บิ๊กทรี ค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นป่วน ต้องเรียกคืนรถกว่า สามล้านคันทั่วโลก

บิ๊กทรี ค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นป่วน ต้องเรียกคืนรถกว่า สามล้านคันทั่วโลก

บิ๊กทรี ค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นป่วน ต้องเรียกคืนรถกว่า สามล้านคันทั่วโลก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

                ค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นป่วนหนักหลังซัพพลายเออร์ Airbag พบชิ้นส่วนมีปัญหา คาดต้องเรียกคืนกว่า  3 ล้านคันทั่วโลก ยังไม่มีรายงานชัดเจนสำหรับประเทศไทย

                วันนี้ ( 11 เม.ย.)  สำนักข่าวยักษ์ใหญ่  Bloomberg  จากต่างประเทศรายงานว่าผู้ผลิตชิ้นส่วนถุงลมนิรภัยหรือ Airbag  บริษัท TAKATA  ที่ประเทศญี่ปุ่นออกมาประกาศรับผิดชอบที่จะเรียกคืนถุงลมนิรภัยทั้งหมดที่ผลิตให้กับสามค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่น ได้แก่  Toyota, Honda  และ  Nissan  ซึ่งคาดว่าจะมีจำนวนมากกว่า 3  ล้านคันที่จะได้รับผลจากการเรียกคืนดังกล่าว

                ตามรายงานดังกล่าวระบุว่า การเรียกคืนครั้งนี้เป็นไปตามการออกมารับผิดชอบ หลังจากที่มีลูกค้าร้องเรียนบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ว่า ถุงลมนิรภัยที่ติดตั้งอาจจะทำงานไม่ถูกต้องและภายหลังบริษัท  Toyota ได้มีการตรวจสอบเหตุดังกล่าวและพบว่าถุงลมนั้นมีการทำงานไม่ถูกต้อง และทำให้กางออกผิดรูปจากที่ควรจะเป็น

                ด้านบริษัท Takta  นั้นผลิตถุงลมนิรภัยออกมาให้กับค่ายรถยนต์หลายเจ้า ในรุ่นที่วางจำหน่ายในช่วงปี 2000-2002 โดย โฆษกของบริษัท ออกมากล่าวปฏิเสธที่จะให้ความเห็นใดๆต่อกรณีดังกล่าว และในญี่ปุ่นเองก็มีรายงานว่า บริษัทวิเคราะห์ตลาดบางแห่งกล่าวให้ความเห็นว่า มันไม่น่าใช่ชิ้นส่วนที่ซ่อมกันง่ายๆ ซึ่งส่งผลร้ายแรงต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ญี่ปุ่น

                ทั้งนี้ตามข้อมูล บริษัท  Takata  ถือเป็นบริษัทที่มีความสำคัญต่อผลิตรถยนต์โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดกว่า ร้อยละ 15  ของตลาดทั้งหมด ซึ่งก่อนหน้าในปี 1995 Takata  ตกเป็นข่าว เมื่อมีรายงานว่าบริษัทต้องเรียกคืนรถยนต์กว่า 9 ล้านคัน เพื่อเปลี่ยนเข็มขัดนิรภัย และถือว่าเป็นการเรียกคืนรถมาที่สุดในประวัติศาสตร์ในยุคนั้น

                อย่างไรก็ดี สำหรับรถยนต์ที่เรียกคืนครั้งนี้ยังไม่มีการระบุรุ่น และปี อย่างเป็นทางการ รวมถึงในบ้านเรายังไม่มีการออกมาประกาศเรียกคืน ซึ่งความคืบหน้าจะมีการนำเสนอต่อไป

 

ที่มาข้อมูล สำนักข่าว bloomberg

อัลบั้มภาพ 2 ภาพ

อัลบั้มภาพ 2 ภาพ ของ บิ๊กทรี ค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นป่วน ต้องเรียกคืนรถกว่า สามล้านคันทั่วโลก

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook