งในอีก 5 ปีต่อจากนี้ น่าจะมีการผลิตรถยนต์ชืดละ 3 ล้านคัน/ปี ซึ่งจะช่วยให้สัดส่วนการส่งออกรถยนต์เพิ่มขึ้นอีก 20 ซึ่งมูลค่าการส่งออกมากกว่า 1 ล้านล้านบาท เมื่อเทียบจากปัจจุบัน
โดยพร้อมกันนี้เราก็ได้เตรียมในการสร้างศูนย์ทดสอบมาตรฐานยานยนต์ในประเทศไทย โดยจะเป็นศูนย์ระดับภูมิภาค ซึ่งจะดำเนินงานเป็น 2 ระยะ ในระยะแรก จะสร้างศูนย์ทดสอบมาตรฐานยานยนต์ มีมูลค่า 3200 ล้านบาท ส่วนในระยะที่ 2 จะเป็นศูนย์วิจัยและพัฒนาชิ้นส่วนยานยนต์ มีมูลค่าการลงทุน 4100 ล้านบาท แต่ยังไม่มีกำหนดการว่าเมื่อใด