วิธีดูแลรถที่ต้องลุยน้ำเป็นประจำ
หน้าฝนมาแล้ว หลายพื้นที่มีปัญหาน้ำท่วมขัง สำหรับรถที่ต้องลุยน้ำ หรือผ่านถนนที่มีน้ำท่วมขังเป็นประจำ การดูแลรักษารถในช่วงหน้าฝน ก็ใกล้เคียงกับในช่วงฤดูอื่นๆ ครับ จะต้องตรวจดูและสังเกตสภาพเครื่องยนต์ สภาพยางและสภาพการทำงานของเบรก ตลอดจนระบบเบรก ตลอดจนระบบไฟ อาทิ ไฟหน้า ไฟท้าย เป็นต้น นอกจากนี้ ควรตรวจสอบสภาพที่ปัดน้ำฝน เพราะเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องใช้หน้าฝนนี้
สิ่งที่ควรกระทำเป็นพิเศษนอกเหนือจากการตรวจสอบสภาพรถโดยทั่วไปแล้ว คือหากรถขับผ่านพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขัง หรือลุยน้ำท่วมมา เมื่อขับถึงทางแห้งควร "เลียเบรก" หรือย้ำเบรกติดๆ กันหลายครั้ง เพราะนอกจากจะเป็นการตรวจสอบประสิทธิภาพของเบรกแล้ว การเลียเบรกยังเป็นการไล่ความชื้นที่ดีอีกด้วย เมื่อจอดรถเป็นเวลานานสำหรับรถที่ลุยน้ำมา ไม่ควรดึงเบรกมือขึ้น เพราะความชื้นที่ยังเหลืออยู่ที่ตัวเบรกจะทำให้เบรกติด มีผลทำให้รถเคลื่อนตัวไม่ได้ หรือดึงเบรกมือลงลำบาก ในรถบางคันอาจมีสนิมเกาะที่ตัวเบรก แต่ไม่ต้องตกใจ เพราะเมื่อรถถูกใช้งานไปสักระยะ สนิมที่เกาะจะถูกขัดออกโดยอัตโนมัติ โดยในระหว่างขับขี่อาจมีเสียงดังรบกวนที่จานเบรก อาการดังกล่าวถือเป็นอาการปกติ จะหายไป เมื่อถูกใช้งานไปสักระยะ หลังจากหน้าฝนผ่านไปแล้ว โดยเฉพาะรถที่จอดแช่น้ำมา อันดับเเรกควรทำความสะอาดรถโดยการอัดฉีดใต้ท้องรถ ในกรณีขับผ่านน้ำลึก มีทางเป็นไปได้ว่าน้ำอาจจะซึมผ่านอุปกรณ์ตามท่อหรือรูต่างๆ บริเวณใต้ท้องรถ ดังนั้น ควรตรวจสอบหรือเปลี่ยนน้ำมันหล่อลื่นต่างๆ น้ำมันเบรก น้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ รวมถึงน้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์
นอกจากนี้ ควรตรวจสภาพแร็คพวงมาลัย ลูกหมากต่างๆ ถ้าพบว่าผิดปกติควรที่จะเปลี่ยนโดยปรึกษาช่างผู้ชำนาญ สำหรับห้องโดยสาร โดยปกติห้องโดยสารจะมีรูและช่องต่างๆ ตามตัวรถ โดยบางจุดจะมียางมาครอบปิดไว้ หากยางเริ่มเสื่อมสภาพน้ำก็จะซึมเข้าไปในตัวรถ ยิ่งถ้ามีปูพรมด้วยยิ่งทำให้เกิดกลิ่นอับชื้น ซึ่งถ้าหากกลิ่นดังกล่าวถูกดูดซึมเข้าไปในระบบแอร์ จะเป็นการยากที่จะทำให้กลิ่นอับชื้นหายไป ดังนั้น ควรรื้อพรมเพื่อจะตรวจรอยรั่วหรือรอยซึมภายในรถ โดยเฉพาะพื้นรถ ทั้งนี้ ควรนำรถออกไปตากแดด เพราะเป็นวิธีธรรมชาติที่ช่วยขับไล่ความชื้นและเหม็นอับได้ดีวิธีหนึ่ง สำหรับตัวถังรถ ในกรณีที่รถยังไม่ได้ซ่อมหลังเกิดอุบัติเหตุ หรือรถมีรอยสีกะเทาะ ให้ตรวจสอบดู หากพบสนิมที่เนื้อเหล็กเบื้องต้นควรใช้กระดาษทรายขัดและแต้มสี เพื่อป้องกันสนิมลุกลามต่อไป
สุดท้ายควรตรวจรายละเอียดปลีกย่อย อาทิ สายพานและลูกรอกสายพานมักจะส่งเสียงร้องเป็นประจำหลังจากผ่านการลุยน้ำ ควรฉีดน้ำยาไล่ความชื้น และให้ช่างผู้ชำนาญช่วยปรับตั้งความตึงสายพาน หากยังไม่ดีขึ้นควรที่จะเปลี่ยนอุปกรณ์ดังกล่าวเสียใหม่
ที่มา www.e-toyotaclub.com