รีวิว Lexus RX200t F-Sport เอสยูวีพรีเมี่ยม มีดีกว่าที่คิด
Lexus RX เป็นรถเอสยูวีระดับพรีเมี่ยมที่ได้รับความนิยมมากที่สุดรุ่นหนึ่งในตลาดบ้านเรานับตั้งแต่เจเนอเรชั่นแรกเริ่มวางตลาด ซึ่งสมัยนั้นทางโตโยต้ามอเตอร์ (ประเทศไทย) ยังไม่ได้นำเข้ามาจำหน่าย แต่ก็มีบรรดาเกรย์มาร์เก็ตนำเข้ามา และทำยอดขายไปได้ไม่น้อยเลยทีเดียว
กระทั่ง Lexus RX โฉมใหม่ล่าสุด ถูกพัฒนามาจนถึงเจเนอเรชั่นที่ 4 และได้รับการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในบ้านเราไปเมื่อปลายปี 2558 ที่ผ่านมา ซึ่งได้รับการพัฒนาให้มีรูปลักษณ์โดดเด่น หรูหรา เฉียบคม ตามสไตล์เล็กซัสอย่างที่เห็น
บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด จึงพาสื่อมวลชนเข้าร่วมทดสอบ Lexus RX ใหม่ บนเส้นทางกรุงเทพฯ-ปราณบุรี ในบรรยากาศแบบสบายๆ ด้วยรูปแบบการทดสอบที่ไม่เร่งรีบ ให้เราได้สัมผัสความพรีเมี่ยมของเจ้า Lexus RX คันนี้ได้อย่างเต็มที่
สำหรับ Lexus RX ในบ้านเราถูกแบ่งออกเป็น 3 รุ่นหลัก ตามชนิดของเครื่องยนต์ ซึ่งได้แก่
- RX200t ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร แถวเรียง 4 สูบ Twin-scroll Turbocharger ให้กำลังสูงสุด 238 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยเกียรฺอัตโนมัติ 6 สปีด แบ่งออกเป็น 3 รุ่นย่อย ได้แก่ Luxury, Premium และ F SPORT
- RX350 ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน V6 Atkinson Cycle ให้กำลังสูงสุด 300 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 370 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด พร้อม Electromagnetic Control Coupling
- RX450h ติดตั้งเครื่องยนต์ไฮบริดเบนซิน V6 ขนาด 3.5 ลิตร ทำงานคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า ส่งกำลังด้วยเกียร์ E-CVT ให้กำลังรวมทั้งระบบสูงสุด 313 แรงม้า
ขณะที่การทดสอบครั้งนี้ ทุกคันเป็นรุ่น RX200t ที่ใช้เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 2.0 ลิตร ซึ่งน่าจะได้รับความนิยมมากที่สุดเมื่อเทียบกับรุ่นที่ใช้เครื่องยนต์ขนาดใหญ่กว่า ขณะที่รุ่นย่อยที่เราได้รับทดสอบ เป็นรุ่น RX200t F SPORT ซึ่งถือเป็นเวอร์ชั่นสปอร์ตรุ่นท็อปสุดในไลน์ RX200t อีกด้วย
รูปลักษณ์ภายนอกของ RX200t F SPORT ไม่ได้เน้นออกแบบให้ดูบึกบึนเหมือนเอสยูวีทั่วไป แต่มีเส้นสายที่ดูพริ้วไหว เฉียบคม ต่อเนื่องตั้งแต่ด้านหน้าจรดด้านท้าย น่าจะถูกใจสาวๆที่อยากให้รถยกสูงที่ดูทันสมัย หรูหรา แต่ยังคงแฝงไปด้วยความสมบุกสมบันอยู่บ้าง
ด้านหน้าติดตั้งไฟหน้าแบบ LED Projector จำนวน 3 ดวงในแต่ละข้าง พร้อม Daytime Running Light รูปหัวลูกศรเอกลักษณ์ของเล็กซัส ออกแบบรับกับกระจังหน้าทรง Spindle Grille สีดำขนาดใหญ่ พร้อมไฟท้ายแบบ LED ซึ่งไฟเลี้ยวทั้งด้านหน้าและหลังของรุ่น F SPORT จะมีลูกเล่นเล็กๆ คือ หลอดแอลอีดีจะกระพริบเลื่อนจากด้านในไปด้านนอก ตามทิศทางการเลี้ยว ซึ่งก็ดูสวยงามไปอีกแบบ
ห้องโดยสารภายในถูกตกแต่งอย่างเรียบหรู ประณีต จัดวางที่นั่งแบบ 2 แถว 5 ที่นั่ง เบาะนั่งคู่หน้าแบบหนังแท้ออกแบบรับแผ่นหลังได้เป็นอย่างดี ให้ความโอบกระชับกำลังเหมาะ รวมถึงฟองน้ำยังนุ่ม นั่งสบาย แต่ไม่ยวบจนทำให้เมื่อยล้าขณะเดินทางไกล
ตัวเบาะคู่หน้าสามารถปรับระดับได้ด้วยไฟฟ้า พร้อมด้วยระบบเมมโมรี่ ที่สามารถจดจำตำแหน่งเบาะนั่ง ควบคู่ไปกับตำแหน่งพวงมาลัยและการปรับกระจกมองข้าง นอกจากนั้นยังมีระบบเบาะอุ่นและลมเย็นเป่าเบาะทั้ง 2 ข้าง เหมาะกับสภาพอากาศร้อนๆของบ้านเราเป็นอย่างดี
ขณะที่เบาะนั่งแถวหลังยังสามารถปรับเอนได้ด้วยระบบไฟฟ้าทั้ง 2 ข้าง รวมถึงตัวเบาะยังสามารถปรับพับขึ้น-ลง ได้ด้วยระบบไฟฟ้าสำหรับเพิ่มพื้นที่ห้องเก็บสัมภาระด้านท้าย เรียกว่าคนในครอบครัวก็สามารถเดินทางได้อย่างสบาย ไม่ต้องกลัวเมื่อยแต่อย่างใด
เครื่องเสียงใน RX200t F Sport เป็นแบบ Lexus Premium Audio Surround Sound ขับกำลังเสียงผ่านลำโพง 12 จุดรอบคัน สั่งงานผ่านหน้าจออินโฟเทนเม้นท์ EMV RTI ขนาดใหญ่ พร้อมระบบนำทาง สามารถควบคุมด้วยปุ่มบริเวณคันเกียร์ ซึ่งมีลักษณะการทำงานคล้ายๆกับเมาส์ ที่สามารถเลื่อนเพื่อเข้าไปยังเมนูต่างๆได้ ซึ่งใช้งานได้ง่าย รวมถึงยังรองรับการเชื่อมต่อโทรศัพท์ผ่าน Bluetooth และ USB ได้
ใต้แผงคอนโซลหน้ายังมีแท่นชาร์จโทรศัพท์ไร้สายระบบ QI ซึ่งแม้ว่าจะอยู่ลึกไปนิด แต่ก็ถือเป็นตำแหน่งที่เหมาะสม เพราะเชื่อว่าเจ้าของรถหลายคนก็น่าจะเชื่อมต่อกับตัวรถเอาไว้อยู่แล้ว ไม่ต้องหยิบขึ้นมาดูบ่อยๆ
ระบบอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งกุญแจแบบ Smart Entry & Start System กุญแจแบบ Card Key, เบาะนั่งและพวงมาลัยปรับอัตโนมัติเพื่อเข้า-ออกได้อย่างสะดวก, ประตูท้ายเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้าโดยไม่ต้องสัมผัส สามารถยื่นมือค้างไว้ที่โลโก้ Lexus ด้านท้ายเป็นเวลา 3 วินาที จากนั้นประตูท้ายจะเปิดให้อัตโนมัติ (แต่ต้องพกกุญแจเอาไว้กับตัว) ฯลฯ
Lexus RX200t F Sport คันนี้ ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบความจุ 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 238 แรงม้า (HP) ที่ 4,800-5,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตร ที่ 1,650-4,000 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด รองรับน้ำมันเชื้อเพลิงทางเลือกสูงสุดคือ E20
ซึ่งข้อดีของเครื่องยนต์บล็อกเทอร์โบนี้ ก็คือ แรงบิดสูงสุดที่มาตั้งแต่รอบต่ำที่ 1,650 รอบต่อนาที และยาวไปจนถึง 4 พันรอบต่อนาที ซึ่งจะช่วยให้ทำอัตราเร่งได้รวดเร็วทันใจ เหมาะสำหรับรถที่มีตัวถังขนาดใหญ่แบบนี้
ด้านตัวเลขสมรรถนะนั้น เราไม่ได้ทดสอบด้วยตัวเอง เพราะสภาพเส้นทางคงไม่เอื้ออำนวยเท่าไหร่ แต่ทางเล็กซัสเคลมไว้ที่ 9.5 วินาที สำหรับการเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ซึ่งเครื่องยนต์ขนาดเพียงแค่ 2.0 ลิตร ที่ต้องแบกรับน้ำหนักตัวถังขนาดนี้ บอกเลยว่าไม่ธรรมดา
ระบบความปลอดภัยเรียกว่าจัดเต็มเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นถุงลมนิรภัยแบบ Dual Stage คู่หน้า, ถุงลมด้านข้าง, ม่านถุงลม และถุงลมบริเวณหัวเข่าฝั่งผู้ขับ, ระบบเบรก ABS/EBD พร้อม Brake Assist, ระบบควบคุมเสถียรภาพ VSC, ระบบช่วยทรงตัวแบบองค์รวม VDIM, ระบบช่วยออกตัวบนทางลาด HSAC, ระบบเตือนความดันลมยาง ที่สามารถแจ้งตัวเลขความดันลมยางแต่ละล้อได้บนหน้าจอ
นอกจากนั้น ยังมีระบบเตือนจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน Lane Change Assist with BSM และระบบเตือนรถเคลื่อนผ่านด้านหลังขณะถอย Rear Cross Traffic Alert
เส้นทางที่ใช้ทดสอบครั้งนี้อย่างที่บอกไปว่าเป็นเส้นทาง กรุงเทพฯ-ปราณบุรี ที่เราคุ้นเคยกันดี
มุ่งหน้าออกเดินทางจากตึกออลซีซั่นบนถนนวิทยุ อันเป็นสถานที่ตั้งของเล็กซัสสำนักงานใหญ่ ลัดเลาะการจราจรยามเช้าไปบนถนนวิทยุ เราก็สัมผัสได้ถึงความคล่องตัวของ Lexus RX ที่แม้จะเป็นเอสยูวีขนาดใหญ่ แต่ก็ไม่เทอะทะ เป็นรถที่แม้แต่คุณผู้หญิงตัวเล็กๆ ก็สามารถขับได้อย่างไม่มีปัญหา
อีกสิ่งหนึ่งที่สัมผัสได้ใน Lexus RX200t F SPORT ใหม่ คือแรงสั่นสะเทือนจากเครื่องยนต์ที่อยู่ในระดับต่ำมาก มากเสียจนบางครั้งผู้เขียนเองเผลอคิดไปว่ากำลังขับรถไฮบริด และวิ่งด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าอยู่เลยทีเดียว
หลังจากพ้นการจราจรในเมืองมาสู่ถนนพระราม 2 ที่เอื้ออำนวยให้เราใช้ความเร็วขึ้นมาได้อีกนิด เราก็รู้สึกถึงความเงียบภายในห้องโดยสาร อันเป็นจุดเด่นของเล็กซัสแทบจะทุกรุ่น ไม่ว่าจะเป็นเสียงจากพื้นถนน เสียงลมปะทะ รวมถึงเสียงจากเครื่องยนต์ ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายยามเดินทางไกลๆ สามารถสนทนากับผู้โดยสารในรถโดยไม่ต้องตะเบงเสียง แม้จะวิ่งด้วยความเร็ว 120 กม./ชม.ก็ตามที ถือเป็นเอกลักษณ์ของเล็กซัสที่ยังคงรักษาเอาไว้ได้เป็นอย่างดี
อัตราเร่งของเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร แม้จะต้องแบกรับตัวถังขนาดใหญ่ พร้อมผู้โดยสารอีก 3 คนในวันที่เราทดสอบนั้น ถือว่าใช้ได้ทีเดียว เพราะได้ระบบอัดอากาศเทอร์โบเข้ามาช่วย เรียกแรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตร ได้ตั้งแต่รอบเครื่องยนต์เพียง 1,650 รอบต่อนาที ลากยาวไปจนถึง 4,000 รอบต่อนาที ซึ่งเป็นย่านความเร็วรอบที่ใช้กันตามปกติอยู่แล้ว ทำให้ไม่ต้องเค้นรอบให้เหนื่อยกันแต่อย่างใด ดังนั้น หากใครคิดว่าเครื่องยนต์แค่ 2.0 ลิตรจะทำให้ Lexus RX ใหม่คันนี้อืดหรือไม่ ประเด็นนี้รับรองสอบผ่านฉลุย
ส่วนช่วงล่างของ RX200t F SPORT นั้น ถูกเซ็ทมาติดแข็งอยู่นิดๆ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว พร้อมยางซีรี่ย์ 235/55 R20 ซึ่งก็ถือว่าแก้มเตี้ยพอควรสำหรับรถเอสยูวี ข้อดีคือช่วยลดอาการโยนขณะขับขี่ที่ความเร็วสูงได้ แต่ก็อาจไม่ถึงกับนุ่มสบายอย่างที่คิดไว้ แต่ยังไงก็ไม่ได้สปอร์ตเสียจนกระทั่งแข็งปั๋งนั่งไม่ได้ เพียงแต่จะมีอาการกระด้างให้เห็นอยู่เนืองๆ โดยเฉพาะกับผู้โดยสารแถวหลัง
สรุป Lexus RX200t F SPORT ถือเป็นเอสยูวีคุณภาพอีกคันหนึ่ง ที่ใครงบถึงก็ไม่น่าพลาด ไม่ว่าจะเป็นความสวยงาม เฉียบคม ตามสไตล์เล็กซัส ภายในยังออกแบบอย่างพิถีพิถันในทุกรายละเอียด ห้องโดยสารกว้างขวาง วัสดุภายในและการตัดเย็บดีมาก ความเงียบยังคงเป็นจุดเด่น เครื่องยนต์ 2.0 ลิตรเทอร์โบแรงเอาเรื่อง
หากใครกำลังมองหารถครอบครัวระดับหรู ภาพลักษณ์ทันสมัย ได้ความลุยนิดๆ Lexus RX ถือเป็นทางเลือกที่ไม่น่าพลาดอีกคันครับ
ราคาจำหน่าย Lexus RX200t F Sport AWD อยู่ที่ 5,090,000 บาท
(ขอขอบคุณผู้บริหารและฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด และ เล็กซัสประเทศไทย ที่ให้เกียรติเชิญเข้าร่วมทดสอบ รวมถึงอำนวยความสะดวกแก่ทีมงานเป็นอย่างดี)
อัลบั้มภาพ 39 ภาพ