เปิดโผรถ 3 รุ่นเตรียมเปิดตัวเดือนมกราคม 2560 นี้

      ขึ้นศักราชใหม่ได้เพียงครู่เดียว ค่ายรถแบรนด์ดังต่างก็เตรียมเปิดตัวโมเดลสำคัญในตลาดถึง 3 รุ่น 3 ยี่ห้อ ภายในเดือนมกราคม 2560 นี้ จะมีรุ่นใดบ้างไปชมกันครับ...

1. Honda City Minorchange
เปิดตัว 12 มกราคม 2560

      ตลาดรถยนต์นั่งพิกัด 1,500 ซีซี ถือเป็นตลาดใหญ่มากในบ้านเรา ซึ่งหนึ่งในเจ้าตลาดเซ็กเมนต์นี้คงหนีไม่พ้น 'ฮอนด้า ซิตี้' ที่เตรียมปล่อยโฉมไมเนอร์เชนจ์รุ่นปี 2017 มาให้สัมผัสกันเป็นประเทศแรกในโลก ซึ่งภาพทีเซอร์ที่ปรากฏออกมา เผยให้เห็นไฟหน้าแบบ LED พร้อม Daytime Running Light ดีไซน์สวยงาม ล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ รวมถึงคาดว่าจะได้ไฟท้ายแบบ LED ดีไซน์เดียวกับ Grace LX ในตลาดญี่ปุ่นอีกด้วย

      ขณะที่ห้องโดยสารภายในยังคงไม่ต่างไปจากเดิมมากนัก มีการเปลี่ยนระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสแบบใหม่ ขณะที่ฟังก์ชั่นภายในของรุ่นซิตี้ก็ถือว่าแน่นเอี๊ยดอยู่แล้ว การปรับโฉมย่อยครั้งนี้จึงน่าจะเน้นที่ดีไซน์ภายนอกให้ดูสดใหม่ขึ้น ส่วนขุมพลังจะยังคงใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร พ่วงเกียร์อัตโนมัติ CVT เช่นเคย

 

2. Nissan Note
เปิดตัว 17 มกราคม 2560

      แม้ว่า Nissan Note ในตลาดโลกจะเป็นการปรับไมเนอร์เชนจ์กันแล้ว แต่ไทยก็จะลุยตลาดโฉมนี้ ในฐานะอีโคคาร์รุ่นใหม่ล่าสุด ซึ่งนอกเหนือจะมีรูปลักษณ์ที่ดูสวยงามลงตัวแล้ว ยังได้เปรียบคู่แข่งในตลาดด้วยตัวถังที่มีขนาดใหญ่กว่า Hatchback B-Segment บางรุ่นด้วยซ้ำ ซึ่งรายละเอียดอย่างเป็นทางการของ Note ใหม่ ยังไม่ถูกเปิดเผยมากนัก นอกจากเทคโนโลยี Nissan Intelligent Mobility เช่น ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน, ระบบเตือนมุมอับสายตา และกล้องมองภาพ 360 องศา เป็นต้น

      ด้านขุมพลังคาดว่าจะได้เครื่องยนต์บล็อก 1.2 ลิตร ไม่มีระบบช่วยอัดอากาศ ให้กำลังสูงสุด 79 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 106 นิวตัน-เมตร พร้อมเกียร์อัตโนมัติ CVT ที่ให้อัตราสิ้นเปลือง 23.4 กม./ลิตร ตามมาตรฐาน JC08 ของญี่ปุ่น ซึ่งสเป็คไทยอาจต่างจากนี้เล็กน้อยเพื่อให้เข้ากับน้ำมันในบ้านเรา

 

3. Mazda3 Minorchange
เปิดตัว 23 มกราคม 2560

      สำหรับตลาด C-Segment ก็เตรียมพบกับ Mazda3 โฉมไมเนอร์เชนจ์ใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวในญี่ปุ่นได้เพียงไม่นาน ซึ่งมีการปรับโฉมด้านหน้าให้ดูสดใหม่ขึ้น แม้ดูเผินๆ จะไม่ต่างไปจากเดิมมาก แต่เรียกได้ว่าไม่สามารถใช้ชิ้นส่วนจากรุ่นเดิมได้แม้แต่ชิ้นเดียว ไฟหน้าถูกติดตั้ง Daytime Running Light แบบใหม่ที่ช่วยให้ดูมีเอกลักษณ์มากขึ้น ขณะที่ด้านท้ายมีการเปลี่ยนแปลงเฉพาะกันชนหลังในรุ่นแฮทช์แบ็ค พร้อมทั้งติดตั้งระบบ G-Vectoring Control เป็นครั้งแรกในบ้านเรา ซึ่งเป็นระบบควบคุมแรงบิดของแต่ละล้อ เพื่อให้สามารถเข้าโค้งได้อย่างสมดุลและมีแรงเหวี่ยงน้อยที่สุด

      ขณะที่จุดเปลี่ยนสำคัญอยู่ที่ห้องโดยสารภายใน เพราะมีการปรับปรุงหน้าจออินโฟเทนเม้นท์ใหม่ แผงสวิตช์ระบบปรับอากาศดีไซน์ใหม่ พวงมาลัยแบบ 3 ก้านที่ดูสปอร์ตยิ่งขึ้น รวมถึงระบบเบรกมือไฟฟ้า ขณะที่ขุมพลังคาดว่าจะมีเครื่องยนต์ดีเซล SKYACTIV-D 1.5 ลิตรให้เลือกเช่นเดียวกับตลาดญี่ปุ่นด้วย

      ส่วนรายละเอียดและราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการของรถยนต์แต่ละรุ่น คงต้องรอวันเปิดตัวกันอีกครั้งครับ