ยอดจำหน่าย Mazda ในสหรัฐอเมริกา ลดลง 7.8% แต่ในรุ่น CX-9 มีการเติบโตเพิ่มขึ้นมากกว่า 30 เท่าตัว

     ในวันที่ 3 พฤษภาคม ที่ผ่านมา บริษัท Mazda ในสหรัฐอเมริกาได้ออกมาประกาศถึงยอดจำหน่ายรถยนต์ใหม่ของเดือนเมษายนในสหรัฐอเมริกาโดยมีจำนวนทั้งหมด 24,164 คัน ลดลง 7.8% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน หลังจากที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องติดต่อกันมา 4 เดือน

     ในกลุ่มของรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ยอดจำหน่ายหลักมาจาก Mazda 6 (ชื่อในญี่ปุ่น ATENZA) จำนวน 2,249 คัน ซึ่งลดลง 42.8% และเป็นการลดลงต่อเนื่องติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3

     ในส่วนของ Mazda 3 (ชื่อในญี่ปุ่น AXELA) จำนวน 5,980 คัน ลดลง 44.2% เป็นการลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 12 ส่วนในรุ่นก่อนหน้าอย่าง Mazda 2 (ชื่อในญี่ปุ่น DEMIO) ได้สิ้นสุดการจำหน่ายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนรุ่น Mazda 5 (ชื่อในญี่ปุ่น PREMACY) ก็ได้ถูกพิจารณาหยุดการผลิตและในเดือนเมษายนที่ผ่านมาก็มียอดจำหน่ายเพียงแค่ 1 คันเท่านั้น

     ในด้านของรถบรรทุกเล็ก Light Truck (Pickup หรือ SUV) ในรุ่น SUV อย่าง CX-5 มียอดจำหน่าย 11,334 คัน หลังจากวางจำหน่ายในรุ่นใหม่มีสัดส่วนเติบโตเพิ่มขึ้น 28.4% หลังจากที่ลดลงมานานกว่า 6 เดือน ส่วนในรุ่น CX-9 มียอดจำหน่าย 2,134 คัน เพิ่มขึ้นกว่า 30 เท่าตัวและเป็นการเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 11 ส่วนรุ่น CX-3 มีจำนวน 1,147 คัน ลดลง 23.7% เป็นการลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4

     ด้านของรถสปอร์ตอย่าง MX-5 MIATA (ชื่อญี่ปุ่น Roaster) มียอดจำหน่าย 1,319 คัน เพิ่มขึ้น 21.5% เพิ่มขึ้นกว่าช่วงปีก่อนหน้าเป็นเดือนที่ 5

     ยอดจำหน่ายรถยนต์ใหม่ของ Mazda ปี 2016 ในสหรัฐอเมริกามีจำนวนทั้งหมด 297,773 คัน ลดลง 6.7% ถือเป็นการปรับเปลี่ยนเป็นทิศทางติดลบ แต่ในช่วงเดือนมกราคมถึงเดือนเมษายน 2017 มีจำนวน 93,235 คัน เพิ่มขึ้น 2.6% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อนหน้า

บทความจาก Response
ผู้แปล TUM GARAGE