เปิดเส้นทาง “ห้ามเผลอ”

     เทศกาล สงกรานต์นอกจากจะท่องเที่ยวอย่างสนุกสนานแล้ว ควรเที่ยวอย่างมีสติ เดินทางด้วยความระมัดระวัง เพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุถึงที่หมายปลอดภัย กองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) ทำหน้าที่ดูแลทางหลวงทั่วประเทศ ได้มอนิเตอร์รวบรวมเส้นทางที่มีสถิติเกิดอุบัติเหตุมากที่สุด รวม 8 เส้นทาง เพื่อให้ผู้ขับขี่สัญจรอย่างระมัดระวัง เรียกว่า “เตือนสติก่อนสตาร์ต”

เส้นทางที่ 1 ถนนมิตรภาพ ช่วง กม.136-138 ต.มวกเหล็ก อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี เป็นทางลงเขาลาดชัน คดเคี้ยว เมื่อขับด้วยความเร็วสูงจะทำให้ควบคุมรถได้ยาก

เส้นทางที่ 2 ถนนพหลโยธิน ช่วง กม.76-77 ต.สนับทึบ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา สภาพถนนเป็นทางโค้ง 10 ช่วง และมีจุดกลับรถ ทำให้รถที่ลงเนินเขามาต้องเปลี่ยนช่องทางทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย

เส้นทางที่ 3 ถนนสายเอเชีย ช่วง กม.66-67 ทางแยกเข้าทางหลวง 356 ต.บ้านกรด อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา มีจุดกลับรถหลายแห่ง และมักมีการเข้า-ออกที่ฝ่าฝืนกฎจราจรทำให้เฉี่ยวชนบ่อย

เส้นทางที่ 4 ถนนเพชรเกษม ช่วง กม.152-153 ต.หัวสะพาน อ.เมืองเพชรบุรี เกิดอุบัติเหตุบ่อย เนื่องจากมีเพียง 4 ช่องทาง และเป็นแหล่งชุมชน

เส้นทางที่ 5 ถนนสุขุมวิท (ทางหลวงหมายเลข 3) ช่วง กม.129-130 ต.ทุ่งสุขลา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เป็นจุดกลับรถและทางโค้ง ทำให้รถที่ขับลงเนินมาต้องเปลี่ยนช่องทางและมีเพียง 2 ช่องทาง

เส้นทางที่ 6 ถนนสุขุมวิท (ทางหลวงหมายเลข 3) ช่วง กม.145-146 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เป็นจุดที่มีรถออกจากซอยและกลับรถตัดหน้ารถทางตรง

เส้นทางที่ 7 ถนนสุขุมวิท (ทางหลวงหมายเลข 3) ช่วง กม.4-7 ถนนเลี่ยงเมืองชลบุรี ต.บ้านสวน จ.ชลบุรี เป็นช่วงที่มีปริมาณรถมาก และมีการเปลี่ยนช่องทางทำให้รถชนท้ายกันบ่อย

เส้นทางที่ 8 ถนนสุขุมวิท (ทางหลวงหมายเลข 334) ช่วง กม.6-7 ต.หนองรี อ.เมือง จ.ชลบุรี มีรถหนาแน่น และมีจุดกลับรถ ไหล่ทางแคบ เมื่อมีรถจอดรอทำให้เหลือช่องทางเดียว

     นอกจากนี้ บก.ทล.ได้ลิสต์เส้นทางที่ควรระมัดระวังเพิ่มเติมอีก 21 เส้นทาง ได้แก่ 1.เส้นทางภาคเหนือรอบเมืองเชียงใหม่ 2.เส้นทางลำปาง-ลำพูน (อ.เถิน) 3.เส้นทางรอบเมืองพิษณุโลก 4.เส้นทางระหว่าง อ.เมือง จ.ชัยนาท-อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ 5.เส้นทางภาคกลางระหว่างประตูน้ำพระอินทร์ จ.ปทุมธานี-หนองแค จ.สระบุรี 6.เส้นทางระหว่างปากท่อ จ.ราชบุรี-หัวหิน จ.เพชรบุรี 7.เส้นทางนครนายก-ปราจีนบุรี 8.เส้นทางนครปฐม-กาญจนบุรี-ราชบุรี 9.เส้นทางภาคตะวันออก ระหว่างแยกราชบุรี-เมืองพัทยา 10.เส้นทางพัทยา-ระยอง

     11.เส้น ทาง อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา – อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น 12.เส้นทางรอบเมืองขอนแก่น 13.เส้นทาง อ.หนองบุญมาก จ.นครราชสีมา – อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ 14.เส้นทางเดชอุดม จ.อุบลราชธานี 15.เส้นทางภาคใต้ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ – สวี จ.ชุมพร 16.เส้นทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ระหว่างปากช่อง-แยกสีคิ้ว จ.นครราชสีมา 17.เส้นทาง อ.พุนพิน เข้าเมืองสุราษฎร์ธานี 18.เส้นทางทุ่งสง เข้าเมืองนครศรีธรรมราช 19.เส้นทางเข้าเมืองสงขลา 20.เส้นทาง อ.อ่าวลึก จ.กระบี่-จ.พังงา และ 21.เส้นทางสี่แยกปฐมพร จ.ชุมพร-อ.กระบุรี จ.ระนอง

     หากใครจะผ่านไปเส้นทางเหล่านี้ แตะเบรก ชะลอความเร็วไว้บ้างก็จะดี

     ส่วนในกรุงเทพฯ ยวดยานพาหนะจำนวนมากต่างหันหัวออก ขณะเดียวกันถนนหลายสายยังเนืองแน่นคับคั่งไปด้วยผู้คน เป็นจุดรวมพลสาดน้ำ สร้างสีสันบรรยากาศสงกรานต์จนการจราจรหนาแน่น ติดหนึบ และเคลื่อนตัวได้ช้า

     โดย พ.ต.อ.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รองผู้บังคับการตำรวจจราจร (รอง ผบก.จร.) กล่าวว่า การจัดระเบียบการจราจรช่วงเทศกาลสงกรานต์มีการปรับปรุงแผนให้เหมาะสม โดยจะเปิดใช้ช่องทางพิเศษระบายรถออกจากกรุงเทพฯให้รวดเร็วที่สุด ส่วนใหญ่ปัญหาการจราจรจะมีช่วงออกจากกรุงเทพฯ แต่ขาเข้าไม่มีปัญหา อย่างไรก็ตามพื้นที่จัดงานเทศกาลสงกรานต์ในกรุงเทพฯมักจะมีปัญหาตรงจุดจัด งาน จะมีการเพิ่มความเข้มงวดและดูแลอย่างใกล้ชิด มีตำรวจจราจร 3,500 นาย อำนวยความสะดวกทุกจุด และมีการควบคุมไม่ให้รถบรรทุกน้ำเข้าไปยังถนนในสายที่กำหนด 33 เส้นทาง

     “ด้าน ปัญหาอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลสงกรานต์จะพบน้อยมาก แต่จะมีปัญหาในช่วงเวลากลางคืน เนื่องจากถนนโล่งรถจึงใช้ความเร็วได้สูง ฝากให้ประชาชนในพื้นที่กรุงเทพฯ ที่ไม่ได้เดินทางออกต่างจังหวัดเลี่ยงปัญหาการจราจรติดขัดในเส้นทางสายหลัก อาทิ ถนนข้าวสาร เอเชียทีค สีลม ฯลฯ จะมีประชาชนเดินทางไปเล่นน้ำทั้งวัน หากประชาชนจะสัญจรผ่านควรเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่น หรือควรใช้บริการรถขนส่งสาธารณะ แต่เท่าที่ทราบมาในพื้นที่กรุงเทพฯไม่เคยมีปัญหาด้านการจราจรติดขัดในช่วง เทศกาลสงกรานต์” รอง ผบก.จร.
    
     ทั้งนี้ ข้อบังคับเจ้าพนักงานจราจร ที่ออกโดยกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 13-17 เมษายน ว่าด้วยการห้ามเดินรถบางชนิด และกำหนดให้เดินรถทางเดียวในถนนบางสาย รวมทั้งห้ามรถน้ำ หรือบรรทุกอุปกรณ์เล่นน้ำสงกรานต์ คนโดยสารเพื่อ เล่นสาดน้ำสงกรานต์ และห้ามจอดรถเปิดเครื่องเสียง เพื่อให้คนเต้นบนรถยนต์ ตั้งแต่เวลา 10.00-22.00 น. ในถนนทั้งหมด 44 เส้นทาง เนื่องจากมีการจราจรติดขัด เกิดอุบัติเหตุบ่อย และเกิดเหตุทะเลาะวิวาทบ่อยครั้ง ประกอบด้วย

     1.ถนนข้าวสาร 2.ถนนจักรพงษ์ 3.ถนนบวรนิเวศ 4.ถนนสามสิบห้าง 5.ถนนตะนาว 6.ถนนราชินี ตั้งแต่แยกราชินี ตัดถนนหน้าพระธาตุ-ถนนราชินี ตัดถนนพระอาทิตย์ 7.ถนนพระอาทิตย์ 8.ถนนพระสุเมรุ ตั้งแต่แยกวันชาติ-แยกพระสุเมรุ 9.ถนนสามเสน ตั้งแต่แยกบางขุนพรหม-แยกบางลำพู 10.ถนนราชดำเนินกลาง ตั้งแต่แยกผ่านพิภพลีลา-วงเวียนอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย

     11.ถนนราชดำเนินใน ตั้งแต่แยกผ่านพิภพลีลา-แยกป้อมเผด็จดัสกร 12.ถนนหน้าพระลาน ตั้งแต่แยก ป้อมเผด็จดัสกร-แยกท่าช้าง 13.ถนนสุทธิสารวินิจฉัย ตั้งแต่แยกสุทธิสาร-แยกรัชดาฯตัดสุทธิสาร 14.ถนนประชาสุข ตั้งแต่ซอยอินทามระ 49 แยกประชาสุข 15.ถนนสายไหม 16.ถนนหทัยราษฎร์ ตั้งแต่แยกหทัยราษฎร์-ถนนสุวินทวงศ์ 17.ถนนโชคชัย 4 18.ถนนลาดพร้าว-วังหิน 19.ถนนนาคนิวาศ 20.ถนนสังคมสงเคราะห์ 21.ถนนสีลม ตั้งแต่แยกศาลาแดง-แยกนราลม 22.ถนนพระราม 4 ตั้งแต่แยกศาลาแดง-แยก วิทยุ 23.ถนนนราธิวาสราชนครินทร์ ตั้งแต่แยกนราลม-แยกนรินทร

     24.ถนนสุรวงศ์ ตั้งแต่แยกอังรีดูนังต์-แยกเดโช-สุรวงศ์ 25.ถนนทรัพย์ 26.ถนนสมเด็จพระปิ่นเกล้า ตั้งแต่แยกอรุณอมรินทร์-สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า 27.ถนนสุขสวัสดิ์ ตั้งแต่แยกพระราม 2 ถึงสุดเขตกรุงเทพมหานคร 28.ถนนประชาอุทิศ ตั้งแต่แยกประชาอุทิศ-ปากซอยประชาอุทิศ 69 29.ถนนราษฎร์บูรณะ ตั้งแต่สะพานข้ามคลองบางปะแก้วถึงสุดเขตกรุงเทพมหานคร 30.ถนนพุทธบูชา ตั้งแต่แยกนาหลวง-แยกกำนันธารทิพย์ 31.ถนนวุฒากาศ ตั้งแต่แยกจอมทอง-สุดถนนวุฒากาศ 32.ถนนทวีวัฒนา ตั้งแต่ถนนทวีวัฒนา ตัดถนนเพชรเกษม-สะพานข้ามคลองบางไผ่ 33.ถนนนราธิวาสราชนครินทร์ ตั้งแต่แยกนราชธิวาสราชนครินทร์-แยกนราลม

     34.ถนนอรุณอมรินทร์ ตั้งแต่สะพานอรุณอมรินทร์ ถึงแยกขมิ้น 35.ถนนชัยพฤกษ์ 36.ถนนราชวิถี ตั้งแต่แยกบางพลัด ถึงสะพานกรุงธน 37.ถนนบางแวก ตั้งแต่เชิงสะพานวัดวิจิตรการนิมิต ถึงแยกกาญจนาภิเษก 38.ถนนจรัญสนิทวงศ์ เชื่อมถนนกาญจนาภิเษก 39.ถนนสมเด็จพระปิ่นเกล้าขาเข้า ตั้งแต่แยกอรุณอมรินทร์ถึงสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า 40.ซอยอิสรภาพ 21 ตั้งแต่ปากซอย ถึงปากซอยเพชรเกษม 4 41.ซอยจรัญสนิทวงศ์ 13 ตั้งแต่แยกพาณิชย์ ถึงสะพานข้ามคลองบางกอกใหญ่ 42.ถนนไฟฉาย ตัดถนนกาญจนาภิเษก ตั้งแต่แยกไฟฉาย ถึงสะพานข้ามคลองบางขุนศรี 43.ถนนทวีวัฒนา ตั้งแต่สะพานข้ามคลองบางไผ่ และ 44.ถนนอุทยานตลอดสาย

     นอก จากนี้ให้เดินรถทางเดียวในวันที่ 13-17 เมษายน ตั้งแต่เวลา 12.00-18.00 น. ในถนนพระสุเมรุตั้งแต่แยกบางลำพูมุ่งหน้าสะพานวันชาติ และซอยพหลโยธิน 58 (แอนเน็กซ์) จากด้านถนนเลียบคลองสองมุ่งหน้าถนนพหลโยธิน

     หากมีการ ฝ่าฝืนนำรถบรรทุกน้ำเข้าไปยังถนนที่มีการออกข้อบังคับจะถือว่ากระทำผิดกฎ จราจรมีโทษฐานฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงานจราจร โทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท

     ทั้งหลายทั้งปวง เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ ให้เทศกาลสงกรานต์เป็นวันครอบครัว วันแห่งความรื่นรมย์ การพักผ่อน มิใช่วันแห่งการสูญเสีย!!

 

     ที่มา มติชนรายวัน วันที่ 9 เม.ย. 59