แนะนำทางเลี่ยง เส้นทางลัด ช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2556
เผลอแป๊บเดียวก็เข้าสู่เดือนเมษาแล้ว ประจวบกับเป็นช่วงของเทศกาลสำคัญของไทยอย่างเทศกาล “สงกรานต์” ที่จะมาถึงในไม่กี่วันนี้ เชื่อได้ว่าทุกคนคงวางแผนที่จะไปพักผ่อนหย่อนใจกันแล้ว แต่ในการเดินทางในช่วงนี้ก็ควรศึกษาเส้นทางการเดินทางให้ดี เพราะ“วันสงกรานต์” เป็นช่วงที่มีการจราจรบนท้องถนนหนาแน่น และมีความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุสูงมากเลยทีเดียว
ทางทีมงาน Sanook! Auto จึงนำข้อมูล ทางเลี่ยง เส้นทางลัด ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ให้กับทุกคนที่จะวางแผนเดินทางในช่วงดังกล่าวได้เตรียมพร้อมกับการเดินทางในวันหยุดยาวนี้อย่างสบายใจ
เส้นทางสู่ภาคเหนือ
เส้นทางที่ 1 ใช้ถนนวิภาวดีรังสิต (ทางหลวงหมายเลข 31) หรือ ใช้ทางยกระดับดอนเมืองโทลเวย์ เข้าถนนพหลโยธิน ถึงต่างระดับบางปะอิน เลี้ยวซ้ายเข้าสายเอเซีย (ทางหลวงหมายเลข 32) มุ่งสู่ จ.นครสวรรค์ เพื่อเดินทางสู่ภาคเหนือ
เส้นทางที่ 2 จากถนนรัตนาธิเบศร์ (สาย 302) ถึงต่างระดับบางใหญ่ เลี้ยวขวาเข้าถนนกาญจนาภิเษก ถึงต่างระดับบางบัวทอง เลี้ยวซ้ายเข้าถนนบางบัวทอง-สุพรรณบุรี (ทางหลวงหมายเลข 340) ผ่าน จ.สุพรรณบุรี จ.ชัยนาท เข้าสายเอเซีย ที่ อ.มโนรมย์ มุ่งสู่ จ.นครสวรรค์ เพื่อไปภาคเหนือ
เส้นทางที่ 3 จากถนนกาญจนาภิเษก (วงแหวนตะวันตก) ถึงต่างระดับเชียงรากน้อย เลี้ยวซ้ายเข้าสายบางปะอิน-บางปะหัน (ทางหลวงหมายเลข 347) เข้าสายเอเชีย ที่ อ.บางปะหัน เพื่อไปภาคเหนือ
เส้นทางเลี่ยงการจราจรติดขัด จ.นครสวรรค์
เส้นทางที่ 1 จากต่างระดับอินทร์บุรี เลี้ยวขวา ใช้ทางหลวงหมายเลข 11 ผ่าน อ. ตากฟ้า ท่าตะโก สากเหล็ก ถึงสามแยกวังทอง เลี้ยวซ้าย มุ่งสู่ จ.พิษณุโลก
เส้นทางที่ 2 เมื่อถึงแยกเลี่ยงเมืองนครสวรรค์ (กม. 331+810 บนทางหลวงหมายเลข 1) เลี้ยวซ้าย ใช้ทางเลี่ยงเมืองนครสวรรค์ (ทางหลวงหมายเลข 122) ถึงสามแยกหนองตะโก
2.1 เลี้ยวซ้ายไป จ.กำแพงเพชร
2.2 เลี้ยวขวาไป จ.พิษณุโลก
เส้นทางสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
เส้นทางที่ 1 จากถนนกาญจนาภิเษก (วงแหวนตะวันตก) มุ่งหน้าสู่ต่างระดับบางปะอิน เข้าถนนพหลโยธิน (ทางหลวงหมายเลข 1) มุ่งสู่สระบุรี เพื่อไปภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
เส้นทางที่ 2 จากถนนกาญจนาภิเษก (วงแหวนตะวันออก) มุ่งหน้าสู่ต่างระดับบางปะอิน เลี้ยวขวาเข้าถนนพหลโยธิน (ทางหลวงหมายเลข 1) มุ่งสู่สระบุรี เพื่อไปภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
เส้นทางที่ 3 จากต่างระดับรังสิต ไปตามถนนรังสิต-องครักษ์ (สาย 305) ตรงไปจังหวัดนครนายก เลี้ยวขวาเข้าถนนสุวรรณศร (ทางหลวงหมายเลข 33) มุ่งสู่ อ.กบินทร์บุรี ถึงสี่แยกกบินทร์บุรี เลี้ยวซ้ายเข้าถนนกบินทร์บุรี-ปักธงชัย (ทางหลวงหมายเลข 304) เพื่อไป จ.นครราชสีมา
เส้นทางที่ 4 ใช้ถนนรามอินทรา-สุวินทวงศ์ (ทางหลวงหมายเลข 304) ผ่านฉะเชิงเทรา, พนมสารคาม, กบินทร์บุรี, ปักธงชัย เพื่อไปภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
เส้นทางเลี่ยงการจราจรติดขัด จ.สระบุรี
เส้นทางที่ 1 จากแยกเลี่ยงเมืองสระบุรี เลี้ยวขวาเข้าถนนวงแหวนรอบเมืองสระบุรีด้านตะวันออก (ทางหลวงหมายเลข 362) บรรจบถนนมิตรภาพ เลี้ยวขวาเพื่อมุ่งสู่ จ.นครราชสีมา
เส้นทางที่ 2 จากแยกเลี่ยงเมืองสระบุรี เลี้ยวขวาเข้าถนนวงแหวนรอบเมืองสระบุรีด้านตะวันตก (ทางหลวงหมายเลข 362) บรรจบทางหลวงหมายเลข 21 มุ่งหน้าไปทาง จ.เพชรบูรณ์ ถึงแยกอำเภอท่าหลวง จ.ลพบุรี เลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 2256 ถึง อ.ด่านขุนทด เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 201 ไป จ.ชัยภูมิ เพื่อไป ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
เส้นทางสู่ภาคตะวันออก
เส้นทางที่ 1 จากถนนศรีนครินทร์ (ทางหลวงหมายเลข 3344) ใช้ทางหลวงพิเศษกรุงเทพฯ-ชลบุรี (มอเตอร์เวย์สาย 7) มุ่งสู่พัทยาไปภาคตะวันออก
เส้นทางสู่ภาคใต้
เส้นทางที่ 1 ใช้ถนนธนบุรี-ปากท่อ (ทางหลวงหมายเลข 35 : พระราม 2) เข้าถนนเพชรเกษม (ทางหลวงหมายเลข 4) เดินทางสู่ภาคใต้
เส้นทางที่ 2 ใช้ถนนเพชรเกษม (ทางหลวงหมายเลข 4) ผ่าน อ.สามพราน จ.นครปฐม, โพธาราม, ราชบุรี อ.ปากท่อ เพื่อเข้าสู่ภาคใต้
เส้นทางที่ 3 จากขนส่งสายใต้ใหม่ ใช้ถนนบางกอกน้อย-นครชัยศรี (ทางหลวงหมายเลข 338) เข้านครปฐม, ราชบุรี, เพชรบุรี มุ่งหน้าสู่ภาคใต้
เส้นทางไปท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
มีระบบถนนเข้า-ออก ทั้งหมด 5 เส้นทางคือ
เส้นทางที่ 1 ทิศเหนือ เป็นถนนยกระดับขนาด 8 ช่องจราจรจากถนนกรุงเทพ-ชลบุรีสายใหม่ เข้าสู่อาคารผู้โดยสาร
เส้นทางที่ 2 ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ เป็นถนนขนาด 6 ช่อง เชื่อมกับทางยกระดับจากถนนร่มเกล้า และถนนกิ่งแก้ว
เส้นทางที่ 3 ทิศใต้ เป็นถนนขนาด 4 ช่องจราจร เชื่อมกับถนนบางนา-ตราด และทางด่วนบูรพาวิถี
เส้นทางที่ 4 ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นถนนขนาด 4 ช่องจราจร เชื่อมกับถนนอ่อนนุช
เส้นทางที่ 5 ทิศตะวันตก เป็นถนนขนาด 4 ช่องจราจร เชื่อมกับถนนกิ่งแก้ว
สอบถามรายละเอียดเส้นทาง โทร. 1586 (ศูนย์ประชาสัมพันธ์กรมทางหลวง) หมายเลขโทรศัพท์ดังกล่าวจะให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงในช่วงเทศกาล สำหรับนอกเทศกาล จะให้บริการในช่วงเวลาราชการ เวลา 08.30–16.30 น. หรือ โทร.1193 (ตำรวจทางหลวง)
สนับสนุนภาพและเนื้อหา :กรมทางหลวง