Sanook! Drive : Honda Brio amaze อีโค่คาร์สุดเฟี้ยวลงตัวเกินคาด ...
เรื่องและขับทดสอบ โดย ณัฐยศ ชูบรรจง
ในช่วงหลายๆ ปีที่ผ่านมา เราแทบจะปฏิเสธไม่ได้เลยว่า สถานการณ์หลายๆ อย่างเริ่มบีบบังคับให้คนจำนวนมากเริ่มมองหารถยนต์ที่ไม่ใช่เพียงตอบโจทย์เรื่องสมรรถนะ แต่ต้องมีประสิทธิภาพในการใช้น้ำมัน และเมื่อกอปรกับนโยบายรัฐบาลที่เร่งผลักดันรถยนต์รักษาสิ่งแวดล้อมที่ให้ผลข้างเคียงในเรื่องการประหยัดน้ำมันออกมา ทำให้หลายคนสนใจรถประเภทนี้อย่างแรง
แม้จะออกมาแล้วรุ่นหนึ่งก่อนหน้านี้ในโฉม 5 ประตู ใน Honda Brio แต่ก็น่าจะพูดว่ามันไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควร เนื่องจากด้วยเหตุผลต่างๆ นานา ยิ่งรวมกับสถานการณ์น้ำท่วมเมื่อช่วงปี 2554 ทำให้เราเห็นจำนวนรถ Honda Brio น้อยมากบนถนน จวบจนช่วงหลังที่กระหน่ำโปรโมชั่นให้น่าสนใจ ก็เริ่มเพิ่มจำนวนทวีมากยิ่งขึ้นตามลำดับ
ถึงจะเริ่มมีจำนวนรถเพิ่มมากขึ้นตามที่ Honda ต้องการ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า Honda Brio ไม่ใช่รถที่ประสบความสำเร็จพอสมควรนัก ทำให้การแก้เกมเริ่มเกิดขึ้น และเพื่อให้กระแสปลุกเร้ามากขึ้นจึงเร่งเครื่องในการทำให้รถพร้อมก่อนเวลาในช่วงปลายปีที่ผ่านมา และนั่นคือจุดกำเนิด Honda Brio Sedan ที่ต่อมาก็เผยตัวออกมานาม Honda Brio Amaze
ภายนอก 4 ประตู เรือนร่างสไตล์สปอร์ตหรู ที่ดูดี
จะว่าไปแล้ว Honda Brio Amaze เป็นรถที่มาถูกที่ถูกเวลา ด้วยการส่งแนวคิดการออกแบบใหม่มาสู่ตลาด โดยเฉพาะรถยนต์อีโค่คาร์ 4 ประตู ที่จะมีเพียงคู่แข่งเจ้าเดียวที่ต้องต่อกลอนด้วย ทำให้ Amaze ติดตลาดได้เร็วขึ้นยิ่งรวมถึงชื่อเสียงการทำรถนั่งของค่าย Honda ด้วยแล้ว เรียกว่า งานนี้กินนิ่มสบายๆ และที่สำคัญมันคือหน้าตาของการกู้ชื่อเสียงและรุกตลาดอีโค่คาร์อย่างจริงจัง
การพัฒนา Honda Brio Amaze นับว่าเป็นโครงการที่มีแรงกดดันสูงอย่างมากต่อทีมวิศวกร จนสามารถรู้สึกได้ เพราะสาวกฮอนด้าต่างก็คาดหวังว่ารถรุ่นใหม่ไม่ควรจะผิดพลาดหรือพลั้งเผลอในเรื่องต่างๆ เหมือนที่เป็นมาในอดีต โดยเฉพาะรุ่น Honda Brio
มหากาพย์การพัฒนาเรียกว่าแทบจะเริ่มขึ้นทันทีที่ รุ่นแฮทช์แบ็คเปิดตัวออกมา เมื่อกระแสตอบรับไม่ดีตามที่คาด ก็มีข่าวการเตรียมสร้างเวอร์ชั่น 4 ประตู ที่บอกเล่าออกมาอย่าสายฟ้าแลบว่าจะใช้เวลาเพียง 2 ปี ในการกลับมาทวงบัลลังค์ ซึ่งที่จริงมันน่าจะเสร็จในช่วงต้นปี2013 แต่โครงการ "รถคันแรก" คือปัจจัยสำคัญ ทำให้เอาเข้าจริงก็ใช้เวลาราวๆ 1 ปี กับ 8 เดือนในการพัฒนาจนแล้วเสร็จ
เรือนร่างเล็กดังเดิมถูกปรับแต่งให้ลงตัวมากขึ้น โดยเวอร์ชั่นซีดาน เริ่มต้นด้วยการปรับเปลี่ยนโครงสร้างของรถ จับมันยืดความยาวออกมาอีกเล็กน้อย จนมายืนอยู่ที่ 3,990 ม.ม. หรือถ้าเทียบมันยาวกว่ารุ่น 5 ประตู ราวๆ 380 ม.ม. ขณะที่เรื่องความกว้างยังคงยืนพื้นที่ 1,680 ม.ม. เช่นเดียวกับความสูง 1,485 ม.ม. ขณะที่ฐานล้อมีการจับปรับยืดให้สมส่วนอีก 60 ม.ม.
การออกแบบ Honda Brio Amaze เน้นสไตล์ที่ต้องการให้ตอบโจทย์มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ ด้วยการให้ความล้ำสมัยดูปราดเปรียว ยังแอบไว้ด้วยความหรูหรา ที่สามารถสังเกตได้จากกระจังหน้าโครเมี่ยม 2 แถบ ปรับเอาจากรุ่นพี่ลงมาใช้ย่อขนาดนิดหน่อยก็เข้ากับไฟหน้าที่เข้าที รวมถึงกันชนหน้าที่ปรับมาในสไตล์สปอร์ตลงตัว
เส้นสายการออกแบบจากด้านหน้าถูกปรับให้มันมีเสน่ห์ที่ลงตัวยิ่งขึ้น ให้ความสปอร์ตสู่ด้านข้าง มีเส้นสายที่เป็นเหลี่ยมมากขึ้น ต่อเนื่องจรดที่บั้นท้ายที่ลงตัวในความรู้สึกดูมีความหรูหราและปราดเปรียว ไฟท้าย ออกแบบในสไตล์ 4 เหลี่ยมคางหมู คล้ายของ Honda City ก่อนไมเนอร์เชนจ์ แต่ย่อขนาดให้ลงตัวกับบอดี้ และที่ฝาท้ายมาพร้อมแถบโครเมี่ยม เสริมหล่อกับ ล้ออัลลอยขอบ 14 นิ้ว เป็นมาตรฐานในทุกรุ่น
แม้ทุกอย่างจะดูลงตัวดี ทั้งขนาด การออกแบบ แต่เรื่องฟังชั่นการใช้งานกลับมาตกม้าตายเอาดื้อๆ โดยเฉพาะฝากระโปรงท้าย ที่กลับตอบสนองการใช้งานได้ไม่ดีนัก การเปิดฝากระโปรงท้าย คุณทำได้เพียงดึงคันโยกจากด้านใน หรือไม่ ก็ใช้กุญแจไขให้มันเปิด ซึ่งในความจริงในสถานการณ์ที่เลวร้ายสุดคุณอาจจะหอบของมาเป็นตันๆ แล้วต้องมาหยิบกุญแจไขเปิด แทนที่จะมีสวิทช์ที่ฝากระโปรงหลังหรือไม่ก็กดเอาจากรีโมท มันคงจะดูแย่ไม่น้อย
ภายในอบอุ่นนั่งสบายลงตัว
ที่จริงไม่ใช่เพียงภายนอกเท่านั้นที่ทำให้ Honda Brio Amaze ดูน่าสนใจลงตัว แต่เมื่อเปิดประตูสู่ห้องโดยสารมันก็กลับทำได้อย่างลงตัวเช่นกัน และไม่น่าเชื่อว่ารถยนต์ขนาดเล็กจะทำได้ดีขนาดนี้
"สมการความสุขใหม่" ไม่ใช่เพียงคำที่พูดเพื่อเยินยอให้รถขายได้ ที่จริง Honda Brio Amaze กลับลงตัวอย่างชัดเจน ความยาวที่เพิ่มขึ้น 380 ม.ม. บวกกับ ฐานล้อที่ยาวขึ้นกว่า 60 ม.ม. ส่งผลให้ห้องโดยสารมีมิติที่กว้างขึ้นอย่างชัดเจน ด้านหน้ายังคงรายละเอียดจากรุ่น 5 ประตูมาด้วยมาตรวัดแบบสปอร์ต พวงมาลัย 3 ก้านที่ ให้ความลงตัว เบาะนั่งคู่หน้า แบบชิ้นเดียว ช่วยให้ดูสปอร์ต และยังกว้างนั่งสบาย น่าเสียดายที่มันอาจจะไม่ถูกใจคนตัวเล็ก เพราะ หัวหมอนน่าจะสูงเต่อตลอดเวลาแต่คนชอบพวกเบาะซิ่งน่าจะชอบ
ตรงกลางคอนโซลหน้าจุความบันเทิงระบบความบันเทิง advance audio ที่ไร้ระบบเล่นซีดี Mp 3 แต่มีช่องต่อเชื่อม Aux และ USB ถัดลงมาคือระบบปรับอากาศมือหมุนที่เรียบง่ายและลงตัว และคันเกียร์ตามลำดับ
การขยายความยาวตัวถังทำให้การโดยสารตอนหลังมีพื้นที่มากขึ้น โดยเฉพาะคนตัวใหญ่อย่างเรา สูง 182 ซ.ม. หนัก 95 ก.ก. สามารถนั่งได้อย่างสบาย แถมเบาะนั่งยังนุ่มประดุจรถหรู ทำให้มันสามารถนั่งได้อย่างสบายและลงตัว ที่จริงรองรับตอนหลัง 2 ที่นั่ง สำหรับผู้ใหญ่ แต่ถ้าคนเดินทางร่วมตัวเล็กจะอัด 3 ก็น่าจะไหวอยู่
แม้คุณภาพการนั่งจะถือว่าทำได้ดีมากกว่าที่คิด แต่กลับกัน คุณภาพก็ต้องละฟังชั่นบางอย่างไป เช่น การปรับพับเบาะ 60/40 จะไม่มีใน Honda Brio Amaze ซึ่งก่อนหน้านี้ย้อนไปตอนที่ทดสอบกลุ่ม ได้มีโอกาสคุยกับทีมวิศวกร พวกเขาให้แนวคิดที่น่าสนใจว่า รถนั่งที่ดีไม่จำเป็นต้องมีฟังชั่นครบครันก็ได้ และจะว่าไปถึงมันจะไม่เพอร์เฟคแต่ก็ยังลงตัวต่อโจทย์การใช้งาน
อัลบั้มภาพ 25 ภาพ