"ฮุนได เวลอสเตอร์" ขับสนุก สวยสะดุด หนึบแน่น

"ฮุนได เวลอสเตอร์" ขับสนุก สวยสะดุด หนึบแน่น

"ฮุนได เวลอสเตอร์" ขับสนุก สวยสะดุด หนึบแน่น
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

     ค่ายฮุนไดกลับเข้ามาทำตลาดในบ้านเราอย่างจริงจังเมื่อ 5 ปีก่อน โดยตั้งใจเรียกความมั่นใจในแบรนด์กลับคืนมาอีกครั้ง ต้องยอมรับว่าใช้เวลาเพียงช่วงสั้น ๆ ฮุนไดทำตามที่ตัวเองหวังได้สำเร็จเดี๋ยวนี้ไม่ว่าจะมองไปทางไหน ก็มีรถฮุนไดวิ่งกันให้เกลื่อนกลาดไปหมดโดยเฉพาะรถตู้เอช-วัน

     ล่าสุด ฮุนไดส่งรถยนต์นั่งสปอร์ต แบบ 2 + 1 อย่างฮุนได เวลอสเตอร์ มาเอาใจลูกค้าชาวไทยเพิ่มอีก 1 รุ่น ด้วยรูปโฉมการดีไซน์ที่ดูจะล้ำหน้า เป็นเอกลักษณ์โดดเด่นไม่เหมือนใคร ทำให้รถยนต์สัญชาติเกาหลีคันนี้กลายเป็นที่จับตามองของใครหลายคน

     หลายคนอาจจะเกิดคำถามว่า รถเก๋งสไตล์สปอร์ตแบบ 2 + 1 คืออะไร ทำไมไม่เป็น 2 + 2 อย่างที่คุ้นชิน คำตอบก็คือ รถคันนี้ฝั่งซ้ายมี 2 ประตูหน้า-หลัง ส่วนฝั่งขวามีประตูเดียว ด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัว ภายใต้แนวคิดใหม่ที่ต้องการเน้นความปลอดภัยสำหรับผู้โดยสาร ที่จะบังคับให้ขึ้น-ลงประตูด้านหลังฝั่งซ้ายเพียงเท่านั้น และเมื่อเร็ว ๆ นี้ ทีมงานฮุนไดจัดทริปทดสอบรถยนต์ฮุนได เวลอสเตอร์ ในเส้นทางกรุงเทพฯ-เสียมราฐ (นครวัด)-กรุงเทพฯ เพื่อให้สื่อมวลชนรวมทั้ง "ประชาชาติธุรกิจ" ได้มีโอกาสสัมผัส และมีประสบการณ์ร่วมกับรถเก๋งสไตล์สปอร์ต 2 + 1 คันนี้กันแบบเต็ม ๆ

     หลังจากนัดแนะเส้นทาง จุดพักรถ พักคนกันเรียบร้อย ก็ได้เวลาเดินทาง ช่วงจัดขบวนคาราวานยังพอมีเวลาสำรวจรูปร่างหน้าตาของรถคันนี้แบบเต็ม ๆ ด้วยหลักการออกแบบภายใต้ปรัชญา Fluidic Sculpture Design กระจังหน้าทรง Hexagonal อันเป็นเอกลักษณ์ ผสานกับเส้นสายที่ไล่รับจากกระจังด้านหน้าไปยังไฟหน้า ผ่านมาด้านข้าง จนจดปลายด้านหลังของตัวรถ ยิ่งช่วยเพิ่มลุกให้รถคันนี้มีความโดดเด่นและสปอร์ตมากขึ้น มีทั้งความสวยงามผสานความอ่อนช้อยของเส้นสาย และยังแฝงด้วยความดุดัน ขณะเตรียมตัวออกเดินทาง พลันได้ยินเสียงเพื่อนร่วมทริปร้องหา... ที่เปิดประตูห้องโดยสารด้านหลัง ซึ่งถูกออกแบบให้กลมกลืนอยู่กับปลายกระจกหลังซ้าย ด้วยความตั้งใจให้รถคันนี้คงลุกสปอร์ตเอาไว้ได้อย่างลงตัว

     เข้ามาภายในห้องโดยสาร ไม่ได้แคบอย่างที่คิด ทั้งพื้นที่เลกรูม เฮดรูม เหลือเฟือทั้งส่วนของผู้โดยสารตอนหน้าและตอนหลัง เหลือบมองไปที่กระจกหลัง ขัดหูขัดตาเล็กน้อยกับหลังคากระจกที่ถูกออกแบบให้ลาดลง เพื่อกดท้ายรถให้มีความสปอร์ต แถมยังมีแกนของแนวหลังคาลาดลงมาอยู่ในระนาบเดียวกับกระจกมองหลัง ทำให้วิสัยทัศน์ตรงนี้ด้อยลงไป

     ส่วนการออกแบบความล้ำสมัยภายในห้องโดยสาร รถคันนี้มาพร้อมกับพวงมาลัยสปอร์ต 3 ก้าน พร้อมระบบมัลติฟังก์ชั่น มาตรวัดเรืองแสง Super Vision ให้มีความสว่างได้ตามต้องการ ส่วนการตกแต่งชิ้นส่วนต่าง ๆ อาทิ กรอบช่องแอร์ ที่เปิดประตูด้านใน มือจับประตู ใช้วัสดุสีเมทัลลิก และที่ค่อนข้างจะถูกใจอย่างยิ่งคือ ระบบ "เสียง" ของเครื่องเสียงในรถคันนี้ แน่นอน ชุดเครื่องเสียงที่มาพร้อมจอขนาดใหญ่ เชื่อมต่อความบันเทิงภายนอกได้จากอุปกรณ์พกพาต่าง ๆ หรือจะผ่านระบบบลูทูท ทั้งเป็นโทรศัพท์ และฟังเพลงจากที่มีอยู่

     คุณภาพของเสียงที่ออกมาจากลำโพง 6 จุดนั้น สามารถให้รายละเอียดแทบจะทุกเม็ด หลังจากรับหน้าที่เป็นผู้โดยสารได้กว่าครึ่งค่อนทาง หลังจุดพักรถ ณ หมู่บ้านแกะสลักหินทรายอันขึ้นชื่อ ก่อนเข้าตัวเมืองศรีโสภณ "ประชาชาติธุรกิจ" รับไม้ต่อขอนั่งหลังพวงมาลัย นำพาเจ้า เวลอสเตอร์คันนี้พร้อมเพื่อนร่วมทริปไปยังจุดหมายปลายทางของวันนี้

     หลังจากปรับตำแหน่งที่นั่ง อุปกรณ์อำนวยความปลอดภัยต่าง ๆ ทั้งพวงมาลัย เบาะที่นั่ง กระจกมองข้างซ้าย-ขวา กระจกมองหลังเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เจ้าฮุนได เวลอสเตอร์ รุ่นสแตนดาร์ดคันนี้ พร้อมพุ่งไปข้างหน้าด้วยเครื่องยนต์ขนาด 1.6 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 130 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมช่วงล่างแบบแม็กเฟอร์สัน สตรัต และระบบกันสะเทือนหลัง ทอร์ชั่น บีม ช่วยในเรื่องการเกาะถนนและการทรงตัวได้เป็นอย่างดี ยิ่งเมื่อกดแป้นคันเร่งเรียกความเร็ว การตอบสนองของเครื่องยนต์นั้นทำได้ค่อนข้างดี แม้ว่าช่วงออกตัว หรือจังหวะที่ต้องการเรียกความเร็วอาจจะต้องเค้นเรียกกำลังกันบ้าง แต่เมื่อเครื่องติดลมบน รถคันนี้พร้อมทะยานไปข้างหน้าชนิดที่ไม่มีเหน็ดไม่มีเหนื่อย

     ช่วงขับขี่ก่อนผ่านตัวเมือง "ศรีโสภณ" ก่อนเข้าตัวเมือง "เสียมราฐ" นั้นเป็นถนน 2 เลน วิ่งสวนกันช่วงทางตรงยาวไม่ค่อยมีรถวิ่งสวน ทำให้ขบวนคาราวานสามารถเรียกความเร็วได้พอสมควร วิ่งไปแตะระดับ 130-140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เมื่อกดแป้นความเร็วเพิ่มนั้นดูเหมือนการตอบสนองของเข็มไมล์จะช้าลง ท้ายที่สุดเรียกความเร็วไล่ขึ้นไปได้เกือบระดับ 170 กิโลเมตรต่อชั่วโมง รถคันนี้ทำได้ไม่อายใครถึงเวลอสเตอร์คันนี้จะเน้นความเป็นสปอร์ต แต่ในช่วงความเร็ว ๆ ผ่านทางขรุขระ รถคันนี้ก็ให้ความนุ่มนวลไม่กระด้างจนเกินไป แต่บางจังหวะที่ไม่สามารถหลบหลุมหรือสันคอสะพานได้ทัน ก็มีอาการตัวโยนกันบ้างเล็กน้อยพอเป็นกระษัย

     เรียกได้ว่ารถคันนี้มีมาให้ทั้งความสนุก ความคล่องตัว แถมด้วยความหนึบแน่น ขับสนุก จนไปถึงจดหมายปลายทางที่ "เสียมราฐ" กันอย่างปลอดภัยถึงบรรทัดนี้ ต้องบอกว่าสำหรับผู้ที่กำลังมองหา หรือสนใจฮุนได เวลอสเตอร์คันนี้ ลองแวะเข้าไปทดลองขับที่โชว์รูมฮุนไดทุกสาขา แล้วจะพบว่ารถยนต์ฮุนได เวลอสเตอร์ จะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของผู้ที่ชื่นชอบความแตกต่างแบบมีสไตล์ได้กับราคาค่าตัวที่ 1.299 ล้านบาท

 

คอลัมน์ เทสต์คาร์  โดย วุฒิณี ทับทอง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook