ตลอดช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมาเราคงต้องยอมรับว่าตลาดรถยนต์ในจีนถือว่าเป็นตลาดที่มีความสำคัญอย่างมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการมียอดจำหน่ายรถยนต์ต่างๆมากมาย รวมถึงล่าสุดก็สามารถวัดแนวโน้มได้ด้วย

แม้หลายปีที่ผ่านมา ค่ายรถยนต์จะโหมโรงในกลุ่มเทคโนโลยียานยนต์ใหม่ๆ มากมาย เพื่อทำให้สาวกนั้นสนใจ โดยเฉพาะในเรื่องของความประหยัดแทบจะเรียกว่าเป็นส่วนที่ขาดไม่ได้กันเลยทีเดียว แต่ก็ดูเหมือนว่า เทคโนโลยีใหม่อาจจะไม่ได้ไฮโซอย่างที่คิด โดยเฉพาะเมื่อมันถูกนำมาใช้ในประเทศจีน ที่พวกเขาไม่ได้มองอะไรเลยนอกจากเป้าหมายที่สำคัญที่เห็นได้ทันที

รถพลังงานไฟฟ้าอาจจะเป็นเทคโนโลยีที่มาถึงแล้วในแดนมังกร แต่มันก็ดูเหมือนจะมีปัญหาที่ยุ่งยากวุ่นวาย โดยเฉพาะการสร้างโครงข่ายระบบชาร์จไฟให้กับรถ ทำให้มีการเปลี่ยนแปลงที่เปลี่ยนไปได้ด้วยความเชื่องช้า แต่การพัฒนาเทคโนโลยีปัจจุบัน ให้มีความสามารถมากกว่าน่าจะช่วยได้ในการตอบโจทย์เรื่องของการเพิ่มประสิทธิภาพให้กับรถยนต์

ถึงจะเป็นดรื่องที่เกิดขึ้นในเมืองจีน แต่นี่คือข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในทุกประเทศทั่วโลก ซึ่งบรรดาผู้ผลิตรถยนต์ทั่วโลกต่างก็มองหาการทำรถยนต์ให้ประหยัด ด้วยการนำเสนอสิ่งใหม่ๆ เข้าสู่ตลาด โดยเฉพาะอย่างย่งในเรื่องของการแนะนำความทันสมัย ด้วยระบบอัดอากาศ หรือระบบ ฉีดน้ำมันโดยตรง ซึ่งทำให้รถสามารถตบสนองได้ดีกว่าและมีความประหยัดใกล้เคียงรถยนต์พลังงานไฟฟ้า

เมื่อเร็วๆนี้ นาย บิล รัสเซล รองประธานฝ่ายปฏิบัติการภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงหนือ กล่าวเปิดเผย กับ Ward 's Auto ว่า เทคโนโลยีในปัจจุบัน ที่ช่วยในการเสริมสร้างศักยภาพของเครื่องยนต์ทีมีอยู่ในปัจจุบัน เริ่มถูกติดตั้งเข้ามามากขึ้น หลังจากที่มันเป็นที่ชัดเจนแล้วว่าช่วยให้บรรดาลูกค้ามองเห็นความประหยัดที่ชัดเจนได้ทันที

กระแสดังกล่าวเห็นได้อย่างชัดเจนจากผู้ผลิตเทอร์โบชั้นนำอย่าง Borg Warner ที่วางขายเทอร์โบในประเทศจีน ซึ่งบรรดาผู้ผลิตรถยนต์ก็ชอบที่บริษัทนี้เข้ามารุกตลาด และล่าสุดบริษัทประกาศว่าพวกเขาจะมียอดขายเพิ่มขึ้นอีก 2 เท่าภายใน 3 ปีข้างหน้า

ด้านผู้บริหารของ borg Warner เปิดเผยว่า กว่าร้อยละ 80 ของเทอร์โบจะถูกติดตั้งในเครื่องยนต์ที่มีขนาดตั้งแต่ 1.4 -2.0 ลิตร ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศจีน ขณะเดียวกัน มันก็จะมาพร้อมเทคโนโลยีฉีดตรง ซึ่งช่วยเพิ่มสมรรถนะการทำงานของเครื่องยนต์ เมื่อ ทำงานร่วมกับระบบอัดอากาศ

อย่างไรก็ดีไม่ใช่เพียงเครื่องยนต์เท่านั้นที่จะมีการพัฒนาอย่างมีนัยยะสำคัญ แต่แม้ในประเทศจีน รถยนต์ที่มีมากกว่า 6 เกียร์ นั่นไม่ค่อยได้รับความนิยม แต่ผู้ผลิตระบบส่งกำลัง Ricardo ก็มั่นใจว่าระบบเกียร์ที่มีอัตราทดมากกว่า 9 หรืออาจจะเป็น 10 เกียร์ จะเป็นมาตรฐานใหม่ในตลาดราว ๆ อีก 7-8 ปีข้างหน้า ซึ่งประมาณการว่าจะได้การยอมรับมากขึ้นภายในปี 2020

แม้อนาคตรถยนต์อาจจะยังไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิดแบบว่าโลกสวยไปเสียทุกสิ่งแต่การค่อยๆปรับเปลี่ยนไปสู่วิวัฒนาการรถยนต์พลังงานไฟฟ้าจะยังคงก้าวกันต่อไป โดยเฉพาะนาทีนี้เครื่องยนต์ที่มีประสิทธิภาพสูงจะเป็นตัวที่ชี้วัดสำคัญว่า เครื่องยนต์ปัจจุบันยังไปอีก แต่สำหรับที่จีน พวกเขาก็มองไว้พอสมควรว่า จะจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าให้ได้ 5 ล้านคัน ภายในปี 2020 ซึ่งนั่นอาจจะทำให้จีนเป็นชาติแรกๆที่มีสังคมรถไฟฟ้าอย่างแท้จริง

อัลบั้มภาพ EV ไม่รุ่งในจีน เ็ล็งเพิ่มสมรรถนะเครื่องยนต์ ชดเชยความประหยัด ภาพที่ 4 / 4

EV ไม่รุ่งในจีน เ็ล็งเพิ่มสมรรถนะเครื่องยนต์ ชดเชยความประหยัด

อัลบั้มภาพที่เกี่ยวข้อง

หนุ่มจีนโวยซื้อรถไฟฟ้ากว่า 1.1 ล้าน วิ่งแค่ 300 กม. แต่กลับเจอปัญหาเพียบ

Autodesk ร่วมโชว์ในงาน Future Mobility Asia 2023 ชี้ตลาดอีวีไทยมาแรงสุดในอาเซียน

Toyota X Prologue เผยทีเซอร์ก่อนเปิดตัวจริง 17 มีนาคมนี้ที่ยุโรป

เปิดสเปก Hongguang MINI EV รถไฟฟ้าขายดีจาก Wuling ราคาแค่ 130,000 บาท!