ดูแลรถหลังสงกรานต์ ..หลากเรื่องควรทำสำหรับคนรักรถ
เทศกาลสงกรานต์บรรยากาศแห่งความปลื้มปิติที่ทำให้ทุกคนมีความสุข บ้างไปเที่ยวพักผ่อนและบ้างกลับบ้านไปเยี่ยมครอบครัว หรือญาติที่ห่างกันมานาน และก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าการเดินทางด้วยรถยนต์ในช่วงวันหยุดยาวนี้เป็นเรื่องปกติของทุกคน ที่ให้ความสะดวกสบาย
บรรยากาศวันสงกรานต์อาจจะผ่านมาแล้วราวๆสัปดาห์เศษ และสำหรับคนรักรถ มันก็ถึงเวลาที่คุณควรจะดูแลรถยนต์หลังจากใช้งาน เพื่อให้รถยนต์นั้นพร้อมใช้และหลายอย่างยังคือการแก้ปัญหาที่ก่อให้เกิดเป็นปัญหาสำคัญในภายหลัง
อาจจะผ่านมานานแล้ว แต่วันนี้ถ้าใครยังไม่ได้ลงมือควรเริ่มด้วยขั้นแรก เริ่มต้นจากเรื่องง่ายๆคือ "ล้างรถ" ที่จริงการล้างรถนั้นควรทำแทบจะทันทีในช่วงเทศกาลสงกรานต์หลังจากที่คุณเสร็จสิ้นภารกิจ เนื่องจากน้ำที่ใช้เล่นสงกรานต์บ้างก็ไม่สะอาด แต่ศัตรูตัวฉกาจนั้น คือ "แป้ง" ซึ่งมีคุณสมบัติสามารถกัดชั้นแล็กเกอร์เคลือบสีได้ ทำให้มีลักษณะสีด้านไม่เงาแวววาวเหมือนเดิม
หลังจากล้างรถ คุณจะได้ลุ้นว่า รถคุณมีร่องรอยวิบากกรรมอะไรหรือไม่ โดยมากถ้าไม่ปล่อยไว้นานสีของรถจะไม่มีถูกกัดกร่อนมากนัก แต่ไม่ว่าด้วยกรณีใดๆ เราอยากแนะนำ ให้ "ขัด-เคลือบสี" รถในทันที ไปพร้อมกัน
ปัจจุบัน การขัดเคลือบสีนั้นง่ายและใช้งบประมาณไม่เยอะอย่างที่คิด ถ้าคุณเป็นพวกพึ่งคาร์แคร์ ค่าใช้จ่ายก็จะเริ่มตั้งแต่ 300 - หลายพันบาท แล้วแต่คุณเลือก ทว่าหากเลือกที่จะทำเอง ให้ใช้น้ำยามขัดเคลือบธรรมดาทั่วไปสามารถหาซื้อได้ในราคา ไม่ถึง 100 บาทอ อย่าง Cana ก็สามารถลงมือทำได้ด้วยตัวเอง ถ้าคุณอยากประหยัดงบประมาณ
การขัดเคลือบสี ส่วนหนึ่งทำให้ป้องกันคราบและทำความสะอาดผิวแลคเกอร์ โดยเฉพาะจากรอยแป้งที่อาจจะกัดชั้นแล็คเกอร์ ซึ่งการขัดคราบสกปรากออกจากชั้นแล็คเกอร์นี้ จะช่วยป้องกันมันไม่ให้ทำลายชั้นแล็คเกอร์ได้ และ การเคลือบก็ช่วยให้สีเงางามขึ้นตามไปด้วย และยังปกป้องคราบต่างในอนาคตได้อีกด้วย ในระยะเวลาประมาณ 30-45 วัน
เสร็จจากเรื่องสีรถ ที่ขาดไม่ได้ต่อมาคือ ภายในห้องโดยสาร ซึ่งถือว่าเป็นส่วนที่สำคัญ ที่จริงมันน่าจะสำคัญกว่าสีด้วยซ้ำ เพราะ ภายในห้องโดยสาร คือจุดที่เราใช้งานรถเป็นประจำแถมยังอยู่กับมันแทบตลอดเวลา และมันก็ไม่ถูกกับน้ำเสียด้วย
รถสมัยนี้ส่วนใหญ่แล้วมักมีการตบแต่งในห้องโดยสารด้วยพรมและผ้าเป็นสำคัญ ทำให้ มันมีโอกาสที่จะซึมซับน้ำค่อนข้างมาก ซึ่งความชื้นจากน้ำทำให้ อาจจะก่อให้เกิดเชื้อราได้ในอนาคตหากปล่อยไว้ไปนาน โดยเฉพาะกับพรม และ ด้วยความชื้นของน้ำ เช่นเดียวกัน อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของสนิมที่พื้นรถก็ได้เมื่อรถเริ่มมีอายุมาก
ที่จริงนอกจากน้ำที่จะเข้ามาในรถแล้ว ควรคำนึกถึงน้ำที่อาจจะเปื้อนตามเบาะอีกด้วย เนื่องจากเบาะนั้นสามารถเป็นคราบได้ และการขจัดคราบน้ำที่เบาะก็ไม่ใช่เรื่อง่าย ซึ่งเพื่อประหยัดแรงและเวลาอาจจะหาเวลาไปพบผู้เชี่ยวชาญในเรื่องการทำความสะอาดรถยนต์ ถือว่าเป็นทางออกที่ดีที่สุด
อย่างไรก็ดี แม้การดูแลรถหลังสงกรานต์ อาจจะดูเหมือนเน้นไปที่การทำความสะอาดมากกว่า แต่หากระหว่างการเดินทางของคุณเคยพบข้อบกพร่องของระบบการทำงานไม่ว่าจะเครื่องยนต์ เกียร์ เบรก หรือ คลัทช์ ก็ควร จะเร่งหาสาเหตุ โดยพบช่างผู้เชี่ยวชาญและเร่งปรับปรุงซ่อมแซมให้กลับมาทำงานปกติ โดยเฉพาะเรื่องกลิ่นไหม้ต่างๆ อย่าวางใจเพราะ นั่นหมายถึง ระบบได้เคยทำงานเสื่อมประสิทธิภาพลง และอาจจะถึงเวลาที่ต้องแก้ไขในทันที
การดูแลรถหลังสงกรานต์อาจจะฟังดูไม่มีอะไรมากมายนัก นอกไปกว่าการทำความสะอาดรถให้กลับมาเช้งกระเด๊ะ เหมือนเดิม แต่จุดที่สำคัญไม่ได้อยู่ที่ว่าเราต้องทำอะไร แต่อยู่ที่ความคุณได้ทำแล้วหรือยัง เพื่อรถที่คุณรักและให้ความวางใจในการขับขี่ หลังผ่านมากว่าสัปดาห์
เรื่องโดย ณัฐยศ ชูบรรจง