Sanook! Drive : Ford Focus Hatchback 1.6 Trend หล่อได้ใจ..ถ้าไม่ Need ของเล่นไฮเทค
ตั้งแต่เปิดตัวมาเมื่อช่วงปีที่แล้ว ค่ายรถยนต์ Ford ก็เป็นที่กล่าวถึงอย่างมาก ด้วยการแนะนำรถ..ที่ความจริงแล้วในโฆษณาของมัน ก็บอกว่าไม่ใช่รถ แต่อย่าเพิ่งงงไปว่าเรากำลังเล่นอะไร เพราะว่า " นี่ไม่ใช่แค่รถแต่...นี่คือ Ford Focus ใหม่"
วลีกระทบกระเทียบกับค่ายอื่นที่แสดงให้เห็นความเหนือชั้นของการสร้างสรรค์รถยนต์ให้มันชาญฉลาดมากกว่าที่เคย โดยเฉพาะในรุ่นเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ที่สามารถตอบโจทย์การทำงานได้อย่างลงตัวมากขึ้น เน้นการสร้างความสะดวกสบาย และเป็นที่ชื่นชอบเมื่อของเล่นไฮเทคต่างๆถูกแต่งองค์ทรงเครื่องเข้ามา แต่แน่นอนว่า สำหรับคนที่ไม่ได้บ้าของเล่นไฮเทคขนาดนั้น อาจจะมองว่า มันไม่ได้จำเป็นอะไรนักที่จะต้องจ่ายเงินมากเพื่อแลกกับแกดเจท ที่ดูจะล้ำเกินไป หรือ บางคนก็แค่ถูกใจอยากได้เรือนร่างและความปลอดภัยชั้นนำ ที่วันนี้เราก็ได้เวลาแล้วที่จะพิสูจน์กันว่า Ford Focus เวอร์ชั่นสุดเบสิคนั้น จะมีอะไรที่ลงตัว
เรือนร่างคล้ายกัน ต่างกันไม่มาก
ตั้งแต่เปิดตัวออกมารถยนต์ Ford focus ใหม่ จัดว่าเป็นรถยนต์ที่อยู่ในกระแสความสนใจของคนในสังคม ด้วยการสร้างความแตกต่างที่ชัดแจ้ง ด้วยการแนะนำเส้นสายการออกแบบอันทันสมัย ผลัดจากเดิมที่เคยเห็นมาแล้วในรุ่นก่อนหน้า มาสู่ความเป็นปัจจุบัน ที่นำเสนอด้วยความไฮเทคและทันสมัยของตัวรถมากขึ้น
ตัวรถเบิกฤกษ์ความทันสมัย ตั้งแต่ด้านหน้าที่ให้ความรู้สึกสง่าในความทันสมัย แฝงด้วยความสปอร์ต ตั้งแต่ด้านหน้าจรดบั้นท้าย ซึ่งสิ่งที่แตกต่างออกไป เมื่อเทียบระหว่างรุ่น 1.6 กับ 2.0 ลิตร อยู่ที่การตบแต่งบางรายการย่อย ที่ทอนความงดงามของเรือนร่างออกไป
เริ่มจาก ขอบโครเมี่ยม สเกิร์ตด้านข้างไปจนถึง ชุดสปอร์ยเลอร์หลังที่มีขนาดที่แตกต่างกันอย่างชัดเจนจนสามารถสังเกตได้ เช่นเดียวกับกระจกมองข้างพับแบบ อัตโนมือ ล้ออัลลอยปรับลดขนาดจากขอบ 17 นิ้ว มาเป็น 16 นิ้ว จัดมาให้พร้อมยางขนาดมาตรฐาน 205/60/R16 โดยในรุ่น trend เป็นล้ออัลลอย ในขณะที่ รุ่น ambient ที่เป็นรุ่นเริ่มต้นจริงๆ นั้นเป็นพียงล้อกระทะ และทอนบางออพชั่นอย่างไฟตัดหมอกออกไปด้วย
แม้จะเป็นรุ่นกลางๆ แต่สิ่งที่ไม่แตกต่างกันมากจนเกินไป ทำให้ความหล่อเหลาของรถรุ่นนี้ยังคงอยู่ โดยเฉพาะในรุ่น 5 ประตู ที่ตัวอยู่แล้วในการออกแบบ มาพร้อม ความยาว 4354 ม.ม. กว้าง1823 ม.ม. และสูง 1484 ม.ม. ตอบสนองต่อการขับขี่ด้วยระยะฐานล้อ 2,648 ม.ม.
ภายในพื้นฐาน แต่ลงตัวพอดี
ก้าวเข้าสู่ห้องโดยสาร Ford Focus 1.6 ต้อนรับด้วยการออกแบบที่ให้เสน่ห์ที่ลงตัวในโทนสีเทาดำ ที่ให้อารมณ์สปอร์ตในการขับขี่ แต่เช่นเคยออพชั่นบางอย่างจะถูกตัดออกไปตามแต่ละรุ่น
ในรุ่น 1.6 ลิตร สิ่งที่ตัดออกไปเป็นอันดับแรกก็คงไม่พ้นของเล่นไฮเทคต่างที่เหลือทิ้งไว้ เพียงแค่ความว่างเปล่า เช่นเดียวกับระบบปรับอากาศที่เปลี่ยนมาสู่ระบบมือบิดหมุนตามความต้องการ แทนระบบปรับอากาศอัตโนมัติ แต่ก็ยังไว้ลายในความดูดีด้วยตัวเลขอุณหภูมิ ที่ทำให้เข้าใจง่ายในการใช้งาน
เครื่องเสียงอาจจะไม่ได้ดีเท่ารุ่น 2.0 ลิตร แต่เครื่องเล่นที่ไม่ได้บอกว่ามาจากสำนักใด ก็ให้ความกระหึ่มในห้องโดยสารผ่านลำโพง 6 จุด และเป็นโชคดีที่ในรุ่น trend ยังคงมาพร้อมระบบ Bluetooth และ ระบบเชื่อมต่อชั้นนำ SYNC ที่สามารถควบคุมเครื่องเสียงได้ที่พวงมาลัย แต่ที่แตกต่างอยู่ที่หน้าจอแสดงผลแบบ Dot Matrix 3.5 นิ้ว ซึ่งด้อยกว่าเล็กน้อย เมื่อเทียบว่า ในรุ่น 2.0 ใช้จอที่ขนาดใหญ่ TFT LCD 4.2 นิ้ว
แม้จะถูกตัดออพชั่นบางอย่างออกไป ทว่าเมื่อมองหาความแตกต่างก็ไม่ได้พบมากมายอะไรอย่างที่คิด ยิ่งในรุ่น 5 ประตู เองฟังชั่นความสะดวกสบายก็ไม่ได้มากมาย โดยเฉพาะคุณภาพในการนั่งทั้งทางด้านหน้าและด้านหลังไม่ได้แตกต่างจากที่ได้สัมผัสมาแล้วก่อนหน้า ด้วยผู้ทดสอบขนาดตัว 93 ก.ก. สูง 182 ซ.ม. สามารถนั่งได้สบายทุกตำแหน่งอย่างไม่มีปัญหา
สมรรถนะเอาอยู่ ถ้าคุณไม่ไมนด์เรื่องความแรง
เรือนร่างที่โอเค การนั่งที่สบายตัว ก็มาถึงบททดสอบสำคัญในการขับขี่ ซึ่งแน่นอนว่า คุณจะคาดหวังความแรงมากมายนักไม่ได้จากเครื่องยนต์ขนาด 1.6 ลิตร ซึ่งจะว่าไปการแนะนำเครื่องยนต์ขนาด 1.6 ลิตร จากค่าย Ford ไม่ใช่เรื่องใหม่อะไรนัก
เมื่อมองสเป็คเดี่ยวดีก็รู้ว่าเครื่องยนต์บล็อกนี้ถูกยกมาจากเจ้าซิตี้คาร์ Ford Fiesta ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก และการมาประจำการในคอมแพ็คคาร์ของมันครั้งนี้ก็เป็นการประกาศชัดแจ้งว่า Ford Focus 1.6 เกิดมาเพื่อความประหยัด มากกว่าเค้นสมรรนถะที่คุณน่าจะพบได้มากกว่าในรุ่น 2.0
การทดสอบเริ่มขึ้นหลังจากรับกุญแจ จากพี่ ซุง ที่งวดนี้มารับหน้าที่แทนพี่พล ที่ติดภารกิจสำคัญ และเมื่อเลี้ยวรถออกมาสู่สุขุมวิท บททดสอบการขับขี่ของเราก็เริ่มต้นขึ้นอย่างเร่งรีบ ท่ามกลางการจราจรที่ติดขัด ตามนิสัยของถนนสายนี้ที่ขึ้นชื่อในทุกเวลาของการจราจรที่คับคั่ง
เราจอดท่ามกลางรถยนต์ที่วิ่งไปมากขวักไขว่ เป็นสัญญาณถึงการอยู่ท่ามกลางความเจริญในอารมณ์ทันสมัย ซึ่ง เมื่อปล่อยเบรกเลื่อนรถตามนิสัยคนชอบขับรถรอบเดินเบาในช่วงรถติดของเรา มันก็ทำเอาเราแปลกใจ ... เอ๊ะ!!! รถไม่วิ่ง พาเอางงเล็กๆ ตรวจสอบอีกทีถึงการความมั่นใจ ทั้งหน้าปัดและคันเกียร์เพื่อเช็คให้แน่ว่ารถไม่เสียกลางทาง และทันใดเราก็เริ่มรู้สึกถึงการเคลื่อนไหว
ในช่วงเวลาที่เหลียวไปๆมาๆนี้ นับว่าน่าจะเป็นเวลาราวๆ วินาที เกือบ 2 วินาที ซึ่งหมายความว่า แรงกำลังของ 1.6 น้อยกว่าที่คิด จอดรถข้างทางเพื่อดึงใบสเป็ค ออกมาตรวจสอบ เจ้าเครื่องยนต์ 1.6 ลิตร บล็อกนี้ ให้กำลังสูงสุด 125 แรงม้า ที่ 6000 รอบต่อนาที และให้แรงบิดสูงสุดเพียง 159 นิวตันเมตร จะมีให้ใช้ที่ 4000 รอบต่อนาที จับคู่กับ ระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมระบบเปลี่ยนเกียร์เองตามใจฉัน Selective Shift ที่ให้ความลงตัวในการขับขี่มากขึ้น
เราพยายามทำความเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่ และยังฉงนอยู่ในตัวเอง และในการออกตัวครั้งนี้เราลองทำแบบเดิม ก็เจออาการคล้ายกันแต่ครั้งนี้ออกได้เร็วกว่าเล็กน้อย การเคลื่อนตัวของรถที่เชื่องช้าในเขตเมืองด้วยความเร็ว walking Speed อาจะเป็นเรื่องที่มองแล้วไม่น่าจะใช่เรื่องใหญ่ แน่ล่ะ เพราะ ตามนิสัยคนไทย จะออกรถก็กระแทกคันเร่งป๊าป! เข้าให้ทันใจดี แต่กลับกันถ้าต้องการการขับขี่อย่างประหยัด นั่นหมายความว่าคุณจะไม่สามารถปั้นตัวเลขได้จนกว่า ล้อจะหมุน และเอาตามจริง ถ้าคุณมันจะขับเอาความประหยัดกลางเมือง งานนี้อาจจะโดนคันหลังบีบโห่ไล่ก็ได้ เพราะ กำลังเครื่องไม่สามารถผลักตัวถังไปข้างหน้าได้ในทันทีทันใด
ขับในเมืองสักพักเราก็เริ่มชินมากขึ้นกับ Walking Speed ที่ช้า และที่ Ford Focus ทำให้แปลกใจมากที่สุด คือหลังๆ มันเริ่มเรียนรู้การทำกำลังตอบโจทย์มากขึ้น เข้าใจว่านั่นอาจจะเป็นการเรียนรู้ของชุดส่งกำลัง หรือไม่นั่นก็อาจจะหมายถึงเราเริ่มเข้ากับนิสัยรถมากขึ้นไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
ในการขับขี่ตามการจราจรถนนสุขุมวิท เครื่อง 1.6 ลิตร ตอบสนองได้ดี เมื่อขับเรื่อยๆ ไปชิวๆ แบบมีโลก ส่วนตัว แต่ต้องยอมรับว่า เมื่อถึงช่วงนาทีที่ต้องช่วงชิง เช่นเร่งเครื่องเพื่อหาช่องว่างต้องเร่งเครื่อง อาจจะเชื่องช้าเล็กๆ เนื่องจากการตอบสนองที่ของเครื่องจะดีในช่วง 2500 รอบต่อนาที ขึ้นไป
การขับขี่ในเมืองนั้นต้องยอมรับว่าประสบอุปสรรคจากเรื่องกำลังเครื่องยนต์เป็นสำคัญ แต่ด้วยความเชื่อที่หลายคนน่าจะคิดว่าเครื่องยนต์ 1.6 น่าจะตอบโจทย์ได้ดีกว่าในเรื่องความประหยัดนั้นกลับกลายเป็นดาบ 2 คมที่ชัดเจน เมื่อเกดดูข้อมูลจากหน้าปัด ระบุว่ามันประหยัดเฉลี่ย ที่ 7 -8 กิโลเมตร/ลิตร และแปรผันตามสภาพการจราจร ซึ่งถือว่าค่อนข้างไม่น่าประทับใจนัก ส่วนหนึ่งอาจจะด้วยปัจจุบันจากการทดสอบ ที่วันนั้นเป็นวันที่รถติดมากถึงมากที่สุด จนเราใช้เวลาเดินทางจากสุขุมวิทมายังปากเกร็ดด้วยเวลามากถึง 3 ชั่วโมง ทั้งที่ปกติน่าจะใช้เวลาชั่วโมงครึ่งเท่านั้น
นอกเมืองดูดี เส้นทางแบบนี้ลงตัว
หลังจากจบบททดสอบในเมือง ต้องยอมรับว่าผลการทดสอบครั้งนี้ไม่น่าพึงพอใจนัก ด้วยเราหวังอยากเห็นตัวเลขประหยัดที่มากว่านี้ประกอบกับกำลังเครื่องยนต์ที่มีกำลังน้อย ต้องคอยกระทุ้งตลอดเวลาเพื่อให้เครื่องเร่งสนองทันใจ และนั่นน่าจะเป็นเหตุผลที่ทำให้มันมีอัตราน้อยกว่าที่คิด
ในฟ้าวันใหม่เราเริ่มบททดสอบนอกเมืองใน Ford Focus 1.6 ที่ครั้งเซทปลายทางไว้ที่ สวนผึ้งราชบุรี ซึ่งในการขับทดสอบครั้งนี้ น่าจะได้ผลที่น่าจะตอบโจทย์กับการขับขี่มากกว่าในเมือง ... นั่นคือสิ่งที่เราหวังเอาไว้
การเดินทางของเราในช่วงแรกใช้เส้นทางการขับขี่ ปิ่นเกล้านครชัยศรี ซึ่งสามารถใช้ความเร็วได้พอสมควร และ เป็นครั้งแรกที่เราได้การทำงานของเครื่องยนต์จริงจัง ในขณะที่เราเดินทางเราใช้ความเร็วเฉลี่ยที่ 120 ก.ม./ช.ม. ซึ่งใช้รอบเครื่องยนต์ที่ 3000 รอบ ต่อนาที ถือว่าสูงพอสมควร แต่ยังอยู่ในเกณฑ์ที่รับได้
เมื่อลดความเร็วลงเล็กน้อยมาที่ 110 ก.ม./ช.ม. เราใช้รอบเครื่องยนต์พียง 2800 รอบต่อนาที และเมื่อลองต่ำลงอีกนิด ที่ความเร็ว 100 ก.ม./ช.ม. เราใช้รอบเครื่องยนต์เพียง 2500 รอบต่อนาที
เส้นทางขับขี่ที่ใช้ความเร็วได้พอประมาณ เมื่อแอบดูอัตราประหยัดในการขับขี่ถือว่าทำอยู่ในเกณฑ์ดีพอสมควร ด้วยตัวเลข 16 กิโลเมตร/ลิตร ซึ่ง ถ้านับว่าจากที่ผ่านมา เราพบว่าข้อมูลจากหน้าปัดจะผิดพลาดไปราวๆ 2-3 กิโลเมตร/ลิตร โดยประมาณเมื่อเติมจริง ก็ยังถือว่ามากอยู่ดี
ช่วงการขับขี่บนทางหลวง ด้วยรอบเครื่องยนต์ที่กำลังดี ทำให้ได้สุนทรีย์ในการขับขี่เช่นเดียวกับระบบกันสะเทือนที่เซทมาอย่างลงตัว ไม่มีโคลงแม้จะขับขี่ด้วยความเร็วพอสมควร ก็ตาม เราเริ่มภารกิจทดสอบอัตราเร่งโดยทำความเร็ว 90-140 ก.ม./ช.ม. กลับใช้เวลาเพียง 5 วินาที และเมื่อเร่งความเร็วเพื่อดูความเร็วสูงสุดที่จะสามารถทำได้จากเครื่องยนต์ขนาด 1.6 ลิตร เราได้ 175 ก.ม./ช.ม. แต่ยังสามารถไปได้อีกถ้าถนนว่างพอจะให้เหยียบ
การเดินทางด้วย ford focus 1.6 ลิตร บนเส้นทางนอกเมืองช่วยให้กระจ่างว่าบางทีมันอาจจะเหมาะกับนอกเมืองบนทางหลวงกว่าจริงๆ ระบบช่วงล่างที่เซทมาอย่างลงตัวทำให้ อาการโครงของรถไม่แสดงให้เห็น ส่วนหนึ่ง ได้มากจากระบบควบคุมการทรงตัวที่ใส่เข้ามาให้เป็นมาตรฐาน รวมถึงระบบป้องกันล้อหมุนฟรี ที่อยู่ในระบบควบคุมการลื่นไถล และในยามเข้าโค้งที่ความเร็วสูง ก็ยังมีระบบควบคุมแรงบิดขณะเข้าโค้งหรือ Torque Vectoring Control มาให้ใช้งานด้วย แต่ระบบนี้ต้องใช้ให้เป็นเพราะ คุณต้องเดินคันเร่งในขณะที่เข้าโค้ง จึงจะทำงาน คล้ายกับการมีเฟืองท้าย แบบ LSD นั่นเอง
ประหยัดโอเค ในแบบเครื่องยนต์ 1.6
แม้จะต้องกล่าวตามตรงว่า ในการขับทดสอบ Ford Focus 1.6 ลิตรนั้น สิ่งที่ทำให้เรารู้สึกว่าไม่ลงตัว และติดขัดในใจอย่างมากนั้น คือเรื่องของความประหยัด ที่สรุปแล้วเราได้ ตัวเลขการขับขี่ ในเมือง 8 กิโลเมตร/ลิตร โดยประมาณ และ นอกเมืองเราทำได้ดีที่ 16 กิโลเมตร/ลิตร และอัตราประหยัดโดยเฉลี่ยก็บอกเราเช่นนั้นเหมือนกัน ด้วยตัวเลข 6.2 ลิตร/100 กิโลเมตร
อย่างไรก็ดี คำถามที่ตามมาคือว่า แล้ว เฉลี่ยรวมจะเท่าไรกันแน่ และ เมื่อน้ำมันหมดก่อนจากลา เจ้า Ford Focus 1.6 Trend Hatchback เราก็ได้คำตอบดังกล่าวด้วยระยะทางที่วิ่งไปทั้งรวมในระยะที่เหลือได้ 640 กิโลเมตร เมื่อคำนวณ รวมกับ ความจุถังน้ำมันรวม เราได้ตัวเลขประหยัดเฉลี่ยที่ 11.6 กิโลเมตรพอดีเป๊ะ!!
จบการทดสอบเราสรุปได้เลยว่า Ford Focus Hatchback 1.6 ลิตร มีความลงตัวในเรื่องการใช้งานมากถึงมากที่สุด ในเรื่องฟังชั่นการใช้งานที่ไม่มากมายไม่ไฮเทคอะไรมาก แต่ความโดดเด่นจากเรื่องการออกแบบ และฟังชั่นที่ไม่ทิ้งเรื่องความปลอดภัยนั้น ก็ยังเป็นโจทย์ที่ทำให้มันน่าคบหา ซึ่งส่วนที่สำคัญที่ควรต้องเร่งปรับปรุงนั้นคือในเรื่องของกำลังเครื่องยนต์ที่ออกแนวว่าจะน้อยไปหน่อย และเมื่อเทียบกับซิตี้คาร์มันมากกว่าแค่ 5 แรงม้า และด้วยระบบเกียร์ที่ชอบให้ย่ำคันเร่ง นั่นคือสาเหตุว่าทำไม Ford Focus 1.6 ลิตร จึงกลายเป็นรถที่ไม่ลงตัวในเมือง ทั้งที่จริงๆ มันควรจะตอบเรื่องความประหยัดได้ดีกว่านี้ แต่ก็ยังดีที่ท้ายสุดเฉลี่ยรวมสามารถทำได้ออกมาน่าประทับใจ
เรื่อง ภาพ และขับทดสอบ โดย ณัฐยศ ชูบรรจง
ผลการทดสอบ Ford focus 1.6 trend Hatchback
Ford focus 1.6 trend Hatchback ราคาจำหน่าย 839,000 บาท
ตารางแสดงการทำงานของเครื่องยนต์
ความเร็ว (ก.ม./ช.ม.) |
รอบเครื่องยนต์ที่ใช้ ที่ตำแหน่งเกียร์สูงสุด (รอบต่อนาที) |
90 |
2250 |
100 |
2500 |
110 |
2800 |
120 |
3000 |
160 |
4050 |
ความเร็วสูงสุด ขณะทำการทดสอบ 175 กิโลเมตร/ชั่วโมง
อัตราประหยัดน้ำมัน (จากข้อมูลบนหน้าปัด)
การทดสอบในเมือง ได้อัตราประหยัด 7-8 กิโลเมตร/ลิตร (สภาพรถติดสุด - วันศุกร์ปลายเดือน)
การทดสอบนอกเมือง ได้อัตราประหยัด 16 .1 กิโลเมตร/ลิตร
อัตราประหยัด เฉลี่ยรวม 11.6 กิโลเมตร /ลิตร
*การทดสอบอัตราเร่ง 0-100 ก.ม./ช.ม. 12.0 วินาที
*การทดสอบอัตราเร่ง 90-140 ก.ม./ช.ม. 5.0 วินาที
คะแนนจากการทดสอบ Ford Focus hatchback 1.6 Trend ได้
หัวข้อ |
คะแนน (หมวดละ 20 คะแนน) |
คำแนะนำและติชม |
การออกแบบภายนอก |
18 |
การออกแบบ Ford Focus ใหม่นั้น ถือว่าลงตัวมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งในรุ่น 5 ประตูที่น่าจะเป็นที่ติดตาและตื่นตาตื่นใจของใครหลายคน ซึ่งส่วนตัวเราต้องยอมรับว่า ในการออกแบบครั้งนี้ ford ทำการบ้านมาดี และในรุ่น trend ถือว่ามีออพชั่นที่ลงตัวไม่มากไป ไม่น้อยไป และคุ้มค่าในราคาที่วางเอาไว้ |
การออกแบบภายในห้องโดยสาร |
18 |
ในห้องโดยสารยังออกแบบมาได้น่าสนใจ แม้จะตัดออพชั่นบางอย่างไป แต่ส่วนใหญ่ก็เป็นส่วนของเทคโนโลยีขั้นสูงที่เป็นไฮไลท์ของรถ และเครื่องเสียงชั้นนำจาก Sony ที่หายไป ซึ่งถ้าไม่ได้เน้นเรื่องเทคโนโลยีก็ถือว่าโอเคแล้วที่จะคบหา |
เครื่องยนต์ |
16 |
จะเรียกว่าตัวปัญหาก็ไม่ใช่ เพราะ จะบอกว่าพอรู้จะเดาได้ว่าเกิดอะไรในเรื่องความประหยัด หรือกำลังที่น้อย ซึ่งส่วนหนึ่งต้องยอมรับกำลัง 125 แรงม้า นั้น ก็น้อยไปจริง และ การเร่งๆหยุดในเมือง จาก Walking speed ที่น้อยเกิดไป ก็ทำให้ชัดเจนว่ามันเป็นอุปสรรคหลักในการขับขี่ แต่เมื่อออกสู่ทางหลวง มันก็แสดงให้เห็นว่าเพียงพอ ซึ่ง ตรงนี้ฟอร์ดต้องกลับไปพิจารณาสักหน่อย เพราะ นอกเมืองดีจนน่าใจหาย แต่ในเมืองกลับไม่ลงตัวในความประหยัดอย่างที่หวังเอาไว้ |
ระบบกันสะเทือนและสมรรถนะการขับขี่ |
17 |
แม้จะมีประเด็นเรื่องกำลังเครื่องยนต์ในเมืองบ้างแต่ท้ายทีสุด เราต้องยอมรับว่ามันลงตัวในการขับขี่พอสมควร อัตราเฉลี่ย 11.6 กิโลเมตร/ลิตร ถือว่าไม่เลว นั่นหมายความว่า ถ้าปรับการขับขี่ในเมืองให้ดีกว่านี้จะเป็นรถที่น่าคบหามาก เพราะ ช่วงล่างเองก็มีดีอยู่แล้ว |
เทคโนโลยี |
19 |
ไฮไลท์สำคัญบางตัวอาจจะถูกตัดออกไปในรุ่นนี้ แต่ โดยรวมนั้น ยังคงให้ความลงตัวในเรื่องการขับขี่โดยเฉพาะ เทคโนโลยีช่วยเหลือเบื้องหลัง ทั้งระบบควบคุมการลื่นไถล ระบบควบความการทรง หรือ จะระบบควบคุมแรงบิดในโค้ง ซึ่งน่าจะรวมถึง ระบบเปิด-ปิดกระจังหน้า อัตโนมัติ ด้วยซึ่งด้วยทั้งหมดก็ยังเป็นรถที่อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีอยู่ดี |
สรุป (คะแนนรวม) |
88 |
โดยรวมด้วยราคาที่ตั้งมา Ford focus 1.6 Trend เป็นรถยนต์ที่ยังน่าคบหาในตัวมันเอง ด้วยจุดขายเรื่องสมรรถนะการขับขี่ และความโดดเด่นเรื่องความปลอดภัย ที่ฟอร์ดโฟกัสมีอยู่แล้วดั้งเดิม ถ้าเทียบว่า จ่ายเงินในราคาไม่มากแต่ได้ออพชั่นครบ ในการขับขี่ไม่เน้นเรื่องความสบายจนเกินงาม รับรองว่า คุณจะต้องประทับใจรถคันนี้อย่างแน่นอน |
อัลบั้มภาพ 37 ภาพ