รีวิว Suzuki Ciaz RS 2017 อีโคคาร์อ็อพชั่นครบ มีดีที่ความประหยัด

     แม้ว่าเราจะเคยปล่อยรีวิวทดสอบ Suzuki Ciaz RS ใหม่ ไปครั้งหนึ่งแล้ว คราวนี้เราลองมาสัมผัสความประหยัดของอีโคคาร์คันนี้ดูบ้าง ซึ่งมีดีไม่แพ้หน้าตาที่หล่อเหลาของมันเลย

     Suzuki Ciaz 2017 เป็นรถอีโคคาร์ซีดาน 4 ประตู ซึ่งปัจจุบันมีคู่แข่งตรงอยู่อีก 2 ค่าย ได้แก่ นิสสันและมิตซูบิชิ แม้ว่าซูซูกิจะมาทีหลังคู่แข่งทั้งสองเจ้า แต่ก็อาศัยความได้เปรียบในการพัฒนาตัวรถให้ดูสวยงามลงตัวมากกว่าอย่างเห็นได้ชัด

     ปัจจุบัน Suzuki Ciaz 2017 มีวางจำหน่ายทั้งหมด 5 รุ่นย่อยด้วยกัน แบ่งออกเป็นเกียร์ธรรมดาจำนวน 2 รุ่น และเกียร์อัตโนมัติอีก 3 รุ่น เริ่มตั้งแต่รุ่น GA MT เกียร์ธรรมดา ไม่มีชุดเครื่องเสียง ไม่มีระบบเบรก ABS และเป็นล้ออัลลอยไม่มีฝาครอบ วางจำหน่ายในราคา 484,000 บาท

     ขณะที่รุ่น RS CVT ที่เรามีโอกาสทดสอบในครั้งนี้ ถูกวางให้เป็นรุ่นท็อปสุดที่มีอุปกรณ์มาตรฐานครบครันมากที่สุด มาพร้อมชุดแต่งดีไซน์สปอร์ตรอบคันจากโรงงาน

     ดีไซน์ภายนอกของ Suzuki Ciaz RS ถือเป็นรถที่ออกแบบได้อย่างลงตัวมากรุ่นหนึ่งเลยทีเดียว ทั้งสัดส่วนฝากระโปรงหน้า ฝากระโปรงท้าย และความยาวฐานล้อระดับเดียวกับ B-Segment เครื่องยนต์ 1,500 ซีซี

     ด้านหน้าเพิ่มความหรูหราด้วยไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์ฮาโลเจน ออกแบบรับกับกระจังหน้าโครเมียม ติดตั้งไฟตัดหมอกคู่หน้าบริเวณกันชน เสริมความหล่อด้วยสเกิร์ตรอบคัน พร้อมสปอยเลอร์บนฝากระโปรงหลัง ติดตั้งกระจกมองข้างปรับ/พับด้วยไฟฟ้าพร้อมไฟเลี้ยว ตกแต่งด้วยโครเมียมบริเวณขอบหน้าต่างและที่เปิดประตู ตัวถังวางอยู่บนล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว พร้อมยางขนาด 195/55 R16

     รายละเอียดด้านมิติตัวถังของ Suzuki Ciaz RS 2017

-    ความยาว 4,505 มิลลิเมตร
-    ความกว้าง 1,730 มิลลิเมตร
-    ความสูง 1,475 มิลลิเมตร
-    ความยาวฐานล้อ 2,650 มิลลิเมตร
-    ความสูงใต้ท้องรถ 160 มิลลิเมตร

     ภายในห้องโดยสารถูกออกแบบให้มีความเรียบง่ายแต่แฝงด้วยความหรูหรา แม้ว่าวัสดุส่วนใหญ่ภายในห้องโดยสารจะเป็นยังคงพลาสติกแข็ง แต่ก็ยังให้ความรู้สึกมีราคา น่าใช้งาน

     เบาะนั่งถูกหุ้มด้วยวัสดุหนังแท้สลับกับหนังสังเคราะห์ เบาะนั่งฝั่งผู้ขับสามารถปรับระดับสูง-ต่ำได้ ขนาดของเบาะถือว่ากำลังดี นั่งโดยสารได้สบาย ฟองน้ำในตัวเบาะเน้นความนุ่มนวล ขณะที่ปีกเบาะให้ความโอบกระชับพอประมาณ ไม่รู้สึกอึดอัด แต่ก็อาจทำให้ร่างกายของผู้โดยสารขยับไปมาขณะเข้าโค้งแรงๆได้

     ขณะที่ห้องโดยสารด้านหลังถือเป็นไฮไลท์ของรถรุ่นนี้ ด้วยพื้นที่วางขาที่สามารถนั่งไขว่ห้างได้สบายๆ ขณะที่พื้นที่เหนือศีรษะอาจถูกเบียดบังจากแนวหลังคาที่ลาดเทไปบ้าง แต่สำหรับผู้เขียนที่มีระดับความสูง 173 เซนติเมตร ก็สามารถนั่งโดยสารหลังตรงได้โดยที่ศีรษะไม่ชนกับหลังคา พนักพิงถูกติดตั้งที่วางแขนแบบพับได้พร้อมช่องวางแก้วน้ำ 2 ตำแหน่ง

     แต่น่าเสียดายที่พนักพิงศีรษะสำหรับผู้โดยสารตอนหลังเป็นแบบยึดตายทุกรุ่นย่อย ไม่สามารถปรับสูง-ต่ำได้ เวลาที่ผู้เขียนโดยสารเบาะหลังแบบนั่งหลังชิดพนักพิง ตัวหมอนรองศีรษะจะอยู่ในระดับต้นคอพอดี หากโดยสารนานๆ อาจทำให้เมื่อยคอได้ อาจแก้ปัญหาด้วยวิธีเขยิบตำแหน่งสะโพกไปด้านหน้าเล็กน้อย เพื่อให้หมอนรองคอตรงกับศีรษะ อย่างไรก็ดี ความเอนของเบาะนั่งถูกเซ็ทมาค่อนข้างดี สามารถโดยสารได้โดยไม่อึดอัด ถือเป็นอีโคคาร์ทีมีห้องโดยสารด้านหลังนั่งสบายมากที่สุดรุ่นหนึ่งในขณะนี้

     ฝั่งผู้ขับขี่ติดตั้งพวงมาลัยแบบ 3 ก้านดีไซน์เดียวกับ Swift พร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียงและปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์ มาตรวัดความเร็วถูกออกแบบให้อ่านง่าย ติดตั้งหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ ที่สามารถแสดงข้อมูลที่จำเป็นต่างๆ เช่น อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย, ระยะทางที่วิ่งได้จากปริมาณน้ำมันที่เหลือ, อุณหภูมิภายนอกรถ เป็นต้น

     จุดเด่นของ Ciaz RS ก็คือชุดเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสที่ติดตั้งอยู่ในรุ่นท็อปสุดเพียงรุ่นเดียวเท่านั้น ซึ่งเป็นหน้าจอขนาด 7 นิ้ว มีระบบนำทางให้ในตัว รองรับแผ่น CD/MP3/WMA สามารถเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือผ่าน Bluetooth รวมถึงยังสามารถรองรับ Apple CarPlay ได้อีกด้วย ซึ่งการใช้งานระบบดังกล่าวจะต้องเชื่อมต่อผ่านสาย USB เข้ากับสมาร์ทโฟนระบบ iOS เท่านั้น หากเชื่อมต่อผ่านบลูทูธปกติจะไม่สามารถใช้งานระบบ Apple CarPlay ได้

     เครื่องเสียงชุดดังกล่าวถูกขับกำลังเสียงผ่านลำโพงทั้งหมด 4 จุด และทวีตเตอร์ด้านหน้าอีก 2 จุด ซึ่งคุณภาพเสียงถือว่าพอรับได้ เหมาะสำหรับฟังเพลงหรือวิทยุทั่วไป แต่อาจไม่ถูกใจคอเบสเท่าไหร่นัก หากเน้นคุณภาพเสียงจริงๆ ก็น่าจะไปอัพเกรดเพิ่มเติมภายหลังได้ไม่ยาก หรือถ้าไม่ซีเรียสมากก็ถือว่าเพียงพอกับการใช้งานแล้ว

     Ciaz RS มาพร้อมกับระบบปรับอากาศอัตโนมัติยกชุดมาจาก Swift เช่นกัน ซึ่งจะติดตั้งในรุ่น GLX และ RS เท่านั้น ให้ความเย็นรวดเร็วทันใจไม่แพ้รถยี่ห้ออื่น แต่ก็น่าเสียดายที่ไม่ติดตั้งช่องแอร์ด้านหลังมาให้เหมือนกับสเป็คอินเดีย แม้ว่าเซียสเองจะไม่ได้มีปัญหาเรื่องการกระจายความเย็นไปด้านหลังเท่าไหร่นัก แต่หากติดตั้งช่องแอร์หลังมาให้ด้วยจะถือว่าเป็นจุดขายที่ดีมากทีเดียว

     ด้านระบบความปลอดภัยทุกรุ่นย่อยถูกติดตั้งถุงลมนิรภัยคู่หน้า SRS, ระบบเบรกป้องกันล้อล็อค ABS พร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD (ยกเว้นรุ่น GA MT), วงจรเพิ่มแรงดันเบรก BA, เข็มขัดนิรภัยพร้อมระบบดึงกลับอัตโนมัติแบบ 3 จุด จำนวน 4 ที่นั่ง และแบบ 2 จุดอีก 1 ที่นั่ง เป็นต้น

     รายละเอียดด้านขุมพลังของ Suzuki Ciaz RS 2017

-    เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.25 ลิตร รหัส K12B
-    กำลังสูงสุด 91 แรงม้า (PS) / 6,000 รอบต่อนาที
-    แรงบิดสูงสุด 118 นิวตัน-เมตร / 4,800 รอบต่อนาที
-    เกียร์อัตโนมัติ CVT
-    อัตราทดเกียร์ 4.006 – 0.550
-    เฟืองท้าย 3.757
-    ระบบเบรกหน้า ดิสก์
-    ระบบเบรกหลัง ดรัม

     เริ่มต้นออกเดินทางจากพิษณุโลก มุ่งหน้ากลับมายังสำนักงานใหญ่ของ บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด บริเวณถนนอ่อนนุช ซึ่งระหว่างทางมีการทดสอบขับขี่ประหยัดเชื้อเพลิงด้วย

     สำหรับระยะทางการทดสอบขับขี่ประหยัดน้ำมันจากโรงแรมในตัวเมืองพิษณุโลก ไปยังร้านอาหารกลางวันที่กำหนดไว้ คิดเป็นจำนวนทั้งสิ้น 137 กิโลเมตร โดยมีเงื่อนไขว่าจะต้องใช้เวลาไม่เกิน 120 นาที หรือ 2 ชั่วโมงเท่านั้น และแอร์จะถูกปรับตั้งไว้ที่อุณหภูมิ 23 องศาเซลเซี่ยส พร้อมกับซีลด้วยเทปกาวเพื่อป้องกันการปิดแอร์

     หากคิดคร่าวๆ ก็น่าจะใช้ความเร็วเฉลี่ยประมาณ 70 กม./ชม. เพื่อที่จะถึงจุดหมายปลายทางตามเวลาพอดีใช่ไหมครับ? แต่ในความเป็นจริง เส้นทางดังกล่าวมีการขับขี่ผ่านเขตเมือง รวมถึงมีแยกไฟแดงเยอะพอสมควร หากขับขี่ด้วยความเร็ว 70 กม./ชม. ก็คงไม่ถึงจุดหมายตามเวลาเป็นแน่

     ดังนั้น ความเร็วจริงที่ใช้โดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 90-110 กม./ชม. ตามสภาพการจราจรในขณะนั้น ซึ่งถือว่าใกล้เคียงกับการใช้งานจริงที่สุด (เพราะบางคนขับช้ากว่านี้ด้วยซ้ำไป) เมื่อมาถึงยังจุดหมาย ตัวเลขที่หน้าจอ MID บอกว่าเราทำตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ยอยู่ที่ 22.8 กม./ลิตร ซึ่งค่อนข้างเหนือคาดเลยทีเดียว เพราะรถรุ่นนี้ถูกเคลมอัตราสิ้นเปลืองเอาไว้ที่ 20 กม./ลิตร แถมคราวนี้เรายังใช้ความเร็วกันพอสมควร ก็ยังสามารถทำตัวเลขเกิน 20 ไปได้ ส่วนคันที่ได้อัตราสิ้นเปลืองเป็นรองจากคันผู้เขียน ก็เกาะกลุ่มใกล้กันอยู่ที่ 22.7 กม./ลิตร เท่านั้นเอง จึงถือว่าประหยัดคุ้มค่าเป็นอย่างมาก

     ส่วนการขับขี่ของ Ciaz RS นั้น แม้ว่าจะใช้ช่วงล่างชุดเดียวกันกับ Ciaz รุ่นอื่น แต่ด้วยความที่ติดตั้งล้อขนาด 16 นิ้ว ต่างจากรุ่นอื่นที่เป็นล้อขนาด 15 นิ้ว ทำให้มีความรู้สึกหนึบขึ้นเล็กน้อย เก็บอาการโยนได้ดีกว่ารุ่นล่างนิดหน่อย แต่ก็ไม่ได้แตกต่างกันมากเท่าไหร่นัก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ช่วงล่างของ Ciaz ก็ถือว่าเซ็ทมาในแนวนุ่มนวล ต่างจาก Swift ที่มีความแข็งกว่าอย่างชัดเจน รวมถึงฐานล้อที่ค่อนข้างยาว ทำให้ดูมีบุคลิกความเป็นผู้ใหญ่มากกว่า

     น้ำหนักพวงมาลัยในความเร็วต่ำถือว่าค่อนข้างเบา หมุนง่าย ช่วยให้การขับขี่ในเมืองคล่องตัว แต่ในขณะเดียวกันเมื่อใช้ความเร็วสูง น้ำหนักกลับไม่ได้เพิ่มขึ้นเท่าที่ควรนัก ทำให้การขับขี่ด้วยความเร็วไม่รู้สึกมั่นใจเท่าที่ควร แต่ทั้งนี้ ตัวรถยังอยู่ในการควบคุมของผู้ขับขี่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์

     ด้านสมรรถนะจากเครื่องยนต์ก็ถือว่าอยู่ในระดับอีโคคาร์เครื่องยนต์เบนซิน 1.2 ลิตรทั่วไป ถือว่าเพียงพอกับการใช้งานทั่วไปที่ไม่ได้รีบร้อนนัก กำลังเท่านี้ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานในเมือง แต่เมื่อขับขี่ออกนอกเมือง คงต้องเพิ่มความระมัดระวังในการแซงเพิ่มขึ้นนิดหน่อยเมื่อเทียบกับรถยนต์ขนาด 1.5 ลิตร แลกกับความประหยัดที่เห็นได้อย่างชัดเจน

     สรุป Suzuki Ciaz RS 2017 ใหม่ เป็นรถอีโคคาร์ซีดานที่มีดีไซน์ลงตัวมากที่สุดเมื่อเทียบกับคู่แข่งระดับเดียวกัน ห้องโดยสารภายในกว้างขวาง สามารถบรรทุกผู้โดยสาร 5 คนพร้อมสัมภาระท้ายรถได้อย่างสบาย สมรรถนะเครื่องยนต์เหมาะสำหรับขับขี่ในเมืองเป็นหลัก ออกต่างจังหวัดบ้างเป็นบางครั้ง

     ส่วนอ็อพชั่นภายในถือว่ามีให้ครบครัน เครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสใช้งานง่ายและดูสวยงามลงตัว รองรับระบบนำทางและ Apple CarPlay ได้ แต่จุดเด่นสำคัญคงหนีไม่พ้นความประหยัดที่ดีกว่าเครื่องยนต์ 1.5 ลิตรอย่างเห็นได้ชัด ถ้าใครเน้นจุดนี้เป็นพิเศษรับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอน

     ราคาจำหน่าย Suzuki Ciaz RS 2017 ใหม่ อยู่ที่ 675,000 บาท

 

     ขอขอบคุณผู้บริหารและฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ที่ให้เกียรติเชิญเข้าร่วมทดสอบในครั้งนี้