BMW พร้อมลุยไฮบริด-บิ๊กไบค์ มั่นใจปีนี้ยอดดี
BMW Thailand เปิดแผง 2013 พร้อมตะลุยตลาดไฮบริดเกาะกระแสบิ๊กไบค์ ดันยอดขายเพิ่มในปีนี้
นาย แมทธิอัส พฟาลซ์ ประธาน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย กล่าวว่า "บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ได้จารึกประวัติศาสตร์ใหม่อีกครั้ง ด้วยการทำสถิติยอดขายเพิ่มขึ้นสูงสุดถึง +44% สำหรับรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูและมินิ โดยมียอดขายรวมอยู่ที่ 6,114 คัน นับเป็นความสำเร็จอย่างสูงสุดถึงสองปีติดต่อกัน และยังเป็นสถิติยอดขายที่เพิ่มขึ้นสูงสุดเมื่อเทียบกับบีเอ็มดับเบิลยูในประเทศอื่นๆทั่วโลก
"ความสำเร็จของเราในประเทศไทย เป็นความสำเร็จที่สอดคล้องกับสถิติใหม่ที่บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ทั่วโลก ทำได้กว่า 1.8 ล้าน คัน ภายใต้แบรนด์ บีเอ็มดับเบิลยู, มินิ และโรลส์-รอยซ์ ซึ่งเพิ่มขึ้น +10.6% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า"
"BMW ยอดขายเพิ่มขึ้น 45% โดยมียอดรวมทั้งสิ้น 5,613 คัน เป็นเครื่องบ่งบอกการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่องสำหรับBMW ในแต่ละรุ่น โดยเฉพาะ BMW X1 ที่กลายเป็นรถรุ่นที่เป้นแกนหลักของยอดขาย รวมถึงเทคโนโลยี BMW EfficientDynamics และ BMW Service Inclusive ซึ่งทำให้ลูกค้ามั่นใจถึงสมรรถนะในด้านความประหยัดและในด้านความสบายใจสำหรับการบำรุงรักษารถยนต์ BMW ตลอดระยะเวลา 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร"
"สำหรับ Mini ในปีที่ผ่านได้สร้างยอดขาย 501 คัน โดยเฉพาะ มินิคันทรี่แมน มีส่วนเป็นอย่างมากในการสร้างความสำเร็จในครั้งนี้ ควบคู่ไปกับโปรแกรม MINI Service Inclusive ที่คุ้มครองการบำรุงรักษารถยนต์มินิตลอดระยะเวลา 3 ปี หรือ 50,000 กิโลเมตร นอกจากนี้แล้วลูกค้ามินิยังสามารถเลือกที่จะขยายระยะเวลาการคุ้มครองนี้ต่อไปได้ถึง 6 ปี หรือ 60,000 กิโลเมตร
BMW HP4
" ด้านกลุ่มรถมอเตอร์ไซค์ BMW Motorrad ได้สร้างสถิติยอดขายสูงสุดทั้งสิ้น 290 คันและอัตราการเติบโตที่เพิ่มขึ้นถึง 37% ในปีที่แล้ว ความสำเร็จของบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราดในประเทศไทยนี้ เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับความสำเร็จของบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราดทั่วโลกที่มียอดขายทั้งสิ้น 106,000 คัน "
สำหรับปีนี้ BMW จะรุกตลาดด้วยรถยนตืในกลุ่มเครื่องยนต์ไฮบริด ภายใต้ เทคโนโลยี BMW ActiveHybrid ที่มีให้เลือกถึง 8 รุ่น ซึ่งทุกรุ่นมาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบ มีให้เลือกทั้งรุ่น BMW ActiveHybrid 3รถสปอร์ตคอมแพ็คซีดานระดับหรู มาพร้อมประสิทธิภาพแห่งการประหยัด ด้วยเทคโนโลยี hybrid อัจฉริยะ กับเครื่องยนต์เบนซิน BMW TwinPower Turbo 6 สูบ ให้กำลัง 340 แรงม้าโดยรวมทั้งหมดและมีอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ภายใน 5.3 วินาที ได้แก่
BMW ActiveHybrid 3 (ราคา 4,199,000 บาท)
BMW ActiveHybrid 3 M Sport (ราคา 4,399,000 บาท)
BMW ActiveHybrid 3 M Sport (ราคา 4,499,000 บาท) พร้อมล้ออัลลอยขนาด 19" และ ช่วงล่าง M แบบปรับตั้งได้
BMW Active Hybrid 3
ตามมาด้วย BMW ActiveHybrid 5 มากับขุมกำลังที่ 340 แรงม้า และระดับการปล่อย CO2 เพียง 149 กรัม/กม. สามารถขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้าได้ไกลถึง 4 กิโลเมตร ด้วยความเร็วที่ต่ำกว่า 60 กิโลเมตร/ชั่วโมง รวมถึง Coasting mode ตัดการทำงานของเครื่องยนต์อัตโนมัติ ได้จนถึงขีดความเร็วสูงสุด 160 กม./ชม. มีวางจำหน่าย 2 รุ่น คือ
BMW ActiveHybrid 5 (ราคา 5,399,000 บาท)
BMW ActiveHybrid 5 M Sport (ราคา 5,599,000 บาท)
ท้ายสุด BMW ActiveHybrid 7 L มาพร้อม ความสามารถขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้าได้ไกลถึง 4 กิโลเมตร ด้วยความเร็วที่ต่ำกว่า 60 กิโลเมตร/ชั่วโมง เช่นเดียวกับ มอเตอร์ไฟฟ้าสั่งงานฟังก์ชั่น Boost เมื่อต้องการพลังงานสำหรับการออกตัว หรือเมื่อต้องการเร่งแซง ซึ่งสามารถให้อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 5.7 วินาที และมี อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยที่ 14.7 กิโลเมตร/ลิตร มีวางจำหน่าย 3 รุ่น ได้แก่
BMW ActiveHybrid 7 L (ราคา 8,299,000 บาท)
BMW ActiveHybrid 7 L M Sport (ราคา 8,899,000 บาท)
BMW ActiveHybrid 7 L Highline (ราคา 8,999,000 บาท)
ด้านรถมอเตอร์ไซค์ BMW Motorrad เปิดตัว วางจำหน่าย 3 รุ่นตอบสนองกระแสความต้องการของผู้ใช้ เริ่มต้นด้วย BMW F 800 GS ให้การใช้งานทั้งในแบบทั่วไป และในแบบ Touring ด้วยสมรรถนะ ของมอเตอร์ไซด์ออฟโรด ในขณะที่ BMW F 700 GS ถูกออกแบบมาเพื่อผู้ขับขี่ที่ไม่ต้องการ ใช้งานในลักษณะออฟโรด มากนัก
นอกจากนี้ยังมาพร้อมที่สุดแห่งสปอร์ตไบค์ BMW HP4 มอเตอร์ไซด์ 4 สูบ ในกลุ่มซุปเปอร์สปอร์ต 1,000 ซีซี ที่เบาที่สุด ให้พละกำลังสูงสุด 193 แรงม้า ที่ 13,000 รอบ และมีรอบเครื่องยนต์สูงสุด 14,200 รอบ และมีน้ำหนักเพียง 199 กิโลกรัม มาพร้อมชุดแต่ง Competition Package มาพร้อมกับชิ้นส่วนคาร์บอน เช่น สปอยเลอร์, ที่พักเท้า, มือจับเบรกและคลัช, ล้อสี Racing blue metallic