8 สิ่งน่ารู้ใน Mercedes-Benz X-Class 2017 ใหม่ กระบะรุ่นนี้ไม่ธรรมดา..!
Mercedes-Benz X-Class 2017 ใหม่ ถูกเปิดตัวอย่างเป็นทางการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว วันนี้ Sanook! Auto จะพาไปรู้จักจุดเด่นของกระบะหรูสายพันธุ์เยอรมันคันนี้ บอกเลยว่าไม่ธรรมดาอย่างที่คิด
1.พัฒนาขึ้นร่วมกันกับ Renault-Nissan Alliance
Mercedes-Benz X-Class ใหม่ ถือเป็นความร่วมมือกันระหว่าง Daimler AG และ Renault-Nissan Alliance โดยใช้โครงสร้างพื้นฐานร่วมกับกระบะจากญี่ปุ่นอย่าง Nissan Navara รวมถึง Renault Alaskan ที่มีแผนเปิดตัวในเร็ววันนี้ด้วย
2.ตัวถังใหญ่กว่า Nissan Navara ทุกมิติ
ตัวถังของ Mercedes-Benz X-Class ใหม่ มีขนาดความยาวมากกว่า Nissan Navara ในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็น..
- ความยาวตัวถัง 5,340 มิลลิเมตร (Navara 5,230 มม.)
- ความกว้างตัวถัง 1,920 มิลลิเมตร (Navara 1,790 มม.)
- ความสูง 1,818 มิลลิเมตร (Navara 1,775 มม.)
อย่างไรก็ดี รถกระบะทั้ง 2 รุ่นถูกพัฒนาขึ้นบนแพล็ตฟอร์มเดียวกัน ทำให้มีความยาวฐานล้ออยู่ที่ 3,105 มิลลิเมตรเท่ากันพอดี
3.มีให้เลือกทั้งหมด 3 ดีไซน์
Mercedes-Benz X-Class 2017 มีให้เลือกทั้งหมด 3 ดีไซน์ ขึ้นอยู่กับการใช้งานของลูกค้าแต่ละราย ได้แก่
- X-Class Pure เน้นการใช้งานที่สมบุกสมบันตามฉบับรถเพื่อการพาณิชย์ แต่ยังให้ความหรูหราพอที่จะขับไปพบลูกค้าหรือซัพพลายเออร์ได้อย่างไม่เคอะเขิน ติดตั้งกันชนหน้า-หลังสีดำ
- X-Class Progressive เน้นการใช้งานในแบบกระบะแต่ต้องการความหรูหราและอ็อพชั่นที่เพิ่มขึ้น ติดตั้งกันชนหน้า-หลังสีเดียวกับตัวรถพร้อมล้ออัลลอย สามารถใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวัน
- X-Class Power เน้นการใช้งานเชิงไลฟ์สไตล์ เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการผจญภัยและกีฬา ติดตั้งอุปกรณ์มาตรฐานมาให้มากที่สุด ตกแต่งด้วยโครเมียมบริเวณกันชนหน้า-หลัง สามารถเลือกล้ออัลลอยได้ทั้งขนาด 17, 18 และ 19 นิ้ว
4.มีทั้งเครื่องยนต์ดีเซลและเบนซิน
ในช่วงแรก X-Class จะมีเครื่องยนต์ให้เลือกทั้งดีเซลและเบนซิน ดังนี้
- X220d ติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบเดียว 2.3 ลิตร 163 แรงม้า
- X250d ติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบคู่ 2.3 ลิตร 190 แรงม้า
- เครื่องยนต์เบนซิน 165 แรงม้า (เฉพาะตลาดบางประเทศ)
ระบบส่งกำลังของทุกรุ่นเป็นแบบธรรมดา 6 สปีด ขณะที่เกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด จะมีให้เลือกเฉพาะรุ่น X250d เท่านั้น ขณะที่ช่วงกลางปี 2018 จะมีการวางจำหน่ายเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบที่ให้กำลังสูงสุด 258 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 550 นิวตัน-เมตร ในรุ่น X350d ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 7G-TRONIC PLUS และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ 4MATIC แบบถาวร
5.มีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ 4MATIC
Mercedes-Benz X-Class ติดตั้งระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ 4MATIC ที่สามารถเลือกการทำงานได้ทั้งแบบ 2 ล้อ และ 4 ล้อ เหมือนกระบะทั่วไป มาพร้อมระบบล็อคเฟืองท้าย Differential Lock เป็นอ็อพชั่นเสริม และระบบช่วยควบคุมความเร็วขณะลงทางชัน (DSR - Downhill Speed Regulation) เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ขณะที่ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ 4MATIC แบบ Permanent จะมีเฉพาะรุ่น X350d ที่กำลังจะเปิดตัวในอนาคตเท่านั้น
6.ระบบความปลอดภัยเทียบเท่าเก๋งหรู
X-Class ยังคงเน้นความปลอดภัยทุกกระเบียดนิ้วไม่ต่างจากรถเก๋ง ไม่ว่าจะเป็นระบบป้องกันการชน Active Brake Assist, ระบบช่วยประคองรถให้อยู่ในเลน Lane Keeping Assist และระบบอ่านป้ายจราจร Traffic Sign Assist นอกจากนั้น ยังติดตั้งระบบควบคุมเสถียรภาพรถพ่วงท้าย Trailer Stability Assist, ระบบวัดความดันลมยาง, ระบบโทรศัพท์ขอความช่วยเหลือฉุกเฉิน ฯลฯ เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
7.X-Class ไม่ใช่รถเพื่อการพาณิชย์รุ่นแรกของเมอเซเดส-เบนซ์
หลายคนติดภาพลักษณ์ว่า Mercedes-Benz จะมีแต่รถหรูสำหรับผู้ิบริการเท่านั้น แต่ในประเทศแถบยุโรปก็นิยมใช้รถเพื่อการพาณิชย์แท้ๆ จากค่าย Mercedes-Benz เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น Vito, V-Class และ Sprinter รวมถึงรถบรรทุกขนาดกลางอย่าง Unimog และรถบรรทุกขนาดใหญ๋อย่าง Actros เป็นต้น
8.เตรียมส่งออกวางจำหน่ายทั่วโลก
Mercedes-Benz X-Class ไม่เพียงจำหน่ายเฉพาะทวีปยุโรปเท่านั้น แต่ยังมีแผนวางจำหน่ายในออสเตรเลีย, แอฟริกาใต้, และอเมริกาใต้อีกด้วย โดยรถที่วางจำหน่ายในออสเตรเลียและแฟริกาใต้จะถูกผลิตที่โรงงานนิสสัน ประเทศสเปน ส่วนตลาดอเมริกาใตจะถูกผลิตที่โรงงานเรโนลต์ ประเทศอาเจนตินา
ด้านราคาจำหน่าย Mercedes-Benz X-Class 2017 ในประเทศเยอรมนี เริ่มต้นที่ราว 1,450,000 บาท (37,294 ยูโร รวมภาษีเรียบร้อยแล้ว)
อัลบั้มภาพ 41 ภาพ