ฮอนด้า แอคคอร์ด ใหม่ ลองแล้วดีกว่าที่คิด !!!
หลังจากฮอนด้าได้เปิดตัวแอคคอร์ดใหม่ไปเมื่อไม่นานมานี้ พร้อมกับกระแสตอบรับจากผู้ที่รอคอยแอคคอร์ดใหม่ด้วยยอดจองกว่า 6,000 คันในช่วงเวลาไม่กี่วัน ทำให้ทีมงาน Auto-Thailand รอที่จะทดสอบลองของจริงกับฮอนด้าแอคคอร์ดใหม่ และเพื่อเป็นการตอกย้ำความหรูหรา พร้อมสัมผัสสมรรถนะของแอคคอร์ดใหม่ ค่ายฮอนด้าจึงได้เชิญสื่อมวลชนไปร่วมทดสอบสมรรถนะฮอนด้าแอคคอร์ดใหม่กันที่จังหวัดพังงา
โดยการทดสอบฮอนด้าแอคคอร์ดใหม่ ครั้งนี้มีรถฮอนด้าแอคคอร์ดใหม่รอให้เราทดสอบ 8 คัน แบ่งเป็นฮอนด้าแอคคอร์ดใหม่ รุ่น 2.4 TECH 4 คัน ฮอนด้าแอคคอร์ดใหม่ รุ่น 2.0 EL NAVI 4 คัน พูดง่ายๆก็คือ ทั้ง 8 คันเป็นรุ่น Top ของฮอนด้าแอคคอร์ดใหม่ทั้งสองเครื่องยนต์
ออกเดินทางจากกรุงเทพฯที่สนามบินสุวรรณภูมิมุ่งหน้าลงใต้สู่จังหวัดภูเก็ต เดินทางต่อด้วยฮอนด้า สเตปวากอน สปาด้า จากสนามบินภูเก็ตไปยังโรงแรมที่พัก เลอ เมอริเดียน เขาหลัก จังหวัดพังงาและเป็นจุดเริ่มต้นการทดสอบฮอนด้าแอคคอร์ดใหม่
เริ่มการทดสอบรถฮอนด้าแอคคอร์ดใหม่ด้วยการรับฟังบรรยายข้อมูลเทคนิคจากผู้บริหารและทีมงานฮอนด้า พร้อมเส้นทางทดสอบที่มีระยะทางรวมประมาณ 200 กิโลเมตร โดยการทดสอบรถฮอนด้าแอคคอร์ดใหม่ 1 คันจะมีผู้ทดสอบรถ 2 ท่าน ตลอดระยะทางทดสอบจะมีจุดแวะพักให้เปลื่ยนผู้ขับขี่และสลับเปลี่ยนรุ่นรถฮอนด้าแอคคอร์ดใหม่ในการขับขี่ทดสอบ
ทดสอบรถฮอนด้าแอคคอร์ดใหม่ รุ่น 2.0 EL NAVI
โดยการทดสอบเที่ยวขาไป ทีมงาน Auto-Thailand ได้ขับทดสอบรถฮอนด้าแอคคอร์ดใหม่ รุ่น 2.0 EL NAVI ที่เป็นรุ่น Top ของเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ก่อนออกเดินทางทีมงาน Auto-Thailand มีเวลาเดินสำรวจรอบตัวรถเพียงเล็กน้อย ด้วยรูปโฉมภายนอกที่อาจจะดูแล้วมีความเปลี่ยนแปลงไม่ได้ดั่งใจของหลายๆคน ตรงส่วนนี้ก็ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัว บางก็บอกว่าหน้าตาละหม้ายคลายโฉมเก่า แต่หลายคนก็บอกว่าสวยถูกใจก็ว่ากันไปครับ ถึงตอนนี้ทีมงาน Auto-Thailand ขอชี้จุดแตกต่างภายนอกที่สังเกตได้ชัดเจนของฮอนด้าแอคคอร์ดใหม่ รุ่น 2.0 EL NAVI กับ รุ่น 2.4 TECH โดยที่ด้านหน้าไฟหน้าของรุ่น 2.0 EL NAVI เป็นแบบโปรเจคเตอร์ มาพร้อมล้ออัลลอยขอบ 17 นิ้ว ตัวอักษรโลโก้ท้ายรถจะมีคำว่า i-VTEC ส่วนในรุ่น 2.4 TECH ไฟหน้าเป็นแบบ LED กระจกมองข้างด้านซ้ายจะติดตั้งกล้อง Honda Lane Watch มาให้ใช้งาน ล้ออัลลอยขอบ 18 นิ้ว พร้อมหลังคาซันรูฟไฟฟ้า และที่ด้านท้ายรถจะมีคำว่า 2.4 i-VTEC เรียกว่าถ้ามองผ่านๆก็แถบจะแยกไม่ออกว่าตัวไหนเป็นตัวไหนเหมือนกัน
ได้เวลาออกเดินทางทดสอบรถฮอนด้าแอคคอร์ดใหม่ รุ่น 2.0 EL NAVI โดยเช่นเคย ทีมงาน Auto-Thailand ขอนั่งเป็นผู้โดยสารก่อน ก้าวเข้าสู่ห้องโดยสารในตำแหน่งของผู้โดยสารตอนหน้า สิ่งแรกที่เราพูดกับพี่สื่อมวลชนที่ร่วมทดสอบคือ ความกว้างขวางทั้งพื้นที่เหนือศีรษะ พื้นวางขา รวมถึงตัวเบาะนั่งหุ่มหนังแท้ปรับไฟฟ้า ที่ให้ความนุ่มนั่งสบาย ระหว่างนั่งโดยสารก็มองไปรอบภายในห้องโดยสาร โดยเฉพาะที่บริเวณคอนโซลด้านหน้าทั้งการมองและสัมผัส ขอชมเลยว่าใช้วัสดุรวมถึงการประกอบได้ดีกว่าที่คิดไว้ เนื่องจากจะสังเกตว่าพวกรถยนต์รุ่นหลังๆ จะลดค่าใช้จ่ายในส่วนนี้กันแทบทุกค่าย นี่ยังไม่รวมอุปกรณ์ออพชั่นต่างๆที่ใส่เข้ามาให้ใช้สอยกันแบบเหลือเฟือ แม้ว่าจะยังไม่เต็มที่แบบรุ่น 2.4 TECH แต่ที่ลองเล่นลองใช้ก็ถือว่าเพียงพอกับการใช้งานทั่วๆ ไปแล้ว
หลังจากสำรวจด้านหน้ากันไปแล้ว จึงขอตัวปีนข้ามมานั่งเป็นผู้บริหารที่ด้านหลัง ด้วยเบาะนั่งหุ่มหนังแท้ที่กว้างขวาง พื้นส่วนหลังนี้ก็ให้ความสะดวกสบาย เรียกว่าจากการกะด้วยสายตา น่าจะนั่งกันแบบผู้ใหญ่ 3 คนกันแบบเดินทางยาวได้อย่างไม่เมื่อยล้า โดยที่ห้องโดยสารด้านหลังนี้ก็จะมีม่านบังแดดให้ใช้งานบริเวณด้านข้างที่ประตูทั้งสองข้าง ส่วนที่กระจกหลังจะเป็นพับขึ้นลงด้วยไฟฟ้าให้ความหรูหราสะดวกสบาย
โดยในช่วงที่ทีมงาน Auto-Thailand นั่งเป็นผู้โดยสาร ก็ได้ลองฟังเสียงรบกวนจากภายนอก รวมถึงการเก็บเสียงรบกวนต่างๆ เรียกได้ว่าทำได้ดีเลยทีเดียว จากการที่ฮอนด้าแอคคอร์ดใหม่ได้รับการติดตั้งระบบควบคุมเสียงรบกวนเข้าห้องโดยสาร Active Noise Control (ANC) และ Active Sound Control (ASC) ซึ่งทั้ง 2 ระบบจะใช้ไมโครโฟน 2 ตัว ประมวลผลสัญญาณอิเล็กทรอนิกส์ ANC/ASC ผ่านไปยังลำโพง 4 ตัว ในระบบเครื่องเสียงของแอคคอร์ด โดย ANC/ASC จะทำหน้าที่ควบคุมและขจัดเสียงที่จะเข้าสู่ห้องโดยสารในขณะที่รถกำลังวิ่ง หรือแม้ในขณะที่ระบบเครื่องเสียงไม่มีการเปิดใช้งานขึ้นมาก็ตาม
ระบบ ANC ได้รับการออกแบบมาเพื่อลดเสียงคลื่นความถี่ต่ำในห้องโดยสาร ซึ่งส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นมาจากการแล่นผ่านพื้นผิวถนนที่ขรุขระ โดยไมโครโฟนที่ติดอยู่ด้านบนจะรับคลื่นเสียง และส่งไปที่ตัวประมวลผล ANC/ASC ซึ่งจะมีการสร้างและส่งสัญญาณเสียงที่ได้รับการดัดแปลงให้มีรูปแบบคลื่นตรงกันข้ามกลับไปที่ตัวกระจายเสียงอย่างแม่นยำ แล้วตัวกระจายเสียงก็จะส่งเสียงที่ได้รับการดัดแปลงนี้ออกมาทางลำโพงที่ติดตั้งอยู่บนบานประตูเพื่อขจัดสัญญาณเสียงดั้งเดิมออกไป
ASC เป็นเทคโนโลยีเพื่อปรับปรุงคุณภาพเสียงของเครื่องยนต์ ด้วยการสร้างระดับแรงดันของเสียงให้มีลักษณะที่ใกล้เคียงกับเวลาที่รอบเครื่องยนต์กำลังเพิ่มขึ้น โดยปกติแล้ว เสียงเครื่องยนต์ไม่ได้แปรผันโดยตรงกับรอบเครื่องยนต์ที่เพิ่มสูงขึ้น แต่จะมีการสะท้อนไปมาหลายครั้งจนทำให้ระดับของเสียงเครื่องยนต์ที่ได้ยินไม่สม่ำเสมอ ระบบASC จะส่งคลื่นเสียงออกจากลำโพงบนบานประตูด้วยสัญญาณที่มีลักษณะเฟสเหมือนกัน หรือเฟสแบบตรงกันข้ามตามความเหมาะสมเพื่อทำให้เสียงที่ได้ยินมีความราบเรียบ และสม่ำเสมอ ระบบนี้จะให้ประโยชน์ตั้งแต่รอบเดินเบาไปจนถึงการลากรอบจนถึงแถบเรดไลน์ แต่ที่จะได้รับประโยชน์สูงสุดของระบบคือ ช่วงรอบเครื่องยนต์ระหว่าง 1,000-2,000 รอบ/นาที ซึ่งระดับแรงดันของเสียงค่อนข้างต่ำ อยู่ที่ประมาณ 3 เดซิเบล พร้อมกับมีรูปแบบของสัญญาณเสียงที่ตรงกันข้าม
หลังจากถึงจุดแวะพัก ทีมงาน Auto-Thailand จึงได้เปลี่ยนมาเป็นผู้ขับทดสอบรถฮอนด้าแอคคอร์ดใหม่ รุ่น 2.0 EL NAVI ก้าวขึ้นมานั่งหลังพวงมาลัยในตำแหน่งผู้ขับขี่ ก็สามารถสัมผัสถึงความสบายของเบาะนั่งหุ้มหนังแท้ปรับด้วยไฟฟ้า พวงมาลัยลายไม้พร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียง พร้อมระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ
เริ่มเคลื่อนตัวออกเดินทางทดสอบกันต่อก็ได้สัมผัสพละกำลังของเครื่องยนต์ 4 สูบขนาด 2.0 ลิตร i-VTEC ให้กำลังสูงสุด 155 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 190 นิวตัน-เมตร ที่ 4,300 รอบต่อนาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด พร้อมด้วยระบบควบคุมการทรงตัว VSA และระบบช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน HSA มาเป็นอุปกรณ์มาตราฐานในทุกรุ่น
โดยการขับขี่ในเส้นทางเป็นแบบถนนเลนสวนจึงขับทำความเร็วได้เป็นช่วงๆ ก็จะเจอกับรถใหญ่และรถที่วิ่งช้า ทำให้เราได้ทดสอบอัตราเร่งไปในตัวตอนช่วงที่ต้องทำความเร็วเพื่อเร่งแซง พละกำลัง 155 แรงม้า ก็สามารถตอบสนองการขับขี่ได้ดีพอใช้ แต่บางช่วงอาจจะต้องอาศัยการลากรอบช่วยด้วยก็อาจจะใช้เวลาบาง แต่ถ้าคุ้นชินและกะระยะได้ว่าช่วงการจราจรด้านหน้าจะต้องขับขี่อย่างไรก็สามารถเรียกพละกำลังมารอไว้ก่อน
ด้านการควบคุมรถ พวงมาลัยไฟฟ้า EPS ของฮอนด้าแอคคอร์ดใหม่ สามารถให้การควบคุมที่มั่นใจ ปรับน้ำหนักได้ตามความเร็วที่ใช้ในการขับขี่ โดยที่พวงมาลัยจะมีปุ่มควบคุมอุปกรณ์ต่างๆก็สามารถใช้งานง่าย ตำแหน่งและขนาดปุ่มกดกำลังดี เรียกว่าเพียงพอกับการใช้งาน
มีอีกจุดหนึ่งที่อาจจะไม่ค่อยเข้ากับบุคลิกความหรูหราของฮอนด้าแอคคอร์ดใหม่ คือ เสียงเครื่องยนต์ที่ดังเร้าใจประมาณว่าออกไปในแนวเรซซิ่ง เสียงจับใจจริงๆ แต่ของบอกว่าชอบเสียงแบบนี้ ทำให้การขับขี่สนุกไปอีกแบบ
ส่วนในด้านของระบบช่วงล่างของฮอนด้าแอคคอร์ดใหม่ด้านหน้าเป็นแบบแม็คเฟอร์สันสตรัทเข้ามาแทนที่ระบบกันสะเทือนหน้าแบบเดิมอย่างปีกนก 2 ชั้นที่ใช้อยู่ในแอคคอร์ดรุ่นที่ผ่านมา รวมถึงสามารถตอบสนองในเรื่องการบังคับรถในขณะเข้าโค้งได้เป็นอย่างดี ส่วนด้านหลังเป็นแบบอิสระมัลติลิงค์ ส่วนประกอบของระบบช่วงล่างหลังจะมีแขนยึด A-Armsตัวบนที่ผลิตด้วยการปั๊มขึ้นรูปจากเหล็กที่มีความทนทานสูง พร้อมกับข้อต่อที่ผลิตจากอะลูมิเนียม เชื่อมต่อเข้ากับโครงสร้างตัวถังด้วยแท่นยึดที่ผลิตจากยาง ซึ่งจะช่วยลดเสียง drumming และลดเสียงที่มีความถี่ต่ำ ที่จากการสังเกตในการขับขี่สมรรถนะทั้งในทางตรง ทางโค้ง รวมถึงระหว่างเดินทางก็มีฝนตกลงมาให้ได้ลองกับสภาพพื้นผิวเปียก เรียกว่าให้การขับขี่ได้อย่างมั่นใจ โดยในบางช่วงยังได้ลองเข้าโค้งแรงๆ จนเกิดอาการลื่นไถลทำให้ได้สัมผัสการทำงานของระบบ VSA ที่เข้ามาช่วยได้อย่างทันท่วงที แต่ตรงนี้ขอบอกว่าความรู้สึกกับระบบช่วงล่างของฮอนด้าแอคคอร์ดใหม่จะออกไปในแนวนุ่มหนึบ เหมาะกับการขับขี่ด้วยความเร็วสูง หรือพูดกับแบบตรงๆก็คือ อาจจะกระด้างไปบ้างในยามที่เราขับขี่ใช้งานแบบเรื่อยๆ แต่นิดเดียวนะไม่ได้มากมายอะไร อาจจะเป็นผลมาจากยางรถที่มากันในซีรี่ส์ 50 ขอบ 17 นิ้ว (เพราะถ้าระบบช่วงล่างมาในแนวนุ่มนวลกับรถขนาดใหญ่แบบนี้เกรงว่าจะกลายเป็นขับขี่ได้ไม่เกาะถนนเท่าที่ควร)
และอีกสองออพชั่นที่จะไม่พูดถึงไม่ได้ที่มีมาให้เป็นอุปกรณ์มาตราฐานในฮอนด้าแอคคอร์ดใหม่ก็คือ ไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวัน DRL - Daytime Running Lights ที่ช่วยให้สามารถมองเห็นแอคคอร์ด ใหม่ ได้อย่างสะดวกและง่ายขึ้นทั้งการขับขี่ในเวลากลางวัน หรือช่วงเวลาพลบค่ำ ทั้งยังเพิ่มความหรูหราดูสวยงามแก่ผู้พบเห็น และกล้องส่องหลังแบบ Multi-Angle ซึ่งจะแสดงภาพด้านหลังจาก 3 มุม คือ มุมกว้าง มุมปกติ และมุมมองจากด้านบน เราสามารถเลือกดูภาพได้ตามความต้องการ พร้อมมีแนวเส้นในการช่วยกะระยะที่เหมาะสม เพิ่มความมั่นใจในการถอยหลังเข้าจอดได้อย่างดี
ทดสอบรถฮอนด้าแอคคอร์ดใหม่ รุ่น 2.4 TECH
เมื่อถึงจุดแวะพักที่ 2 ซึ่งจะเป็นจุดที่ต้องเปลี่ยนสลับผู้ขับขี่ และเปลี่ยนรถทดสอบ โดยถ้าใครขับฮอนด้าแอคคอร์ดใหม่ รุ่น 2.0 EL NAVI มาก็จะเปลี่ยนไปขับทดสอบฮอนด้าแอคคอร์ดใหม่ รุ่น 2.4 TECH ซึ่งทีมงาน Auto-Thailand จะเป็นผู้ขับทดสอบต่อในเที่ยวขากลับ ก้าวเข้าสู่ห้องโดยสารของฮอนด้าแอคคอร์ดใหม่ รุ่น 2.4 TECH จุดแรกที่สังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงก่อนเลยก็ตรงพวงมาลัยที่อยู่ในมือเรา ที่ในรุ่น 2.4 TECH จะมี Paddle Shift มาให้ไว้ปรับเปลี่ยนเกียร์ และไฮไลต์อีกตัวก็อยู่ที่ปุ่มควบคุมระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน Adaptive Cruise Control (ACC) และ ระบบเตือนการชนด้านหน้าด้วยเรดาห์พร้อมระบบช่วยเบรก (CMBS)
โดยมาเริ่มกันที่ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC ซึ่งมีในรุ่น 2.4 TECH เท่านั้น ระบบนี้จะใช้ตัวควบคุมระยะและความเร็วของตัวรถในการเก็บข้อมูล และจะมีการติดตั้งเรดาร์ที่มีความถี่ในระดับมิลลิเมตรมาใช้ในการตรวจสอบระยะห่างระหว่างแอคคอร์ด กับรถยนต์ที่วิ่งอยู่ด้านหน้า (เป็นเรดาร์แบบเดียวกับที่ใช้ในระบบ CMBS) สิ่งที่เหมือนกับระบบควบคุมความเร็วแบบเดิม คือ ระบบ ACC สามารถที่จะปรับตั้งความเร็วที่ต้องการได้ ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยการผสมผสานข้อมูลที่มาจากเรดาร์เข้ากับข้อมูลที่มาจากเซ็นเซอร์ตรวจจับความเร็ว ระบบ ACC สามารถที่จะปรับระดับความเร็วของแอคคอร์ด เพื่อให้คงระยะห่างระหว่างรถยนต์คันที่อยู่ข้างหน้าเอาไว้ได้เป็นอย่างดี