4 ข้อที่จะทำให้เราซื้อประกันภัยรถยนต์ได้ถูกลง
หลายๆ คนใช้รถยนต์ในการเดินทางไปทำงาน ซึ่งตัวรถยนต์นี้เองก็มีค่าใช้จ่ายต่างๆมากมายที่ต้องเสียเป็นประจำ เช่น ค่าน้ำมัน ค่าพรบ. ค่าประกันรถภัย เป็นต้น แต่ยุคนี้อะไรประหยัดได้ก็ควรประหยัด วันนี้เราจึงนำคำแนะนำในการที่จะทำให้เราซื้อประกันภัยรถยนต์ได้ถูกลงมาแนะนำค่ะ มีดังนี้ค่ะ
1.ควรมีการตรวจสอบราคาและรายละเอียดอย่างน้อย 3 บริษัทประกันภัย
การซื้อของในแต่ละครั้งเราควรจะเปรียบเทียบก่อนซื้อ เพื่อที่จะให้เราได้รับผลประโยชน์สูงสุดจากสิ่งที่เราซื้อ การทำประกันภัยรถยนต์ก็เช่นกัน การเปรียบเทียบเบี้ยประกันของแต่ละบริษัทประกันภัยถือเป็นสิ่งสำคัญ
เพราะอาจจะมีเบี้ยประกันและความคุ้มครองรวมถึงโปรโมชั่นดีๆสำหรับรถรุ่นที่คุณใช้ ซึ่งจะช่วยให้คุณได้รับประโยชน์อย่างสูง
โดยการเปรียบเทียบอาจใช้บริการออนไลน์ ซึ่งค่อนข้างจะสะดวกอย่างมาก เพราะจะรวบรวมรายละเอียดต่างๆจากหลายๆบริษัทมาให้คุณแล้วนั้นเอง และการเปรียบเทียบนี้ เราควรที่จะเลือกดูรายละเอียดอย่างน้อยจาก 3 บริษัทประกันภัยค่ะ
2.ตรวจสอบความคุ้มครองให้เหมาะสมกับความต้องการของเรา
หากเราต้องการที่จะจ่ายเงินออกไปให้คุ้มค่าที่สุด เราก็ควรต้องรู้ว่าเราต้องการการคุ้มครองแบบไหน แล้วจึงเลือกแบบนั้น ซึ่งโดยหลักๆ แล้ว ความคุ้มครองในประกันภัยรถยนต์จะแบ่งเป็น
2.1).ความคุ้มทรพย์สินของบุคคลภายนอก
- บุคคลอื่นที่ไม่ใช่ผู้ขับขี่และอยู่ภายนอกรถ
2.2).ความคุ้มครองความเสียหายรถยนต์ที่ทำประกันภัย
- ซ่อมรถยนต์ของผู้ที่ทำประกันภัยไว้ หากเกิดอุบัติเหตุ
- รวมถึงความคุ้มครองกรณีรถหาย , รถไฟไหม้
2.3).ความคุ้มครองเพิ่มเติมต่อบุคคลภายในรถ
- ความคุ้มครองต่อผู้ขับขี่และที่อยู่ภายในรถ
- มีระบุจำนวนคนที่คุ้มครอง
โดยเราต้องนึกถึงสภาพแวดล้อมและลักษณะส่วนตัวของเราเอง แล้วจึงเลือกประกันที่เหมาะสมกับเราที่สุด เช่น รถเราเป็นรถเก่า และลักษณะนิสัยการขับขี่ของเราเป็นคนระมัดระวัง ไม่ประมาท ระยะทางการใช้งานต่อวันไม่ไกล เราอาจจะมองไปที่ประกันแบบ 2+ หรือ 3+ ก็ถือเป็นทางเลือกที่ประหยัดเงินได้
3.พิจารณารายละเอียดเกี่ยวกับ การซื้อค่าความเสียหายส่วนแรก (Deductible)
เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ผู้ทำประกันรถยนต์ควรพิจารณาและตัดสินใจให้ดีในส่วนนี้ เนื่องจากส่วนลดจากการรับผิดชอบค่าเสียหายส่วนแรก(Deductible) เป็นส่วนลดที่เรา ผู้เอาประกันภัยยินดีที่จะรับผิดชอบในความเสียหายส่วนแรกกรณีที่เกิดอุบัติเหตุและเราเป็นฝ่ายผิด รวมถึงการเคลมแบบไม่มีคู่กรณี ส่วนค่าเสียหายที่เหลือบริษัทประกันภัยจ่ายทั้งหมด
ซึ่งค่าเสียหายส่วนแรกนี้จะทำให้เบี้ยประกันภัยภัยลดไปเป็นจำนวนเท่ากับค่าเสียหายส่วนแรกที่เรายินดีรับผิดชอบ หากเราขับรถไม่ประมาทไม่ชนเลยในรอบสัญญาหนึ่ง ส่วนนี้ก็จะช่วยให้เราประหยัดไปได้อย่างมากค่ะ แต่กลับกันหากเรามีการเคลมหรือเกิดอุบัติเหตุหลายครั้งๆ ในหนึ่งรอบสัญญา ก็คงจะไม่ดีแน่ๆ เพราะรวมๆแล้วเราอาจจะจ่ายมากกว่าแบบการซื้อแบบไม่มีค่าเสียหายส่วนแรกก็เป็นได้
4.ศึกษาส่วนลดอื่นๆ ที่เรามีสิทธิใช้งานได้
หลังจากเปรียบเทียบและพิจารณาตามสิ่งๆที่กล่าวถึงไปแล้ว เรายังมีส่วนลดอื่นๆอีกที่จะทำให้เราซื้อประกันรถยนต์ได้ถูกลง โดยเราขอยกตัวอย่างมา 3 สิทธิดังนี้ค่ะ
4.1). ส่วนลดประวัติดี
ส่วนลดนี้จะได้จากการที่เราทำประกันภัยรถยนต์แล้วในระหว่างปีไม่ได้เคลมเลย เราจะได้สิทธิส่วนลดประวัติดี เมื่อต่ออายุประกันภัยรถยนต์ในปีถัดไป โดยส่วนลดนี้จะเพิ่มขึ้นในทุกๆ ปี ปีละ 10% และสะสมได้สูงสุดถึง 50% หากเมื่อเราต้องการเปลี่ยนบริษัทประกันเมื่อหมดสัญญา เราสามารถแจ้งส่วนลดนี้ให้กับบริษัทประกันใหม่ได้ เพื่อที่เราจะได้รับส่วนลดนี้
ส่วนลดประวัติดีที่ได้รับมีดังนี้
ต่ออายุ ปีที่ 1 รับส่วนลด (20%)
ต่ออายุ ปีที่ 2 รับส่วนลด (30%)
ต่ออายุ ปีที่ 3 รับส่วนลด (40%)
ต่ออายุ ปีที่ 4 รับส่วนลด (50%)
4.2). ส่วนลดจากการระบุผู้ขับขี่
ส่วนลดนี้จะได้จากการที่เราระบุชื่อผู้ขับขี่รถที่ทำประกันภัยให้กับบริษัทประกันภัย หรือ ง่ายๆคือรถคันที่ทำประกันจะถูกขับโดยคนที่ระบุชื่อเท่านั้น ความเสี่ยงจึงน้อยกว่ารถยนต์ที่เอาประกันแบบไม่สามารถระบุชื่อคนขับได้ ส่วนลดนี้จะคิดตามอายุของผู้ที่ระบุในกรมธรรม์ โดยส่วนลดสูงสุดถึง 20% เลยทีเดียวค่ะ
4.3). ส่วนลดจากโบรคเกอร์/นายหน้า/ตัวแทน
ส่วนลดนี้เป็นส่วนลดที่โบรคเกอร์,นายหน้า,ตัวแทน นำคอมมิชชั่นของตนมาลด เพื่อจูงใจให้ลูกค้ามาทำประกันภัยรถยนต์กับตัวเองนั้นเอง ซึ่งสามารถสอบทางโบรคเกอร์,นายหน้า,ตัวแทนได้เลยค่ะ
ขอบคุณข้อมูล จาก : www.Masii.co.th