Rolls -Royce Wraith คูเป้พันธุ์หรูกับตัวเลข 624 แรงม้า

            เมื่อพูดถึงรถยนต์นั่งหรูขั้นเทพไม่ว่าใครก็คงต้องเคยได้ยินชื่อเสียงเรียงนามของค่ายรถยนต์  Rolls-Royce ที่บรรดาเศรษฐีต่างๆ ต้องขอจับจองครอบครองสักครั้งเมื่อมีโอกาส และรุ่นใหม่ล่าสุดนี้ก็เป็นรุ่นที่มีพละกำลังกล้ามโตมากที่สุดและเร็วที่สุดเท่าที่เคยผลิตกันมายาวนาน

                 Rolls Royce Wraith Coupe เป็นผลงานล่าสุดจากค่ายรถยนต์พันธุ์หรู ที่เปิดตัวเรือนร่างใหม่ลาสสุดในความหรูหราและสปอร์ตไปพร้อมกันในสไตล์คูเป้ ที่ให้เสน่ห์ในการตอบโจทย์อารมณ์ที่แตกต่าง หลังจากที่เคยทำตลาดรถยนต์มาแล้วมากมายหลายรุ่น ที่ทรงความหรูและสมรรนถนะไปพร้อมกัน

Rolls Royce Wraith Coupe

Rolls Royce Wraith Coupe

                เรือนร่าง Rolls Royce Wraith Coupe  ในสไตล์ทรวดทรงท้ายลาดคูเป้ ให้ความสมส่วนด้วยความยาว 5,269 ม.ม. กว้าง 1,947 ม.ม. และ มีความสูง 1,507 ม.ม. มาพร้อมฐานล้อยาวถึง  3,112 ม.ม. ซึ่ง โดยรวมแล้วมันขนาดสั้นกว่า Rolls-Royce Ghost sedan  เพียง 130 ม.ม. และเจ้าราชวังเคลื่อนที่ในคราบสปอร์ตคันนี้ ยังมีน้ำหนักมากถึง  2,306  กิโลกรัม  

                ในห้องโดยสาร  Rolls-Royce Wariath coupe  ยังคงความโอ่โถงในการโดยสาร แม้รถยนต์คันนี้จะเกิดมาพร้อมความสปอร์ในสายเลือด แต่เรื่องการตอบโจทย์ในการใช้งานก็ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม โดยเฉพาะการตบแต่งเช่นเดียวกับรุ่นพี่  Rolls-Royce Ghost  การตบแต่งที่ผสานความเป็นธรรมชาติไม้วีเนียร์ และในเจ้าตัวหรูคันใหม่นี้ มาพร้อมระบบ Satellite Aided Transmission (SAT) ซึ่งจะทำการรับส่งข้อมูลของเส้นทางในการขับขี่ และยังช่วยในการเลือกวิถีการขับขี่ที่เหมาะกับเส้นทาง รวมถึงปรับระบบส่งกำลังแบบเรียลไทม์ให้เกมาะกับเส้นทางที่ใช้

Rolls Royce Wraith Coupe

                เรื่องสมรรถนะการขับขี่  Rolls Royce Wraith Coupe   มาพร้อมเครื่องยนต์ V12  ขนาด  6.6 ลิตร แถมท้ายด้วยระบบเทอร์โบชาร์จคู่ ให้สมรรถนะที่เร้าใจในการขับขี่ด้วยกำลังสูงสุด 624  แรงม้า และยังให้แรงบิดสูงสุดถึง  800 นิวตันเมตร ส่งลงเกียร์ ZF  8 สปีด ตอบโจทย์เรื่องสมรรถนะด้วยอัตราเร่งเร้าใจ 0-100 ก.ม./ช.ม. ใน 4.2  วินาที แต่ไม่มีการเปิดเผยความเร้วสุงสุดของพระราชวังเคลื่อนที่คันนี้ออกมา

                แม้จะเปิดตัวออกมาแล้ว แต่ Rolls- Royce Wrait Coupe ก็ยังไม่ได้ลงทำตลาดในทันที โดยรถรุ่นนี้จะเริ่มจำหน่ายอย่างเป็นทางการภายในปีนี้  โดยในยุโรปมีราคาจำหน่ายที่  245,000  ยูโร หรือจะมีราคาเป็นค่าเงินในบ้านเราราวๆ 12.25  ล้านบาท(ไม่รวมอัตราภาษี) ทว่าราคาจำหน่ายนี้ก็ยังไม่สามารถยืนยันได้เพราะ จะมีการเปลี่ยนไปตามออพชั่นของแต่ละประเทศ