ทรานส์ฟอร์เมอร์ พลัสโฟร์ อัพหรูเพิ่มความสะดวก

ทรานส์ฟอร์เมอร์ พลัสโฟร์ อัพหรูเพิ่มความสะดวก

ทรานส์ฟอร์เมอร์ พลัสโฟร์ อัพหรูเพิ่มความสะดวก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

"ไทยรุ่ง" บริษัทผู้ผลิตรถยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์สัญชาติไทยแท้ ด้วยประสบการณ์ความเชี่ยวชาญมากกว่า 45 ปี ยังคงมุ่งมั่นที่จะรักษาและพยายามสร้างแบรนด์ "ไทยรุ่ง" ให้เข้าไปอยู่ในใจคนไทยเพิ่มมากขึ้น

ล่าสุด ไทยรุ่งหันมาจับกลุ่มตลาดรถอเนกประสงค์ที่ใช้ในทางทหาร ด้วยรุ่น "ทีอาร์ ทรานส์ฟอร์เมอร์" กับบุคลิกลุย ๆ ดุดัน ใช้งานได้สมบุกสมบัน ถึงวันนี้ก็ได้ต่อยอดขยายสู่กลุ่มลูกค้ารถบ้านด้วย

"ทีอาร์ ทรานส์ฟอร์เมอร์ พลัสโฟร์" จึงเกิดขึ้น เป็นการพัฒนาต่อยอดจากรุ่น "ทรานส์ฟอร์เมอร์" เดิม ด้วยการเปลี่ยนหัวใจใหม่ของระบบขับเคลื่อน ด้วยการนำเกียร์อัตโนมัติเข้ามาใส่ พร้อมปรับปรุงส่วนรูปโฉมภายนอกให้มีความสวยงาม การตกแต่งภายในดูหรูหรามากขึ้นจากรุ่นเดิมที่ดูดิบ ๆ ไปสักหน่อยและเพิ่มฟังก์ชั่นการบรรทุก ปรับพื้นกระบะให้เป็นที่นั่งได้ 2 ด้าน ฝาท้ายเปิดใช้งานง่ายสะดวกกว่าเดิม และยังมีออปชั่นที่เพิ่มเข้ามาอีกหลายจุด ทีมงานไทยรุ่งเลยเปิดโอกาสให้บรรดาสื่อมวลชนได้ทดสอบกันเต็ม ๆ คราวนี้

เริ่มต้นภารกิจกันที่ออฟฟิศไทยรุ่ง ย่านเพชรเกษม นำโดย "สมพงษ์ เผอิญโชค" กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยรุ่งยูเนี่ยนคาร์ จำกัด (มหาชน) ที่ให้การต้อนรับคณะสื่อมวลชนและให้ข้อมูลรถ จากนั้นออกมาเตรียมพร้อมขนสัมภาระขึ้นรถ กับรุ่นพลัสโฟร์ แบบมีหลังคาครอบเต็มคัน สีดำดุดัน ดูจากรูปลักษณ์ภายนอก โดดเด่นด้วยขนาดของตัวรถที่ใหญ่ เนื่องจากนำโครงสร้างพื้นฐานมาจากโตโยต้า วีโก้ และนำมาดัดแปลงเพิ่มเติม ทำให้มิติของตัวรถยาวถึง 4,901 มม. กว้าง 1,852 มม. และสูง 1,888 มม. และระยะฐานล้อ 3,085 มม.

สิ่งที่เราเห็นว่ารุ่นนี้มีการปรับเพิ่มจากโมเดลเดิมคือ กระจกมองข้างโครเมียมดีไซน์ใหม่ ไฟเลี้ยวที่พับและปรับได้ด้วยระบบไฟฟ้า จากรุ่นเก่าที่เป็นแบบมือหมุน มือเปิดโครเมียม ประตูท้ายเปิด-ปิดได้จังหวะเดียว เรียกได้ว่าคุ้มค่าเพราะที่นั่งด้านหน้ากว้างขวางสะดวกสบาย ที่นั่งด้านหลังมีพื้นที่วางขาแบบเหลือ ๆ แถมด้านกระบะท้ายเราสามารถโยนสัมภาระข้ามไปวางได้เลย

"ประชาชาติธุรกิจ" อาสารับหน้าที่พลขับเป็นคนแรก จุดหมายปลายทางในวันนี้คือ จ.กาญจนบุรี รวมระยะทางกว่า 150 กิโลเมตร กระโดดเข้าไปในห้องโดยสาร สมาชิกของเราต่างชื่นชอบกันใหญ่ เพราะภายในมีความกว้างขวาง การเชื่อมต่อจุดต่าง ๆ ภายในรถดูพิถีพิถันสวยงามสมเป็นรถบ้านยิ่งขึ้น พร้อมการติดตั้งหน้าจอขนาด 6.1 นิ้ว รองรับระบบความบันเทิงต่าง ๆ

และเพิ่มกล้องมองหลังที่แสดงภาพด้านหลังรถในขณะถอยออก ประจำตำแหน่งกันเรียบร้อย ปรับระดับที่นั่ง กระจก พวงมาลัยเรียบร้อย เริ่มออกเดินทาง เวลาเลี้ยวในช่วงแรก ผู้ขับอาจจะสะดุดนิด ๆ ด้วยเสาเอที่มีขนาดใหญ่

ถือเป็นจุดบังสายตาพอสมควร ต้องขับไปอีกระยะก็จะชิน ซึ่งแม้รถจะขนาดใหญ่มีน้ำหนักไม่รวมน้ำหนักบรรทุกกว่า 2,220 กก. แต่จังหวะการออกตัวรถทำได้ดีนิ่มนวล เครื่องยนต์ 1KD-FTV 4 สูบ 16 วาล์ว ขนาด 3,000 ซีซี ทำงานได้ทรงพลัง จังหวะเร่งแซงเปลี่ยนเกียร์ช่วยอีกนิด รถก็เพิ่มความเร็วไหลไปได้แบบสบาย ๆ ด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด

ขับมาในรูปขบวนมุ่งหน้า จ.นครปฐม ก่อนจะตัดเข้าตัวเมืองกาญจนบุรี ที่ได้รับความสนใจจากประชาชนบนท้องถนนกับหน้าตารถแปลก ๆ ที่ขับมาเป็นขบวน ทั้งสีดำ เทา เขียว ส้ม เส้นทางในช่วง จ.กาญจนบุรี วันนี้มีจุดที่เป็นทางลาดชัน ขึ้นลงเนินเขาเป็นระยะ สมาชิกก็บอกว่ารู้สึกนั่งสบาย ตัวรถไม่มีอาการโยนหรือกระแทกกระทั้นให้ผู้โดยสารด้านหลังบ่น ด้วยระบบกันสะเทือนหลังแบบแหนบซ้อนและโช้กอัพทรงกระบอกติดตั้งทแยงมุมกัน มาถึงจุดหมายกับการแวะทานอาหารที่ร้านอาหารผักหวาน ร้านขึ้นชื่อของที่นี่ เติมพลังเรียบร้อยก็เดินทางเข้าที่พัก เป็นอันเสร็จสิ้นภารกิจขากลับเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ทีอาร์ ทรานส์ฟอร์เมอร์ พลัสโฟร์ ก็ฮอตไม่ใช่น้อย เพราะถึงขนาดมีคนขับรถตามขบวน จนพี่ ๆ ในทริปจอดแวะพักที่ปั๊มน้ำมัน

รถคันที่ขับตามมาบอกว่าเห็นรถแล้วชอบมาก อยากรู้ว่าคือรถยี่ห้ออะไร แถมจดชื่อเว็บไซต์ไทยรุ่งไว้ไปหาข้อมูลต่อด้วย ถึงจะพัฒนามาจนถึงรุ่นปัจจุบัน แต่จะให้ดีกว่านี้ ถ้าภาครัฐให้การสนับสนุน เพราะการใช้โครงสร้างของรถแบรนด์อื่นมาพัฒนาต่อเลย ทำให้เสียภาษี 2 ต่อ ราคาเลยกระโดดไปถึง 1.48 ล้านบาท แต่ก็อุ่นใจได้ด้วยการนำรถเข้าซ่อมที่ศูนย์โตโยต้าทั่วประเทศ อย่างที่ "สมพงษ์" บอก ไทยเป็นฐานการผลิตรถยนต์อันดับหนึ่งของอาเซียน และอันดับต้น ๆ ของโลก แต่เราแทบจะไม่มีแบรนด์รถของคนไทยเลย ทรานส์ฟอร์เมอร์ จึงเป็นเหมือนลมหายใจสุดท้ายของรถยนต์แบรนด์คนไทย ใครรัก ใครชอบรถสไตล์นี้ ลองดูทรานส์ฟอร์เมอร์ไว้ใช้สอยสักคัน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook