มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต ทางเลือกที่เหนือกว่ารถขับเคลื่อน 4 ล้อทั่วไป

มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต ทางเลือกที่เหนือกว่ารถขับเคลื่อน 4 ล้อทั่วไป

มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต  ทางเลือกที่เหนือกว่ารถขับเคลื่อน 4 ล้อทั่วไป
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต เปิดตัวอย่างเป็นทางการในตลาดเมืองไทยในเดือน สิงหาคม 2551 โดยมาพร้อมแนวคิด "The Stylish Riding-On-Demand SUV...ตอบชีวิต ตามใจคุณ" ถือเป็นรถที่มีความโดดเด่นทั้งด้านการออกแบบ เทคโนโลยี สมรรถนะ ความปลอดภัย รวมถึงประโยชน์ใช้สอย โดยมีให้เลือกทั้งแบบขับเคลื่อน 2 ล้อ และขับเคลื่อน 4 ล้อ  ที่ตอบทุกไลฟ์สไตล์ของผู้ขับ และนับตั้งแต่เปิดตัวจนถึงปัจจุบัน มิตซูบิชิ  ปาเจโร สปอร์ต ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้าในเมืองไทย

มิตซูบิชิ ปาเจ โร สปอร์ต รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ สะท้อนแนวคิดการออกแบบ "ครบทุกความเหนือชั้น ตอบทุกสไตล์ชีวิต ในหนึ่งเดียว All on demands" ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยรูปทรงที่สวยงามทันสมัย พร้อมสมรรถนะและประสิทธิภาพสำหรับการขับขี่ในทุกสภาพถนนเหมาะทั้งการใช้งานในเมือง หรือจะลุยในแบบออฟโรด  จากเครื่องยนต์ดีเซล  2.5 ลิตร DI-D ไฮเปอร์คอมมอนเรล 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว วีจี เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ พร้อมท่อร่วมไอดีแบบทวิน อินเทคแมนิโฟลด์ ให้กำลังสูงสุด 178 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตร ที่ 1,800-3,500 รอบต่อนาที ตอบรับกับความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ที่ต้องการกำลังและความประหยัดในเวลาเดียวกัน

ระบบเกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะ INVECS II พร้อม Sportronic ระบบเกียร์อัจฉริยะที่ตอบสนองได้รวดเร็วทันใจซึ่งสามารถเรียนรู้และจดจำรูปแบบการขับขี่ช่วยให้การเปลี่ยนเกียร์เป็นไปอย่างเหมาะสมและทำให้ประหยัดน้ำมันได้มากขึ้น พร้อมระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย Paddle Shift  ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้การขับขี่เพื่อการควบคุมที่ดีกว่า อีกทั้งยังให้การเกาะถนนเป็นเยี่ยมด้วยระบบกันสะเทือนด้านหน้าอิสระแบบดับเบิ้ลวิชโบน คอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังแบบทรีลิงค์ ทอคล์อาร์ม คอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง ให้ความนุ่มนวลและการทรงตัวที่เหนือกว่าเพิ่มประสิทธิภาพการเกาะถนนยิ่งขึ้น พร้อมรัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 5.6 เมตร ควบคุมการเลี้ยวในพื้นที่จำกัดได้สะดวก

 

                ทางเลือกที่เหนือกว่ารถขับเคลื่อน 4 ล้อทั่วไป ด้วยระบบ SS4 (Super Select 4WD) ได้รับการพัฒนามาอย่างต่อเนื่องตลอด 20 ปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่การแนะนำอย่างเป็นทางการครั้งแรกในมิตซูบิชิ ปาเจโร รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ ในปี 2534 และประสบความสำเร็จอย่างสูงจากสนามแข่งขันแรลลี่ระดับตำนานของโลก โดย สามารถถ่ายทอดพลังขับเคลื่อนสู่ล้อทั้งสี่ได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อการขับขี่บนทุกสภาพพื้นผิวถนน ซึ่งระบบ SS4 (Super Select 4WD) ทสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการขับขี่จากถนนปกติในแบบขับเคลื่อน 2 ล้อที่ให้การประหยัดน้ำมันมาเป็นขับเคลื่อน 4 ล้อ สำหรับขับขี่เส้นทางขรุขระได้โดยไม่ต้องหยุดรถจากเทคโนโลยี Shift on the fly โดยมี 4 โหมดให้เลือก

-        2H ขับล้อหลัง เหมาะสำหรับการขับขี่แบบปกติบนถนนธรรมดาที่ไม่มีความจำเป็นต้องใช้การขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อ จึงให้อัตราเร่งที่ดี และประหยัดน้ำมัน เพราะกำลังของเครื่องยนต์ทั้งหมดจะถูกส่งไปยังล้อคู่หลังเท่านั้น

-        4H ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ เหมาะกับสภาพถนนเปียกลื่นที่ใช้ความเร็วสูง โดยระบบส่งกำลังจะถ่ายทอดกำลังเครื่องยนต์ไปที่ล้อหน้าและล้อหลังในอัตราส่วน 50:50  หากเกิดการลื่นไถลของล้อหน้าหรือล้อหลัง ระบบ C/D Lock (Center Differential Lock ) จะส่งถ่ายกำลังจากล้อหลัง และ VCU  (Viscous Coupling Unit) จะส่งถ่ายกำลังจากล้อที่ลื่นไถลไปยังล้อที่ไม่ลื่นไถลโดยระบบขับเคลื่อนจะเป็นในลักษณะ Full Time 4WD เพื่อประสิทธิภาพในการขับขี่ เกาะถนน และความปลอดภัย และตำแหน่งนี้เหมาะสำหรับใช้ในสภาพเส้นทางที่ลื่นไถลง่าย เช่น ฝนตกหรือทางลูกรัง

-       4HLc ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อที่เหมาะกับสภาพทางที่ต้องการกำลังขับเคลื่อนสูง ในโหมดนี้ระบบส่งกำลังจะถ่ายทอดกำลังเครื่องยนต์ไปยังล้อทั้งสี่โดยมีระบบ เซ็นเตอร์ ดิฟล็อก ซึ่งจะควบคุมแรงบิดของล้อหน้าและหลังให้เหมาะสมกับสภาพเส้นทาง สำหรับการขับขี่ในสภาพโคลนเลน หรือบนพื้นถนนที่ลื่น น้ำท่วม

-       4LLc ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบอัตราทดเฟืองสูงพิเศษ เหมาะกับสภาพทางที่ต้องการกำลังขับเคลื่อนสูง และไม่สามารถใช้ความเร็วได้ในเส้นทางที่ทุรกันดารมากโดยมีระบบ Center Differential Lock ควบคุมแรงบิดของล้อหน้าและล้อหลัง

นอกเหนือจากสมรรถะที่โดดเด่น มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต ยังมาพร้อมฟังก์ชั่นการใช้งานที่ออกแบบมาเพื่อความสะดวกสบายและปลอดภัยยิ่งขึ้น  โดยฉพาะ  ระบบอำนวยความสะดวกและปลอดภัยอัจฉริยะ  (ETACS) เพิ่มความสะดวกสบายยิ่งขึ้นด้วย

  • สัญญาณเสียงและไฟกระพริบเตือนเมื่อประตูปิดไม่สนิท สัญญาณเสียงและไฟกระพริบเตือนจะแสดงบนหน้าปัดเมื่อมีการออกรถในขณะที่ประตูรถปิดไม่สนิท
  • ใบปัดน้ำฝนปรับความเร็วอัตโนมัติในกรณีที่ฝนตกและผู้ขับขี่เปิดที่ปัดน้ำฝนในตำแหน่งปัดหยุด เมื่อรถใช้ความเร็วเกิน 60 กม./ชม. ที่ปัดน้ำฝนจะเปลี่ยนเป็นจังหวะที่ 1 ให้โดยอัตโนมัติ และจะกลับมาที่ตำแหน่งปัดหยุดเหมือนเดิมเมื่อความเร็วต่ำกว่า 60 กม./ชม.
  • ระบบปลดล็อกด้วยรีโมท ช่วยให้สามารถปลดล็อกและล็อกรถได้จากระยะไกล
  • สัญญาณเตือนลืมปิดไฟหรี่หน้าถ้าผู้ขับลืมปิดไฟหรี่หน้า หลังจากดับเครื่องยนต์แล้วเปิดประตู เสียงสัญญาณจะดังเตือนขึ้น
  • ระบบตัดการทำงานไฟหน้าอัตโนมัติ ไฟหน้ารถจะดับเองอัตโนมัติเมื่อดับเครื่องยนต์และเปิดประตูช่วยให้ประหยัดไฟในแบตเตอรี่
  • ระบบหน่วงเวลาปิดไฟในห้องโดยสารหลังจากดับเครื่องยนต์แล้วปิดประตู ไฟในห้องโดยสารจะค่อยๆ หรี่ดับลงเพิ่มความสะดวกในการตรวจสอบสัมภาระภายในรถ
  • ระบบหน่วงเวลาเปิด-ปิดกระจกไฟฟ้าหลังดับเครื่องยนต์ กระจกไฟฟ้าจะยังคงสามารถเปิด-ปิดต่อไปได้อีกภายใน 30 วินาที
  • ระบบเซ็นทรัลล็อก ผู้ขับสามารถเปิดหรือปิดล็อกประตูทุกบานโดยปุ่มควบคุมที่ประตูด้านผู้ขับ

 

ตัวรถยังมาพร้อม ด้วยไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์และหลอดไฟ HID ที่ให้ความสว่างมากยิ่งขึ้น พร้อมระบบปรับระดับลำแสงอัตโนมัติและระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติตามสภาพแสงภายนอก และติดตั้งระบบน้ำฉีดล้างไฟหน้ารถเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการส่องสว่างของไฟหน้ารถรวมถึงระบบที่ปัดน้ำฝนอัตโนมัติ

นอกจากนี้ยังเพิ่มความสะดวกสบายและความปลอดภัยยิ่งขึ้นด้วยสัญญานกะระยะจอดขณะถอยหลังแบบ 4 จุด พร้อมกล้องมองภาพหลังขณะถอดเพิ่มทัศนวิสัยของผู้ขับขี่จอด พร้อมกรอบกระจกมองข้างแบบโครเมียมพร้อมไฟเลี้ยว สปอยเลอร์หลังสไตล์สปอร์ต และล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว 

ในขณะที่ภายในห้องโดยสารได้รับการออกแบบให้สามารถตอบทุกสไตล์การใช้งานด้วยห้องโดยสารที่ให้ความรู้สึกกว้างสบาย ผ่อนคลายสะดวกสบายขณะขับขี่ด้วยเบาะนั่งแบบ 3 แถว รองรับผู้โดยสาร 7 ที่นั่ง ปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้งานได้ง่ายถึง 5 รูปแบบ เบาะที่นั่งคนขับและผู้โดยสารตอนหน้าปรับระดับด้วยระบบไฟฟ้าได้ถึง 8 ทิศทาง ขณะที่เบาะนั่งแถวที่ 2 สามารถแยกพับพนักพิงแบบ 60:40 เพิ่มพื้นที่บรรทุกสัมภาระได้มากขึ้น เช่นเดียวกับเบาะนั่งแถวที่ 3 ซึ่งสามารถแยกพับแบบ 50:50 ราบกับพื้นห้องโดยสาร เพื่อให้การเก็บสัมภาระด้านหลังรถที่มากขึ้น  พร้อมระบบปรับอากาศอัตโนมัติ และช่องปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารแถวที่ 2 และ 3

อีกทั้งยังเพิ่มความสะดวกในการขับขี่ในระยะทางไกลด้วยระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise control)  พร้อมสวิทช์ควบคุมวิทยุที่พวงมาลัย และการติดตั้งอุปกรณ์ความบันเทิงพร้อมสรรพไม่ว่าจะเป็นเครื่องเล่น DVD,VCD,CD MP3 ที่ง่ายต่อการใช้งาน พร้อมพร้อมช่องต่ออุปกรณ์ USB สามารถเชื่อมต่อ iPod / iPhone และจอภาพด้านหน้าแบบหน้าจอสัมผัส  (Touch Screen) ขนาด 7 นิ้ว  พร้อมจอภาพแอลอีดี (LED) แบบ WIDE Screen ขนาด ใหญ่ 10.2 นิ้วสำหรับผู้โดยสารตอนหลังและการติดตั้งระบบนำทางอันชาญฉลาด (เนวิเกเตอร์) รองรับแผนที่ในรูปแบบ 3 มิติเสมือนจริง

 

สำหรับผู้ที่มองหารถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่ให้ทั้งความสะดวกสบายจากฟังก์ชั่นการใช้งานที่ครบครัน พร้อมระบบขับเคลื่อนที่สามารถเลือกได้ทั้งแบบขับเคลื่อน 2 ล้อ หรือจะเลือกขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อ ตามสภาพถนน อีกทั้งต้องให้ความประหยัด มั่นใจ และปลอดภัยในทุกสภาพการขับขี่นั้น  "มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต" รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ น่าจะเป็นคำตอบของทางเลือกที่เหนือกว่ารถขับเคลื่อน 4 ล้อ ทั่วไปอย่างแน่นอน

 

 

อัลบั้มภาพ 8 ภาพ

อัลบั้มภาพ 8 ภาพ ของ มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต ทางเลือกที่เหนือกว่ารถขับเคลื่อน 4 ล้อทั่วไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook