ถอดรหัส E85 น้ำมันคุ้มค่า...พลังงานทางเลือกที่ต้องจับตาต่อไป
เรื่องโดย ณัฐยศ ชูบรรจง
หลายปีผ่านมาเราต้องยอมรับว่า ราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้พวกเราหลายคนต่างที่จะหาทางออกให้กับตัวเอง ส่วนหนึ่งอาจจะมองเรื่องการทำให้รถยนต์ของตัวเองสามารถรงรับพลังงานได้สองระบบเช่นการติดแก๊ส เป็นต้น แต่ในขณะเดียวกันอีกหลายคน ก็มองหาการประหยัดเงินในกระเป๋าด้วยพลังงานรูปแบบอื่นๆ ที่ออกมาตอบรับเรื่องราคาน้ำมันแพง
การกระเบียดกระเสียนเงินในกระเป๋าทำอะไรสักอย่างนั้น คงต้องยอมรับว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย โดยเฉพาะเรื่องการเลือกคบหาพลังงานทางเลือก ในขณะที่ปัจจุบันค่ายรถยนต์ต่างก็เริ่มนำเสนอพลังงานทางเลือกมากขึ้น โดยเฉพาะ รถยนต์ในกลุ่มคอมแพ็คคาร์ที่มีการพัฒนารถยนต์ที่มีความสามารถในการรองรับน้ำมันทางเลือก E85 ได้ มากขึ้น ยิ่งกับในกลุ่มคอมแพ็คคาร์ที่มีการแข่งขันกันอย่างมากก็ยิ่งชี้ให้เห็นว่า การแข่งขันที่ดุเดือดนี้ จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะกับผู้บริโภคเอง
อาจจะไม่มีใครเคยตั้งคำถาม แต่มันก็เป็นสิ่งที่เชื่อว่าน่าจะอยู่ในใจใครหลายคนมายาวนานแล้วว่า พลังงานทางเลือก น้ำมัน E85 มีความคุ้มค่ามากน้อยแค่ไหน ในขณะที่เราหลายคนอาจจะมองภาพลวงตาที่หน้าปั้นว่า ราคาน้ำมัน E85 มีราคาถูกมากเมื่อเทียบกับน้ำมันทั่วไป ที่มีราคาเหยียบลิตรละ 40 บาท และราคาที่ถูกกว่าขอมันก็เชื้อเชิญให้คนสนใจ ทั้งที่จริงๆแล้ว สิ่งที่เห็นกับสิ่งที่เป็นอาจจะไม่เหมือนกันก็ได้
ราคาถูกกว่าเรื่องที่ชัดมากแบบไม่ต้องสงสัย
ประการแรกที่สำคัญและเราได้กล่าวไปแล้วนั่นคงไม่พ้นราคาน้ำมัน E85 ที่มีราคาถูกอย่างน่าเหลือเชื่อ โดยเฉพาะในปัจจุบันที่ราคาน้ำมันที่แพงสูงขึ้น ส่วนผสมน้ำมันที่น้อยกว่าของน้ำมันทางเลือก E85 ทำให้มันได้รับผลกระทบกับราคาน้ำมันที่น้อยกว่าด้วย
เนื้อน้ำมัน 15 / เอทานอล 85 เปอร์เซ็นต์เป็นคำตอบที่ดีต่อเรื่องนี้ ซึ่งการใช้เนื้อน้ำมันที่น้อยลงมีผลต่อราคาค้าปลีกน้ำมันด้วย ซึ่งเมื่อเทียบราคาน้ำมันที่จำหน่ายในปัจจุบันแล้ว ณวันที่ 7 พ.ค. 2556 เราจะพบว่า หากเปรียบเทียบราคาน้ำมันระหว่าง แก๊สโซฮอล์ 95 E10 และ E20 แล้ว มันจะมีราคาต่างกันเพียง 2.5 บาท หรือมีส่วนต่างที่ 7.2%
กลับกันถ้าเราเทียบในแง่เดียวกันระหว่างน้ำมัน E10 กับพลังงานทางเลือกน้ำมัน E85 จะพบว่า จะมีส่วนต่างทางด้านราคาสูงถึง 13.30 บาท หรือ 38.4 % ซึ่ง มีความแตกต่างที่สูงมากและแน่นอนว่า ด้วยราคาจำหน่ายในปัจจุบัน ที่มีราคาอยู่ที่ลิตรละ 21.38 บาท ก็ทำให้มันน่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว
รถที่ใช้ E85 คุณ ...ต้องเข้าใจ
ช่วงที่ผ่านมา เราต้องเริ่มยอมรับแง่หนึ่งว่ามีรถยนต์จำนวนมากที่รองรับพลังงาน E85 มากขึ้น โดยเฉพาะรถยนต์ในกลุ่มคอมแพ็คคาร์ ที่ยังได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตร ที่มีการแข่งขันกันสูง จนทุกค่ายทุกยี่ห้อที่มีรถยนต์เครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตร ก็พัฒนาให้มันสามารถรองรับพลังงานทางเลือกดังกล่าวได้
การทำรถที่สามารถรองรับพลังงานทางเลือก E85 หรือที่เรียกว่า Flex Fuel Vehicle (FFV) ไม่ใช่เรื่องที่ง่ายอย่างที่คิด ส่วนหนึ่งต้องมีการพัฒนาระบบน้ำมันแทบจะยกเครื่องใหม่ทั้งหมด โดยเฉพาะพวกท่อยางที่จะต้องทนทานกว่าท่อบางสำหรับน้ำมันเบนซินทั่วไป นั่นรวมถึงอาจจะมีการพัฒนาในส่วนของระบบจ่ายน้ำมัน เช่นชุดปั้มน้ำมันไฟฟ้าในถังน้ำมัน หรือที่ศัพท์ช่างเรียกว่า "ปั้มติ๊กฎ รวมถึงหัวฉีดและยางโอริงหัวฉีดที่ต้องทนทานน้ำมัน E85 ที่มีความกัดกร่อนสูงกว่า
อย่างไรก็ดีในปัจจุบันมีกลุ่มบุคคลหัวใสบางกลุ่มได้พัฒนาชุดคิทที่บอกว่าสามารถทำให้รถธรรมดาใช้น้ำมัน E85 ซึ่งมันก็เป็นความจริงแต่ไม่ทั้งหมด เพราะส่วนใหญ่การดัดแปลงรถให้ใช้น้ำมัน E85 ได้นั้นจะไม่มีการพัฒนาในส่วนของท่อยางและซีลยางต่างๆ หรือโอริง ซึ่งเป็นส่วนที่สำคัญ ทำให้อาจจะเป็นปัญหาได้ในอนาคต แม้ว่าการขายพ่วงกล่องจะช่วยให้รถสามารถเติมเชื้อเพลิงสุดประหยัดได้ก็ตามที แต่การทำให้รถเติม E85 ได้นั้นไม่ใช้เรื่องง่ายๆอย่างที่คิด
แม้จะต้องมีการพัฒนาที่มากแต่ด้วย เงินช่วยเหลือผู้ผลิตจากภาครัฐบาลทำให้ รถยนต์ที่สามารถใช้พลังงานทาเลือก E85 ไม่ได้มีราคาเพิ่มขึ้นจากเดิมมากนัก หรือบางรุ่นมีการปรับราคาลดลงด้วยซ้ำ ในขณะที่กล่องชุดคิทที่วางจำหน่ายและรับดัดแปลงก็ไม่ได้มีราคาสูงนัก อยู่ระหว่าง 8000-15000 บาทแล้วแต่ผู้จำหน่าย ซึ่งหากรวมค่าดัดแปลงท่อยางต่างๆ เข้าไปมันจะมีราคาค่าดัดแปลงไม่ได้มากมายอะไรนัก ยิ่งเมื่อเทียบกับการติดแก๊ส
คุ้มค่ากว่าจริงหรือไม่ ลองช่างใจดู
แม้จมีราคาที่ถูกกว่า และ รถยนต์ที่รองรับมากมาย แต่เราก้ต้องยอมรับ เราหลายคนยังไม่นิยมพลังงานทางเลือกมากมายนัก ส่วนหนึ่งเพราะยังมองไม่ออกว่ามันจะประหยัดเราได้มากแค่ไหน ยกเว้นแต่ว่า มันช่วยในเรื่องของค่าใช้จ่ายพลังงานที่ไม่แพงมากมายนัก
ข้อมูลใหม่เป็นข้อมูลที่ได้ จากระหว่างการทดสอบ Chevrolet Cruze E85 โดยในระหว่างที่เยี่ยมชมโรงงานเพโทรกรีน ผู้ผลิต เอทานอล รายใหญ่ของประเทศ เราก็ได้ข้อมุลที่น่าสนใจ ที่แสดงถึงการเปรียบเทียบระหว่างการใช้น้ำมันทั่วไป และ น้ำมัน E85 ของรถยนต์ ซึ่งถูกระบุว่ารถคันที่นำมาแสดงสัดส่วนนั้นเป็นรถยนต์ขนาดเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร
การทดลองดังกล่าวได้เติมน้ำมัน แก๊สโซฮอล 91 (E10) , E20 และ E85 จากนั้นเปรียบเทียบ อัตราประหยัดน้ำมันและค่าใช้จ่ายในการเดินทาง โดยผลที่ได้นั้นน่าสนใจอย่างมาก ซึ่งจากการเติมน้ำมันแก๊สโซฮอลล์ 91 รถจะมีอัตราประหยัดน้ำมันเมืองที่ 11 ก.ม./ลิตร และมีค่าใช้จ่าย กิโลเมตรละ 3.15 บาท/กิโลเมตร โดยประมาณ ส่วนนอกเมืองทำได้ 16 ก.ม./ลิตร และมีค่าใช้จ่ายกิโลเมตรและ 2.17 บาท/ก.ม. (ราคาน้ำมันแก๊สโซฮอลล์ 91 ลิตรละ 34.68 บาท)
ทว่าเมื่อเติมแก๊สโซฮอล์ E20 ก็กลับพบว่า มันมีอัตราประหยัดลดลงอยุ่ที่ 10.56 ก.ม./ลิตรและมีค่าใช้จ่ายราวๆ 3.05 บาทต่อกิโลเมตร ส่วนนอกเมืองมีอัตราประหยัด 15.36 กิโลเมตร/ลิตร และมีค่าใช้จ่ายต่อการเดินทาง 2.10 บาท/กิโลเมตร
ท้ายสุดสำหรับน้ำมันพลังงานทางเลือก E85 ในเมืองมีอัตราประหยัดลดลงมาอยู่ที่ 8.25 กิโลเมตร/ลิตร แต่กลับกันด้วยราคาน้ำมันที่ถูกลง ทำให้มีค่าใช้จ่ายเดินทางเพียง 2.59 บาท/กิโลเมตร และเช่นเดียวกันสำหรับนอกเมือง มันมีอัตราประหยัดลดลงเช่นกันจนมาอยู่ที่ 12 กิโลเมตร/ลิตร แต่มีราคาค่าใช้จ่ายในการเดินทางถูกลงเพียง 1.78 บาท/กิโลเมตร
แม้ในการทดลองนี้จะไม่ได้บอกว่า รถที่ใช้ในการทดลองนั้นเป็นยี่ห้อหรือรุ่นอะไร แต่ข้อเท็จจริง หนึ่งคือ เมื่อคุณใช้พลังงานทางเลือกจะได้อัตราประหยัดที่แย่ลง แต่สิ่งที่กลับมาคือ เงินในกระเป๋าที่มากขึ้น ซึ่งผู้เชี่ยวชาญของเพรโทรกรีนกล่าวว่า น่าจะเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ เมื่อเทียบกับราคาน้ำมันที่ถูกลงมากกว่าอย่างชัดเจน จะเห็นได้จากค่าเฉลี่ยในการเดินทางต่อกิโลเมตรที่น้อยลงตามลำดับ
ปั้ม..ปัญหาสำคัญที่ยังยากอยู่
แม้จะมีข้อดีและความพร้อมต่างๆมากมาย แต่สิ่งหนึ่งที่ยังเป็นปัญหาสำหรับพลังงานทางเลือกนั้นก็ไม่พ้น จำนวนปั้มน้ำมันที่ให้บริการน้ำมัน E85 ในปัจจุบัน ซึ่งถือว่ายังมีจำนวนน้อยอยู่ โดย จากข้อมูลของบริษัท เพรโทรกรีน จำกัด ในเครือกลุ่มบริษัทน้ำตาลมิตรผล ระบุว่า
ปัจจุบัน ปั้นน้ำมันที่ให้บริการน้ำมัน E20 ทั่วประเทศมีอยู่กว่า 1,589 แห่ง ซึ่งมีจำนวนที่ค่อนข้างเยอะและครอบคลุมมากกว่า เมื่อเทียบกับปั้มน้ำมันที่มีน้ำมันE85 จำหน่าย ที่มีเพียง 80 แห่งทั่วประเทศ ทั้งที่นับวันมีรถยนต์ที่รองรับมากยิ่งขึ้นเพิ่มจำนวนขึ้นตามลำดับ
ก่อนหน้านี้ นาย อดิศัย สิริสิงห์ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด ฟอร์ด ประเทศไทย ได้แสดงความคิดเห็นกับเทคโนโลยีน้ำมันพลังงานทางเลือก E85 หลัง ค่ายรถยนต์ Ford น่าจะเป็นค่ายรถยนต์รายเดียวในกลุ่มคอมแพ็คคาร์ที่ยังไม่มองถึงเรื่องดังกล่าว โดยเปิดเผยว่า ที่เรายังไม่นำเสนอก็เพราะว่า เรามองจำนวนของสถานีบริการน้ำมัน ทำให้ย้อนมาสู่ความจริงที่ว่ามีเทคโนโลยีจริง แต่ก็นำไปใช้ไม่ได้ ซึ่งในส่วน Ford เองก็เป็นบริษัทที่มีความเป็นสากล ที่จริงเทคโนโลยีในส่วนของน้ำมัน E85 นี้เรามีอยู่แล้วด้วยซ้ำ และก็ไม่แปลกถ้าจะมีการแนะนำในอนาคต ถ้าตลาดมีความต้องการ
น้ำมัน E85 อาจจะเป็นพลังงานทางลือกที่เริ่มมีการพูดถึงมากขึ้นทุกวัน มีรถยนต์ที่พร้อมให้เลือกเติมมากมาก ทั้งรถเก๋งหรือรถยนต์อเนกประสงค์ค่ายผู้ผลิตชั้นนำมากมาย แต่ปัญหาคือ เมื่อมีรถยนตืมากขึ้นมีความต้องการมากขึ้น แต่ในส่วนของสถานีบริการน้ำมันที่ยังน้อยอยู่อย่างชัดเจน อาจจะเป็นสิ่งที่ควรเร่งพัฒนาเพื่อตอบโจทน์ตามความต้องการมากขึ้น
เรื่องโดย ณัฐยศ ชูบรรจง
ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก บริษัท เพรโทรกรีน จำกัด ผู้ผลิตเอทานอลในกลุ่มบริษัทน้ำตาล มิตรผล
*หมายเหตุบทความนี้ถูกเขียนขึ้นเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2556 จึงใช้ข้อมูลการอ้างอิงราคาน้ำมันในช่วงเวลาดังกล่าว
อัลบั้มภาพ 8 ภาพ