Hua Hin Recharging Route: อัพเดททุกไลฟ์สไตล์ให้ครบ จบในวันเดียวที่หัวหิน
แม้จะมีชั่วโมงพักผ่อนอันน้อยนิดเพียงวันหยุดสุดสัปดาห์ แต่เราก็สามารถทำให้คุ้มค่าได้ ด้วยการขับรถไปพักผ่อนยังหัวเมืองใกล้กรุงเทพฯ อย่างหัวหิน ถิ่นที่ตอบโจทย์ความชอบในทุกไลฟ์สไตล์แบบครบครัน แค่เลือกพาหนะที่มีสมรรถนะดีๆ อย่าง Toyota VIOS ก็พร้อมแล้วที่จะออกเดินทางแบบเช้าไปเย็นกลับอย่างมั่นใจ
เติมอาหารทะเลเข้าเส้นที่ The Sunday Brunch Club
ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ ตั้งแต่เช้าตรู่ของวันอาทิตย์ ขึ้นทางด่วนมุ่งหน้าไปยังถนนพระราม 2 แม้จะไม่ต้องรีบร้อนอะไรมาก แต่ด้วยความที่ Toyota VIOS คันเก่งมาพร้อมกับเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร และเกียร์ CVT 7 สปีด พร้อม Sequential Shift ทำให้ความรู้สึกในการขับขี่นั้น ทั้งขับสนุก ขับเพลิน และประหยัดน้ำมันด้วยโหมด ECO ที่คอยแสดงผลให้ดู แถมคนขับยิ่งรื่นรมย์กว่าใคร เพราะสามารถเลือกเพลงที่ถูกใจฟังได้ตลอดทาง โดยสามารถคอนโทรลได้เองจากพวงมาลัยที่มีสวิตช์ควบคุมเครื่องเสียงอยู่ ฟังเพลงกันเพลินๆ รู้ตัวอีกทีก็เข้าสู่เขตเมืองชะอำ พอดีกับช่วงเวลาที่ท้องเริ่มหิว จึงเลี้ยวรถเข้าสู่ So Sofitel Hua Hin ทันที เพราะที่นี่มีของอร่อยรออยู่
ตั้งแต่เที่ยงวันยัน 4 โมงเย็นของทุกวันอาทิตย์ ห้องอาหาร Beach Society จัด The Sunday Brunch Club เสิร์ฟบรันช์ชั้นดี ที่ละลานตาด้วยรายการอาหารคาวหวานนานาชนิด ให้ได้อิ่มกันในราคาแค่คนละ 990 บาท ในบรรยากาศริมทะเลสุดชิล ประเดิมรายการแรกด้วย Hot Bucket ซีฟู้ดกุ้ง หอย ปู คลุกเคล้ากับซอสรสเข้มข้น ตามด้วย Truffle Crab Burger เบอร์เกอร์เนื้อปูชิ้นหนากัดเต็มคำ แถมยังสั่งไวน์ เบียร์ หรือเครื่องดื่มแบบ non-alcohol มาจิบได้อีกคนละแก้ว สบายๆ
จิบกาแฟ เติมบุญช่วยสุนัขจรจัด
อิ่มท้องเรียบร้อย ก็ต้องตบด้วยกาแฟและของหวานถึงจะครบสูตร ว่าแล้วก็มุ่งหน้าไปยัง Wagging Tales Café ที่พิเศษกว่าคาเฟ่ใดๆ ในหัวหิน เพราะนอกจากจะเสิร์ฟเครื่องดื่มดี อาหารเด็ด ขนมอร่อยแล้ว รายได้บางส่วนยังนำไปสมทบทุนโครงการช่วยเหลือสุนัขจรจัด Rescue Paws เพื่อช่วยคุมประชากรสุนัข และรักษาดูแลสุขภาพหมาจรจัดแห่งหัวหินไปในตัว สำหรับคนรักสุนัขอาจจะใช้เวลาเล่นกับเจ้านมสด พัมกิ้น และพุดดิ้ง สามทหารเสือประจำร้านที่กระดิกหางต้อนรับแขกทุกคนนานสักหน่อย เลยต้องซื้อเครื่องดื่มติดรถไปจิบระหว่างทางแทน เพื่อรีบทำเวลา เพราะวันนี้ยังมีที่ให้แวะอีกหลายแห่ง
อิ่มอารมณ์ในดงศิลปะ Seenspace Hua Hin
ที่เราต้องรีบขับรถมุ่งหน้ามายัง Seenspace Hua Hin ก็เพราะคอมมูนิตี้มอลล์แห่งนี้มีร้านรวงครบทุกสไตล์ให้หย่อนใจ โดยเฉพาะสาวๆ ที่เป็นแฟนคลับของแบรนด์ “สเร็ทซิส” รับรองว่าต้องกรี๊ดให้กับ Sretsis Mermaid Bar & Shop ที่ตกแต่งร้านได้สดใสสมบรรยากาศริมทะเล มีโซฟาให้นั่งเอนหลังจิบซิกเนเจอร์ค็อกเทลสวยๆ อย่างสบายใจ แล้วค่อยเลือกซื้อเครื่องประดับ Mermaid ดีไซน์พิเศษ เสื้อยืด และผ้าลายพิมพ์ Signature Aloha Mermaid ที่มีขายที่นี่ที่เดียว
ส่วนใครที่อินกับศิลปะ รับรองว่าต้องถูกใจ Virus Space& Cafe พื้นที่สร้างสรรค์ของโลเล – ทวีศักดิ์ ศรีทองดี ศิลปินที่ย้ายมาปักหลักใช้ชีวิตกับครอบครัวในเมืองหัวหิน สเปซแห่งนี้ให้อารมณ์ของการบุกมาจิบกาแฟ อ่านหนังสือ ฟังเพลงในบ้านของศิลปินอย่างแท้จริง
โดยเฉพาะใครที่กำลังเล่นแผ่นเสียง แนะนำว่าต้องถูกใจหนักมากกับ Dr. Doon Studio ร้านขายแผ่นเสียงที่โลเลคัดสรรมาวางขายเองกับมือ โดยมีตัวละครลับอย่างด๊อกเตอร์ดูนปรากฏกายคอยให้คำแนะนำในการเลือกแผ่นเสียงอย่างสนุกสนาน มีเปียโนหลังใหญ่เป็นเวทีแสดงสดสำหรับใครที่อยากโชว์ฝีมือ ก็สามารถบรรเลงได้ทันที เต็มอิ่มในอารมณ์กับแบบนี้รู้ตัวอีกที เราก็พากันช้อปเสื้อผ้า แอ็กเซสเซอรี่ หนังสือ แผ่นเสียง ฯลฯ จุใส่ท้ายรถ Toyota VIOS ขนกลับกรุงเทพฯ แบบเต็มพิกัด
ปิดท้ายก่อนกลับบ้าน ด้วยการไปกินอาหารเช้ากันตอนมื้อเย็นตำรับ Brinner (Breakfast + Dinner) ที่ Skoop Beach Cafe ที่ Veranda Residence Hua Hin รองท้องแบบไม่อิ่มหนักจนเกินไป ด้วย Bacon Wrapped Asparagus Eggs Benedict หน่อไม้ฝรั่งพันด้วยเบคอน เสิร์ฟพร้อม Eggs Benedict เท่านี้ก็มีพลังพร้อมขับรถทางไกลอย่างปลอดภัย และยิ่งมั่นใจหายห่วงด้วยดิสก์เบรก 4 ล้อ ระบบ VSC และ TRC ป้องกันการเกิดอุบัติเหตุเต็มขั้น อีกทั้งเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร ยังทำความเร็วได้ดี กลับถึงบ้าน ล้างหน้า อาบน้ำเย็นๆ ดูซีรีส์อีกสักตอน ยังมีเวลาเหลือ เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จสิ้นกิจกรรมชาร์จแบตชีวิต พร้อมแล้วกับการเริ่มต้นทำงานอย่างสดใสในวันพรุ่งนี้
[Advertorial]