ขับรถยังไงไม่ให้โดนตำรวจจับ
เคยมั้ยที่ขับรถอยู่ดีๆ ก็มีตำรวจมาตามจับแล้วบอกว่า คุณได้กระทำผิดในข้อหา "ขับรถผิดช่องทาง" มาแบบนี้ก็มีอึน มึนยิ่งกว่าขับรถหลงทาง จนต้องถามกลับไปอย่างงงๆ ว่า "ผมขับผิดช่องทางยังไง? ก็ขับปกติวิ่งช่องซ้ายบ้าง ขวาบ้างตามแต่จังหวะ ไม่ได้ไปขับช่องทางมอเตอร์ไซค์หรือไหล่ทางสักหน่อยนะครับ" แม้เราจะพูดจาดีมีเหตุผลแต่ตำรวจของประชาชน (บางนาย) ก็เหมือนหูทวนลมแล้วก็เตรียมควักใบสั่งออกมาแจกให้เราซะงั้น บางคนขี้เกียจเสียเวลาไปจ่ายค่าปรับ ก็มักจะทำตามธรรมเนียมเคยชินนั่นก็คือ "ยัดเงิน" แล้วเรื่องก็จบแบบแฮปปี้เอ็นดิ้ง ตำรวจฟิน ประชาชนก็เดินทางกันต่อไป โดยที่หารู้ไม่ว่าคุณได้ตกเป็นเหยื่อของกระบวนการรีดไถของตำรวจนอกรีต (บางนาย) ที่ใช้กฏหมายเป็นเครื่องมือหากิน หากคุณไม่อยากตกเป็นเหยื่อรายต่อไป ความรู้ความเข้าใจในกฏหมายอย่างถูกต้อง คือตัวช่วยสำคัญที่จะทำให้คุณปลอดภัยไม่ถูกคุกคามจากอำนาจมืด
รู้ไว้ไม่โดนจับ
การรีดไถรถบนถนนหลวงโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ เป็นปัญหาเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยสาเหตุหนึ่งคือตำรวจผู้ถือกฎหมาย (บางนาย) ใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือหากิน ในขณะที่ผู้ใช้รถใช้ถนนก็ไม่เข้าใจกฎหมายดีพอ ทำให้เกิดช่องทางในการแสวงหาผลประโยชน์ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "การจับกุมรถที่วิ่งเลนขวา" ข้อหาฮิตบนทางหลวง
กรณีที่พบบ่อย คือ เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ประจำอยู่ตามถนนสายใหญ่ๆ โดยเฉพาะเส้นทางไปแหล่งท่องเที่ยว เช่น ชลบุรี หรือพัทยา มักจะเรียกจับรถด้วยข้อหาแซงแล้วไม่เข้าช่องซ้าย รถบรรทุก รถกระบะ รวมทั้งรถเก๋ง ขอใบขับขี่แล้วเอาไปถือไว้ ทำท่าจะเขียนใบสั่ง ผู้ขับขี่ส่วนใหญ่เดากิริยาท่าทางออก..ส่งเงินให้ เพื่อแลกกับการที่ไม่ต้องเสียค่าปรับที่แพงกว่า และเสียเวลาไปเสียค่าปรับที่โรงพัก (นั่นถือว่าเป็นความคิดและการกระทำที่ผิดนะครับ เราไม่ควรทำอย่างยิ่ง) ตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522 ในมาตรา 34 และ 35 ระบุถึงเรื่องนี้ไว้อย่างชัดเจน ใจความว่า
ถนนที่มีช่องทางเดินรถไปในทิศทางเดียวกันตั้งแต่สองช่องทางเดินรถ ที่รถไม่ต้องแล่นสวนทางกัน รถที่ไดรับการยกเว้นไม่ต้องแล่นในช่องซ้ายตลอดเวลาคือ รถบรรทุกที่มีน้ำหนักไม่เกิน 1,600 กก.หรือ รถปิกอัพ และรถยนต์นั่งส่วนบุคคล หรือรถเก๋ง ส่วนที่แซงในช่องขวาแล้วต้องกลับเข้าช่องซ้ายคือ รถบรรทุก รถโดยสาร รถจักรยานยนต์ หรือรถยนต์ที่แล่นช้ากว่าคันอื่น ทางหลวงสายใหญ่ในเมืองไทยที่ขาไปและขากลับแยกกันคนละฝั่ง ต้องถือว่าเป็นถนนที่เดินรถไปในทิศทางเดียวกัน ตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย ที่ไม่ต้องการให้รถที่ขับสวนทางกันเฉี่ยวชนกัน ถ้าเป็นเช่นนี้การขับรถเก๋งหรือรถปิกอัพในช่องขวาย่อมทำได้ ไม่ผิดกฎหมาย
ดังนั้นตำรวจจะจับหรือจะไถก็ขอให้มีกฎหมายรองรับ ผู้ใช้รถใช้ถนนอย่างเราๆ ทราบอย่างนี้แล้วก็คงสบายใจได้ หากโดนตำรวจเรียกด้วยข้อหานี้อีกทีละก็ "จัดไปอย่าให้เสีย"
อีกกรณีที่เกิดบ่อยก็เรื่องขับรถเร็วเกินกำหนด
ปัจจุบันมีการเอากล้องจับความเร็ว จับความเร็วรถของคุณ ถ้าเกิน 110 -120 ก็โดนเรียกจับที่ด่านหน้า ก็ถือซะว่าฟาดเคราะห์ไป เพราะเราไม่ทันได้สังเกต หากคุณไม่อยากโดนจับในกรณีนี้ล่ะก็ โปรดสังเกตรถยกฉุกเฉินที่จอดไหล่ทางด้านขวา ซึ่งจะมีกล้องจับความเร็วรถคุณอยู่ จุดที่มักพบบ่อย ได้แก่ (มิตรภาพไปโคราช) หรือรถตู้สีขาวเปิดท้าย (ข้ามคลองระพีพัฒน์ อ.หนองแค เข้ากรุงเทพฯ) หรือเพชรเกษม ช่วงปากท่อ ไป เพชรบุรี พระราม 2 ก่อนข้ามสะพานแม่น้ำแม่กลอง ขาเข้ากรุงเทพฯ และบนเสาป้ายทางด่วน ทุกที่เขาจะเปิดทางให้คุณได้วิ่งอย่างสุดมัน ก่อนจะมีกรวยบีบให้ท่านวิ่งเลนเดียวเพื่อคัดแยกรถที่ขับเร็วเกินกำหนดให้ลงไปเสียค่าปรับ กรณีนี้ถือว่าคุณผิดเต็มประตูครับเสียค่าปรับอย่างเดียว ทางที่ดีขับปกติไม่เกินความเร็ว ปลอดภัย และสบายใจกว่าเยอะ
ใช้รถใช้ถนนควรทำตามกฏจราจรเพื่อความปลอดภัยของคุณและผู้อื่น อย่าลืมนะครับ
รถมือสอง รถยนต์ มอเตอร์ไซค์ ที่ ENNXO
ภาพประกอบ : thaivisa.com, rodtidgas.com, bt-50.com