5 เทคนิคเด็ดช่วยแก้อาการ 'หลับใน' ขณะขับรถ
อาการง่วงซึมขณะขับรถถือเป็นอันตรายอย่างยิ่ง เพราะอาจก่อให้เกิดอาการเผลอหลับในโดยไม่รู้ตัว ก่อให้เกิดอุบัติเหตุรุนแรงมากกว่าที่คิด โดยเฉพาะเมื่อขับรถด้วยความเร็วสูง
แต่ในเมื่อบ้านก็ต้องกลับ จะง่วงขนาดไหนหลายคนก็ยังต้องฝืนขับต่อไป Sanook! Auto จึงขอแนะนำ 5 เทคนิคพิชิตความง่วงขณะขับรถมาฝากกันครับ
1.ทานอาหารให้น้อยที่สุดก่อนขับรถ
หากรู้ตัวว่าต้องขับรถทางไกล ก่อนขับรถไม่ควรรับประทานอาการอิ่มจนเกินไปไม่ว่าจะเป็นมื้อกลางวันหรือมื้อเย็น หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดแม้ว่าจะจิบเพียงนิดหน่อยก็ตาม วิธีนี้จะช่วยลดโอกาสง่วงซึมลงไปได้เป็นอย่างดี
2.จิบเครื่องดื่มเย็นที่มีน้ำแข็ง
หากไม่แน่ใจว่าจะมีอาการง่วงซึมขณะขับรถ ควรหาซื้อเครื่องดื่มเย็นแบบผสมน้ำแข็งคอยจิบอยู่เรื่อยๆ ความเย็นของเครื่องดื่มจะช่วยกระตุ้นให้ตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา หากเริ่มมีอาการง่วงก็เคี้ยวน้ำแข็งไปแล้ว รับรองเย็นสดชื่นสบายใจ
3.ขยับร่างกายมากขึ้นอีกนิด
หนึ่งในพฤติกรรมของผู้ที่มีอาการง่วงซึมหรือหลับในขณะขับรถ ก็คือการนั่งท่าเดียวเป็นระยะเวลานานๆ ไม่ขยับเขยื้อนร่างกายมากนัก ดังนั้น หากรู้ตัวว่ามีอาการง่วง ควรขยับร่างกายบ้างเท่าที่ทำได้ เช่น หันซ้าย-หันขวาเร็วๆ, ยืดร่างกาย, เปลี่ยนเพลงหรือคลื่นวิทยุ เป็นต้น จะช่วยไม่ให้เหม่อลอยจนกระทั่งเผลอหลับในได้
4.ใช้สเปรย์น้ำแร่เย็นๆ
การใช้สเปรย์น้ำแร่ฉีดใบหน้า จะช่วยให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่าขึ้นได้ จึงควรซื้อหาติดรถเอาไว้บ้างก็ดีเหมือนกัน ยิ่งถ้าน้ำแร่เย็นๆล่ะก็ ฉีดทีเดียวรับรองสะดุ้งตื่นแน่นอนครับ
5.เร่งความเร็วรถกะทันหัน
หากรู้สึกง่วงๆ การเพิ่มความเร็วรถแบบกะทันหันจะช่วยกระตุ้นอะดรีนาลีนในร่างกายให้เกิดความตื่นเต้นได้ วิธีก็เพียงกดคันเร่งลงไปหนักๆ ให้ความเร็วรถเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว พอรู้สึกตื่นตัวแล้วก็กลับมาใช้ความเร็วปกติตามเดิม แต่อย่าลืมเน้นที่ความปลอดภัยเป็นหลักด้วยนะครับ
หากวิธีที่ทำมาทั้งหมดนี้ยังไม่ได้ผลแล้วล่ะก็ ควรจอดแวะปั๊มน้ำมันนอนงีบสัก 10-15 นาที อย่าลืมจอดที่จุดที่มีแสงสว่างเพียงพอ ดับเครื่องยนต์แล้วแง้มกระจกทิ้งไว้ให้อากาศถ่ายเท หรือถ้าอยากนอนเปิดแอร์เย็นๆ ก็ควรตั้งนาฬิกาปลุกให้ตื่นภายใน 15 นาทีเป็นอย่างช้า หลังจากตื่นแล้วก็ล้างหน้าล้างตาเพิ่มความกระชุ่มกระชวยก่อนเดินทางต่ออย่างปลอดภัยครับ