เจาะลึก Toyota Sienta ใหม่ ก่อนเปิดตัวจริงในไทย 17 สิงหาคมนี้

เจาะลึก Toyota Sienta ใหม่ ก่อนเปิดตัวจริงในไทย 17 สิงหาคมนี้

เจาะลึก Toyota Sienta ใหม่ ก่อนเปิดตัวจริงในไทย 17 สิงหาคมนี้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

     ไปทำความรู้จัก Toyota Sienta รถเอ็มพีวีไซส์เล็กรุ่นใหม่ล่าสุด ก่อนเปิดตัวอย่างเป็นทางการในไทยวันที่ 17 สิงหาคมนี้กันดีกว่า

     โตโยต้า เซียนต้า ที่จะเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย นับเป็นเจเนอเรชั่นที่ 2 แล้ว โดยเปิดตัวเป็นแห่งแรกที่ประเทศญี่ปุ่น เมื่อช่วงกลางปี 2015 หลังจากนั้นจึงเริ่มเปิดตัวในอินโดนีเซียเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ในงานจาการ์ต้ามอเตอร์โชว์ 2016 ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่รถรุ่นนี้ได้รับการวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการนอกประเทศญี่ปุ่น ตั้งเป้าเพื่อชิงส่วนแบ่งจาก Honda Freed โดยเฉพาะ ซึ่งมีความใกล้เคียงกันในด้านเครื่องยนต์และมิติตัวถัง

 

     ทั้งนี้ แม้ว่ารูปลักษณ์ของ Toyota Sienta ที่วางจำหน่ายทั้ง 2 ประเทศจะเหมือนกันแทบไม่ผิดเพี้ยน แต่ก็มีการปรับอ็อพชั่นภายในและช่วงล่างเล็กน้อย เพื่อรองรับภูมิประเทศที่ต้องเผชิญอาการร้อนแทบทั้งปี และถนนที่มีสภาพไม่เรียบเท่าใดนัก ซึ่งบ้านเราก็คาดว่าจะถูกวางสเป็คให้ใกล้เคียงกับทางอินโดนีเซียด้วยเช่นกัน

     จุดต่างสำคัญ 3 ประการ ระหว่างเวอร์ชั่นญี่ปุ่นและอินโดนีเซีย ได้แก่ 1.ช่วงล่างที่ถูกยกสูงขึ้นอีก 20 มิลลิเมตร เพื่อรองรับสภาพถนนขรุขระได้ดียิ่งขึ้น และ 2.ติดตั้งระบบปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง รวมถึงกล่องเก็บความเย็นบริเวณคอนโซลหน้า เช่นเดียวกับที่พบใน Hilux Revo และ Fortuner นั่นเอง 3.ตำแหน่งเกียร์ย้ายมาจากบริเวณแผงคอนโซลหน้าในเวอร์ชั่นญี่ปุ่น มาติดตั้งแบบวางบนพื้น

 

     Sienta เวอร์ชั่นอินโดนีเซียถูกทำตลาดแบ่งออกเป็น 4 รุ่นย่อย ได้แก่ E, G, V และ Q โดยมีรุ่น E เป็นรุ่นเริ่มต้น และ Q เป็นรุ่นท็อปสุด ทุกรุ่นติดตั้งเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตร Dual VVT-i รหัส 2NR-FE ที่ยกมาจากรุ่น Avanza ให้กำลังสูงสุด 107 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 143 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT ปรับอัตราทดได้ 7 จังหวะ และเกียร์ธรรมดา 6 สปีดให้เลือก

 

 

     อุปกรณ์มาตรฐานในแต่ละรุ่นของ Toyota Sienta ที่วางจำหน่ายในโดนีเซีย มีดังนี้

     รุ่น E

- ไฟหน้าโปรเจคเตอร์ฮาโลเจน
- ล้อกระทะ 15 นิ้ว มีฝาครอบ พร้อมยาง 185/60 R15
- ดิสก์เบรกหน้า-หลัง
- ประตูสไลด์แบบธรรมดา
- เบาะโดยสาร 3 แถว 7 ที่นั่ง
- ห้องโดยสารสีดำ / เบาะดำ
- เครื่องเสียงแบบ 2-DIN รองรับ CD/DVD/Bluetooth/USB/AUX
- สวิตช์แอร์มือหมุน
- กระจกไฟฟ้าทั้ง 4 บาน
- กระจกมองข้างปรับไฟฟ้า
- เซ็นเซอร์ถอยหลัง
- ถุงลมนิรภัยคู่หน้า และถุงลมหัวเข่าฝั่งคนขับ
- ระบบเบรก ABS

 

     รุ่น G (เพิ่มเติมจากรุ่น E)

- ล้ออัลลอยขนาด 15 นิ้ว พร้อมยาง 185/60 R15
- เครื่องปรับอากาศแถวที่ 2
- ประตูสไลด์ไฟฟ้าเฉพาะบานซ้าย
- เครื่องเสียงหน้าจอสัมผัส 7 นิ้ว รองรับ DVD/MP3/USB/AUX/iPod พร้อม Voice Command

 

     รุ่น V (เพิ่มเติมจากรุ่น G)

- ล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้วสีทูโทน พร้อมยาง 195/50 R16
- ห้องโดยสารภายในสีเบจ / เบาะดำ
- ประตูสไลด์ไฟฟ้าทั้ง 2 บาน
- ไฟหน้าโปรเจคเตอร์ฮาโลเจนแบบ Dual Headlamp
- ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ
- พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นหุ้มด้วยหนัง
- กระจกมองข้างพับด้วยไฟฟ้า
- กุญแจ Keyless Entry พร้อมปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์

 

     รุ่น Q (เพิ่มเติมจากรุ่น V)

- ไฟหน้าแบบ Bi-beam LED พร้อม Clearance Lamp แบบ LED
- หน้าจอเรืองแสง Optitron พร้อมจอ MID ขนาด 4.2 นิ้ว
- ไฟท้ายแบบ LED พร้อม LED Line Guide
- ห้องโดยสารสีดำ / เบาะน้ำตาล
- ระบบควบคุมการทรงตัว VSC
- ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HSA

     ตัวถังมีทั้งหมด 7 สีให้เลือก ได้แก่ สีน้ำตาล Dark Brown Mica Metallic, สีน้ำตาล Quartz Brown Metallic, สีส้ม Orange Metallic, สีขาว Super White 2, สีเงิน Silver Metallic, สีเทา Grey Metallic และสีดำ Attitude Black Mica

     ราคาจำหน่ายในอินโดนีเซียอยู่ระหว่าง 608,000 - 780,000 บาท ขณะที่บ้านเราคาดว่าอาจจะวางใกล้เคียงกับ Honda Freed อยู่ที่ราว 7 แสนปลาย ไปจนถึงระดับ 9 แสนบาท


 

อัลบั้มภาพ 15 ภาพ

อัลบั้มภาพ 15 ภาพ ของ เจาะลึก Toyota Sienta ใหม่ ก่อนเปิดตัวจริงในไทย 17 สิงหาคมนี้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook