2013 Porsche 911 Turbo & Turbo S มาแล้ว เวอร์ชั่นแรงเร้าใจ

            เมื่อพูถึงรถยนต์ที่ขึ้นชื่อในเรื่องความแรงเป็นตำนานมาอย่างยาวนานเราเชื่อว่าค่ายรถยนต์  Porsche  น่าจะเป็นค่ายรถยนต์ที่อยู่ในใจใครหลายๆคน โดยเฉพาะ รุ่น 911 ที่เป็นตำนานสืบทอดมายาวนานและในท้ายที่สุดแล้ว มันก็กลับมาอีกครั้ง

                การครบรอบการก่อตั้งกิจการบริษัท  Porsche  มากว่า 50   ปี และการฉลองครบรอบ 40  ปี นับตั้งแต่เริ่มเดินสายการผลิตรถยนต์  Porsche  911 วันนี้ก็มาครบบรรจบอีกครั้ง ด้วยการสร้างกระแสรุ่นใหม่ที่เร้วแรงเร้าใจเหมือนที่หลายคนหวังเอาไว้กับ  Porsche 911 Turbo  และ  Turbo S ใหม่ ตอบโจทย์ในความเร้าใจมากกว่าที่เคยเป็นมา

                รุ่นใหม่ที่แรงขึ้นย่อมหมายถึงการเปลี่ยนทางด้านเรือนร่างและ  Porsches 911 turbo   ประเดิมด้วยการปรับระยะฐานล้อให้มีความกว้างขึ้น ที่จริงมันกว้างมากกว่า Porsche Carrera 4  ถึง  28 มม. ทั้งยังขยับฐานล้อให้ยาวขึ้นอีก 100 ม.ม. ให้ในการตอบสนองการขับขี่ที่ลงตัวและมั่นใจมากยิ่งขึ้น

                ขนาดที่กว้างขึ้น ไม่ใช่สิ่งเดียวที่เปลี่ยนไปใน Porsche 911 Turbo ใหม่ แต่ยังให้รายละเอียดในเรื่องการออกแบบที่มีความทรงเสน่ห์มากยิ่งขึ้นไปด้วย โดยเฉพาะจุดขายหลักกับไฟหน้าระบบ   LED ที่ให้ความทันสมัยมากยิ่งขึ้น เมื่อนับว่าไฟท้ายใช้แบบ LED อยู่แล้วตั้งแต่เปิดตัวออกมา สวมทับด้วยล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว จากโรงงาน  พร้อมชุดกันหน้าและตลอดรอบคันที่ดูดุดันมากยิ่งขึ้น

เรื่องที่โดดเด่นใน Porsche 911 Turbo นั้นอยู่ที่ระบบจัดการความสามารถในด้านหลักอากาศพลศาสตร์ Porsche active aerodynamics (PAA) โดยจะทำงานเป็น  3  ขั้นตอนใหญ่ตอบโจทย์ต่อการขับขี่ เริ่มจากปรับ ในส่วนของ สปอร์ยเลอร์ทางด้านหน้าหรือ front spoiler ตามสภาวะการขับขี่ รวมถึง ขับเคลื่อนสปอร์ยเลอร์หลัง และปรับตำแหน่ง  3  ระดับ ตามลักษณะการขับขี่และความเร็วที่ใช้

                ในห้องโดยสาร Porsche 911 Turbo ใหม่กลับมาพร้อมการออกแบบที่เปลี่ยนไปในทางคลาสสิค ที่จริงแล้ว เราต้องบอกว่ามันดูลงตัวมากยิ่งขึ้น ซึ่งให้ความยาวมากยิ่งขึ้นจากฐานล้อ ขณะที่ในรุ่น S มีการเปลี่ยนแปลงให้ความโดดเด่นมากกว่าด้วยภายในดำแดง คล้ายกับในรุ่น Carrera ทั้งยังมาพร้อมเบาะนั่งทรงสปอร์ตปรับไฟฟ้าได้มากถึง  18 ทิศทาง รวมถึงยังจำตำแหน่งเบาะนั่งได้อีกด้วย

                เครื่องเสียงจากยี่ห้อ  Bose  กลายเป็นมาตรฐานในรุ่นนี้  ให้ความลงตัวมากยิ่งกว่าในเรื่องคุณภาพเสียงคับแก้ว เช่นเดียวกัน มันยังมาพร้อมกับ ระบบช่วยขับขี่ต่างๆที่สำคัญ เช่น ระบบ  radar-controlled cruise control เช่นเดียวกับ ระบบช่วยอ่านป้ายจราจร Camera-based road sign recognition  รวมถึงยังเตือนในเรื่อกงารใช้ความเร็วตามกฏหมายกำหนดได้ด้วย

                แน่นอนว่าความโดดเด่นใน Porsche 911 Turbo อยู่ที่เครื่องยนต์ที่มีการพัฒนาให้ทรงพลังมากกว่าเดิม โดยครั้งนี้น่าจะต้องแสดงความเสียใจเมื่อ Porsche  ตัดสินใจที่จะถอดรุ่นเกียร์ธรรมดา ออกไปทั้งหมด แล้วแทนที่ด้วยระบบกียร์คลัทช์คู่  7  สปีด seven-speed dual clutch transmission (PDK) ต่อเข้ากับเครื่องยนต์ 6 สูบ  ขนาด 3.8 ลิตร ให้กำลังสุงสุด 520 แรงม้า เช่นเดิมคุณยังสามารถเลือกคบกับ Sport Chrono Package ที่ให้อัตราเร่ง  0-100 ก.ม/ช.ม. ได้ใน 3.2 วินาที และ ในรุ่น  Turbo S  เร็วกว่าอีก  0.1  วินาที (3.1 วินาที)  โดย สามารถทำความเร็วสูงสุดได้มากถึง  318 ก.ม./ช.ม.  ส่วนความประหยัดก็หายห่วงด้วยตัวเลขเฉลี่ย 9.7  ลิตร/ 100 ก.ม.  หรือเฉลี่ยประมาณ 10.3 ก.ม./ลิตร ดีกว่ารุ่นก่อนหน้านี้ร้อยละ 16

                ด้านการขับเคลื่อนของ Porsche 911 Turbo นั้นยังคงมาพร้อมระบบขับเคลื่อนทุกล้อตอบสนองในการขับขี่ที่เร้าใจ  ควบคุมด้วยระบบ  electro-hydraulic control ระบายความร้อนด้วยน้ำ ช่วยให้สามารถกระจายแรงบิดไปยังด้านหน้าได้มากขึ้นถ้าต้องการ ซึ่งยังมาพร้อมระบบ PDCC active anti-roll system ที่แนะนำมาเป็นครั้งแรกในรุ่น  turbo และเมื่อทำงานร่วมกัน รวมถึงระบบเบรกที่เลือกใช้จานเบรกระบายความร้อนแบบเซรามิค มันก็เป็นรถที่เปี่ยมด้วยสมรรถนะอย่างแท้จริง

                นอกจากนี้ในเรื่องการบังคับเลี้ยวก็ได้รับการพัฒนาใหม่ ด้วระบบตอบสนองใหม่ที่ทำงานในการบังคับเลี้ยว โดยในย่านความเร็วต่ำช่วง 50 ก.ม./ช.ม. ระบบ จะบังคับทิศทางล้อหลังไปในทางตรงกันข้าม เพื่อให้มีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น แต่เมื่อใช้ความเร็วอยู่ในระดับ  80 ก.ม./ช.ม. ขึ้นไป ระบบจะบังคับเลี้ยวให้ล้อหลังและล้อหน้าทำงานสอดคล้องกัน

                แม้จะยังไม่มากไทย แต่ก็คงไม่พลาดเช่นกัน โดยในยุโรป Porsche 911 และ 911 Turbos  จะวางจำหน่ายพร้อมกันในโชว์รูมในช่วงเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ โดยเปิดราคาเริ่มต้นในรุ่น Turbo  ที่ 162,055 ยูโร หรือประมาณ 6,968,365 บาท ส่วนรุ่น Turbo S ตั้งราคาที่ 195,256 ยูโร  หรือประมาณ 7,810,240 บาท