เก๋งมือ 2 ร่วง แสนบาท เบนซ์เหลือคันละล้าน

 

มาตรการของรัฐบาลเกี่ยวกับรถยนต์คันแรก ที่ได้รับเงินภาษีคืน 1 แสนบาท นั้นส่งผลกระทบต่อตลาดรถยนต์ มือสอง ทำให้ต้องปรับลดราคาลงมาอย่างมาก โดย ณ วันนี้ราคาร่วงลงคันละ 4 หมื่นถึง 1 แสนบาท

แหล่งข่าวผู้ประกอบการรถยนต์มือ 2 รายใหญ่ เปิดเผย "สยามธุรกิจ" ว่า ราคารถมือสองที่คาดว่าจะปรับลดลงนั้นใกล้เคียงกับรุ่นของรถที่อยู่ในเกณฑ์โครงการรถคันแรกที่ได้รับเงินคืนจากรัฐบาล โดยรถกระบะมือสองคาดว่าปรับลดลงอีก 9,000 ถึง 6 หมื่นบาท ส่วนรถเก๋งมือสองปรับลดลงอีก 4 หมื่นถึง 1 แสนบาท เพราะหากรถมือสองมีราคาใกล้เคียงกับรถป้ายแดง ลูกค้าก็ต้องเลือกซื้อรถป้ายแดงอยู่แล้ว ราคารถมือสองจึงต้องถูกปรับลดราคาตามกลไกตลาดโดยอัตโนมัติ

"ลูกค้าที่กำลังผ่อนรถมือสองอยู่ได้รับผลกระทบแน่ หากปล่อยให้ตัวเองเป็นหนี้เสียหรือให้รถถูกยึด เพราะเมื่อไฟแนนซ์ นำรถออกขายทอดตลาด ก็ต้องขาดทุนเพิ่มอีกหลายหมื่นบาท และคงต้องมีการฟ้องร้องเรียกหนี้ส่วนที่เหลือคืน จากเดิมในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมาราคารถมือสองได้ปรับราคาเพิ่มขึ้น 10-15% ทำให้เวลาไฟแนนซ์ยึดรถเข้ามาและนำรถออกขายทอดตลาดก็จะได้ราคาใกล้เคียงกับมูลหนี้ที่ค้างไว้อยู่ ไฟแนนซ์จึงไม่ต้องไปฟ้องร้อง กับลูกหนี้อีก ดังนั้น ต่อไปนี้ลูกหนี้จึงต้องดูแลตัวเองให้ดีๆ"

โดยขณะนี้รถยนต์มือสอง ถือว่าอยู่ในภาวะน่าเป็นห่วง แต่ก็ยังพอมีเวลาในการปรับตัว และเชื่อว่าผู้ประกอบการรถยนต์มือ 2 คงจะสามารถระบายรถยนต์ ในสต็อกออกไปได้ ซึ่งอาจจะต้องยอมขาดทุนกำไรต่อคันบ้าง เพื่อให้ธุรกิจสามารถเดินหน้าต่อไป

แต่อย่างไรก็ตาม เต็นท์รถยนต์มือ 2 ต้องมีกลยุทธ์เพื่อให้ตัวเองอยู่รอด ส่วนจะทำอย่างไรนั้นก็ต้องขึ้นอยู่กับแนวทางการบริหารจัดการของแต่ละเต็นท์ แต่ที่เห็นคือต้องเร่งระบายรถในสต็อกออกไปก่อน เพราะราคาตก

ขณะที่รถหรูมือสองก็ตกอยู่ในสถานการณ์ไม่แตกต่างกันเท่าไหร่ โดยเฉพาะรถเมอร์เซเดสเบนซ์ที่เจ้าของแบรนด์ "เมอร์เซเดสเบนซ์ ประเทศไทย" ลดราคารถหลายรุ่นลงมาจากเดิมประมาณ 15-20% เพื่อดึงลูกค้าจากเกรย์มาร์เก็ตมาให้ได้มากที่สุด อย่างเมอร์เซเดสเบนซ์ ซี-คลาส ปัจจุบันขายเริ่มต้นเพียง 2 ล้านบาท หรือรุ่นนำเข้าอย่าง เมอร์เซเดสเบนซ์ ซีแอลเอส ราคาเดิมเริ่มต้นประมาณ 4.8 ล้านบาท รุ่นใหม่ปรับลงมาเป็น 4.6 ล้านบาท เป็นต้น

นางสาววรรณภา ตั้งบรรยงค์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เบนซ์ อมรรัชดา กรุ๊ป กล่าวว่า ในขณะนี้ต้องยอมรับว่าวางแผนการตลาดยากมาก การแข่งขันรถมือสองเมอร์เซเดสเบนซ์ค่อนข้างรุนแรง ไม่ว่าจะเป็นการเข้ามาของรายใหม่ๆ ทำให้ลำบากในการหารถเข้ามาขาย และยังต้องมีการแข่งขันราคา อีก จึงทำให้ยอดขายตกลงไปประมาณ 20% จากยอดขายปกติ แต่ที่สำคัญคือ ผลกระทบจากการปรับราคารถใหม่ลงของ เมอร์เซเดสเบนซ์ ประเทศไทย ส่งผลให้ราคารถเบนซ์มือสองต้องปรับราคาลงตาม โดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 5%

"เราต้องยอมขายขาดทุน เพราะมีสต็อกรถที่ซื้อเขามาก่อนหน้านี้ จึงจำเป็นต้องปรับราคาลงยอมขาดทุนเพื่อระบายสต็อกเก่าออกไป อย่างเช่นรุ่นซีแอลเอสเดิมซื้อเข้ามาประมาณ 4.5 ล้านบาท ปัจจุบันเหลือเพียง 3.6 ล้านบาท"

แต่เมื่อราคารถมือ 1 ถูกลง ราคาซื้อเข้าในอนาคตก็จะถูกลงตามช่องว่าง ราคาก็จะห่างกันปกติเท่าเดิม เลยไม่กระทบอะไรกับเรามาก แต่ที่น่าจะกระทบ หนักก็คือรถญี่ปุ่นที่มีราคากว่า 1 ล้านบาทขึ้นไป เพราะเพิ่มเงินอีกนิดเดียวก็ได้ขับรถเบนซ์แล้ว ซึ่งในปัจจุบันราคารถเบนซ์ ลงมาเหลือคันละกว่าล้านบาทในบางรุ่น

ขณะเดียวกันนายเอกพิทยา เอี่ยมคงเอก กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สหการประมูล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาราคารถยนต์มือสองที่ซื้อ-ขายผ่านการประมูลปรับตัวลดลงต่อเนื่อง โดยราคาเฉลี่ยรถเก๋งลดลง 16.5% เนื่องจากมีสินค้าออกสู่ตลาดมากขึ้นจากโครงการรถยนต์คันแรก นอกจากนี้การที่สถาบันการเงินปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถมาก มีส่วนทำให้ปีนี้จำนวนรถยึดจากไฟแนนซ์จะเพิ่มจำนวนขึ้น โดยเฉพาะ รถเก๋งขนาดเล็กประเภท 1500 cc ลงมา ปัจจัยดังกล่าวจะทำให้รถยนต์เข้าสู่ตลาดรถมือสองมากขึ้น

ระดับราคาอ่อนตัวลงประมูลซื้อรถยนต์มือสองราคารถขนาด 1300-1500 cc (ปี 2006-2008) อยู่ในระดับราคาคันละ 257,600-295,780 บาท และ รถยนต์ 1600-2000 cc (ปี 2006-2008) อยู่ที่คันละ 370,500-399,650 บาท ส่วนราคาประมูลเฉลี่ยรถกระบะเดือนมิถุนายน ที่ผ่านมาอยู่ที่คันละ 286,390 บาท โดยราคาปรับตัวลด 12% ต่อเนื่อง 2 เดือน ทั้งนี้ ราคาประมูลเฉลี่ยกระบะ Single Cab ปรับตัวลดลง 10.4% ขณะที่ราคาประมูล เฉลี่ยกระบะ Club Cab ปรับตัวลดลง 7.2% และ Double Cab ปรับตัวลดลง 11.9% เมื่อเทียบกับเดือนก่อน

ช่วงนี้จึงเป็น "โอกาสทองของผู้ซื้อ" จริงๆ ทั้งจากแคมเปญรถใหม่ และรถมือสองที่ปัจจุบันราคาลดลงมากถึง 25% เพียงแต่ต้องเลือกผู้ขายที่มีความน่าเชื่อถือและมีมาตรฐาน