เปิดใจพริตตี้ มอเตอร์โชว์ ..งานในฝัน ของสาวยุคใหม่
พูดถึงอาชีพ"พริตตี้"นาทีนี้ต้องบอกว่าเป็นงานในฝันของสาวๆยุคใหม่ เพราะงานโชว์สินค้าทุกวันนี้ต่างว่าจ้างพวกเธอมาเป็นตัวดึงดูดแถมยังมีรายได้งามๆมาล่อใจอีกต่างหาก ทำให้ทุกวันนี้มีพริตตี้หน้าใหม่ๆเกิดขึ้นเกือบทุกวัน
เช่นเดียวกับงานบางกอกมอเตอร์โชว์นอกจากจะมีรถยนต์ให้ช็อปกันสนั่นแล้ว ยังมีการประกวดสาวสวยอีกเวที คือMiss Presenter Contest 2012 เป็นการเฟ้นหา "สุดยอดพริตตี้" จากสาวสวยทั้งงานกว่า 200 คน ให้เหลือแค่หนึ่งเดียว เพื่อเป็นการยกมาตราฐานพริตตี้ที่ไม่ได้มีแค่ความสวยแต่มากด้วยความสามารถ
สำหรับปีนี้สาวสวยจากค่ายฟอร์ด "น้องแพรว-วริฏฐา ศักดิ์มั่นวงศ์ "สามารถคว้าตำแหน่งชนะเลิศมาครอง ...อะไรที่ทำให้เธอก้าวมาถึงจุดนี้ นอกจากหน้าตาที่สวยงามรอยยิ้มหวานๆเธอจะมาเปิดใจให้เราฟัง
**ความรู้สึกของ"มิสพรีเซนเตอร์"
เมื่อค่ายส่งเข้าประกวด ตอนแรกๆไม่ได้คาดหวังอะไรมาก ขอแค่ทำให้ดีที่สุด แต่พอได้รับตำแหน่งรู้สึกดีใจภูมิใจเป็นอย่างมาก และที่ชนะในการประกวดคงเป็นความสามารถของเราเองที่กรรมการเห็น ซึ่งเวทีนี้ถือว่าเป็นการยกระดับพริตตี้ ให้สังคมได้รู้ว่าไม่ได้มีแค่ ความสวยเท่านั้น
**เริ่มเข้าวงการพริตตี้
ตอนนั้นเรียนอยู่ค่ะ(มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์) เห็นเพื่อนๆทำงานกันเยอะ เป็นอาชีพเสริมระหว่างเรียน แต่แพรวก็ยังไมได้ตัดสินใจซะทีเดียว ลองดูจากเพื่อนๆที่ไปทำกันก่อนว่าเราสามารถทำได้ไหม แล้วมาลองดูเมื่อ 4 ปีที่แล้วค่ะ ครั้งแรกเลยก็รู้สึกตื่นเต้นมากๆ ประหม่าพูดจาผิดๆถูกๆพอเสร็จงานได้เงินมาดีใจมากเพราะถือว่าเป็นเงินก้อนแรกในชีวิตค่ะ
**รายได้กับการแบ่งเวลา
เดือนๆหนึ่งจะตกประมาณ 4-5หมื่นบาทค่ะ แต่ถ้าช่วงไหนงานเยอะก็จะมากกว่านี้ ส่วนมากแพรวจะแบ่งเก็บไปเลยครึ่งหนึ่งของรายได้ แล้วจะใช้ประมาณไม่เกินหมื่นบาทต่อเดือน ที่เหลือจะหมดไปกับพวกเสื้อผ้าที่ใส่ทำงาน เครื่องสำอาง การดูแลตัวเอง คือบางคนจะไม่ค่อยเก็บเงินใช้เพลินกินเที่ยวลืมคิดไปว่าอาชีพแบบเราทำได้ไม่กี่ปี เดี๋ยวก็มีเด็กๆหน้าใหม่มาอีก เพราะฉะนั้นต้องเก็บเงินไว้เผื่ออนาคตด้วย
**พริตตี้ต้องสวยใสไร้สมอง
พริตตี้ไม่จำเป็นต้องสวยเสมอไปเพียงแต่ต้องมีความมั่นใจและหาจุดเด่นของตัวเองให้เจอ พร้อมเตรียมตัวหากเจอสถานการณ์ฉุกเฉินต้องมีไหวพริบ แก้ไขให้ได้ ส่วนเรื่องสวยด้วยศัลยกรรมคิดว่าเป็นเรื่องส่วนบุคคลห้ามกันไม่ได้ ถ้าทำแล้วมั่นใจในตัวเองทำไป เพียงแต่ศึกษาข้อมูลให้รอบคอบ สมัยนี้ไม่ใช่แค่พริตตี้เท่านั้นที่สวยด้วยมีดหมอ ผู้หญิงทั่วๆไปก็ทำกัน สำหรับแพรวเคยอยากทำจมูกอย่างเดียวค่ะ ไม่คิดทำเพิ่มอะไรอีก
**พริตตี้ขายอะไร
แพรวว่าต้องดูที่จุดประสงค์ของคนที่เข้ามามากกว่า ว่าเขาอยากดูอะไรกันแน่ พริตตี้ไม่จำเป็นต้องแต่งตัวหวือหวาเสมอไป บางทีถ้าเรามีบุคลิกภาพดีคนก็สนใจแล้ว ในส่วนของการแต่งกายบางทีมองดูแล้วเซ็กซี่นั้นเป็นไปตามคอนเซ็ปต์ของสินค้า เพราะแต่ละบริษัทย่อมต้องการให้พริตตี้ของตนเองดูเด่นมากที่สุดจึงต้องแข่งกันด้วยชุด ซึ่งภาระนี้ตกมาอยู่กับพวกเรา คือถ้าเราคิดว่ารับไม่ได้ว่าชุดมันโป๊มากไปก็ไม่รับงานค่ะ
**การรับมือพวกแอบถ่าย
เคยเจอบ่อยๆเลยค่ะ บางทีเราไม่รู้ว่าเขามาแอบถ่ายเพราะถ่ายจากมือถือ แต่ก็จะเซฟตัวเองให้มากที่สุดก่อนออกพรีเซ็นต์แต่ละครั้ง หรือบางทีถ้าจับได้ว่าเขามาแอบถ่ายเราก็จะเดินหนีไปเลยไปมุมอื่นหรือเดินเข้าหลังเวทีไปเลยอะไรแบบนี้ค่ะ
**พริตตี้ไม่หยิ่งนะคะ
งานแบบนี้ต้องเจอผู้ชายมากหน้าหลายตาอยู่แล้วค่ะ แต่ส่วนมากไม่มีความจริงใจ เพราะเขาแค่อยากมาดูหน้าตาดูรูปร่างเราเท่านั้นเอง ถ้าใครมาจีบตอนไม่ได้ทำงานเป็นพริตตี้แพรวจะเปิดโอกาสให้มากกว่าค่ะ อีกอย่างเขาต้องเข้าใจงานที่เราทำด้วย
**ถ้าไม่เป็นพริตตี้
ที่คิดไว้คงทำอีกไม่เกิน 2 ปีเพราะเก็บเงินได้ประมาณหนึ่งแล้วอยากเปิดธุรกิจส่วนตัวค่ะ เป็นร้านดอกไม้เพราะคุณแม่ของแพรวท่านมีความสามารถด้านนี้เลยอยากทำงานใกล้ๆท่านดูแลกันไปด้วย
แม้ดอกไม้บนเวทีมอเตอร์โชว์ อาจจะเป้นสิ่งที่ดึงดูดใครหลายๆคนให้เข้าไปในงานมอเตอร์โชว์ ซึ่งนอกจากรถ ยังมีสาวสวยที่ล้นหลามมากมาย จน โซเชี่ยล เน็ตเวิร์ค แซวกันแบบขำๆ ว่า นี่มัน งาน "มอเต้าโชว์" แต่อย่าลืมว่า พริตตี้ก็เป็นอาชีพที่สุจริต ที่หลายคนอาจจะมองในมุมที่แตกต่างกันออกไป
อัลบั้มภาพ 7 ภาพ